ถาม : ผมว่ากว่าจะได้เกิดเจอพระก็ยากแล้ว ?
ตอบ : สุดแสนจะสาหัสสากรรจ์ อาตมาเคยไปอธิบายให้เขาฟังว่า พระพุทธเจ้าของเรา ปรารถนาโพธิญาณมาตั้งแต่สมัยไหน แล้วไล่ไปทีละองค์ ๆ สี่อสงไขยกับแสนมหากัป กว่าจะมาถึง พระพุทธกัสสป แล้วท่านเองกว่าจะได้ตรัสรู้ไปไล่ให้เขาดู เขาร้องโอ้โฮ…กันทั้งนั้น ช่วงที่สั้นที่สุด ที่มีพระพุทธเจ้าจากกัปนั้นมากัปนี้ ห่างกันหนึ่งอันตรกัปนี่สั้นที่สุด ช่วงที่ยาวที่สุดห่างกันหนึ่งอสงไขยกัป..!
แล้วคุณลองคิดดู ถ้าหากว่าไปเจอช่วงที่ยาวที่สุด ตายหอมตายกระเทียมเลย มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ยาวที่สุด ห่างหนึ่งอสงไขยกัป มีพระพุทธเจ้าองค์เดียว แล้วห่างอีกหนึ่งอสงไขยกัป ถึงจะเจออีกสององค์ ซวยแน่ถ้าไปเจอช่วงอย่างนั้นเข้า ต่อให้โชคดีขนาดไหน เกิดทันขนาดไหน โอกาสพลาดมีสูงมากเลย
ถาม : กิเลสยั่วยวนครับ ชนะยากเหลือเกิน ?
ตอบ : ก็ถึงได้บอกว่า พระพุทธเจ้าเป็นปรากฏการณ์มหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นได้ยาก มีคนเขาถามว่าพระพุทธเจ้ามีความรู้ความสามารถขนาดนั้น สงเคราะห์คนได้ขนาดนั้น ทำไม่ไม่เกิดมาครั้งละหลาย ๆ พระองค์ จะได้ช่วยกัน จริงไหม ?
อันดับแรก ลองคิดดู เวลาสี่อสงไขยกับแสนมหากัป หลักสูตรนี้ผ่านง่ายนักหรือ ?
อันดับที่สอง พระพุทธเจ้าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ พระธรรมเป็นสิ่งมหัศจรรย์ ถ้าหากว่าเกิดมามาก ๆ ก็ไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ ไม่ใช่ของแปลกแล้ว..ใช่ไหม ? หลวงปู่องค์นั้นก็เจอ หลวงพ่อองค์นั้นก็เจอ จะเป็นของแปลกอะไร คนก็จะไม่เห็นคุณค่าของพระพุทธ ของพระธรรม
อันดับสุดท้ายนี้บรรลัยที่สุดเลย บรรดาลูกศิษย์นี่ตีกันแหลกเลย พระพุทธเจ้าของกูเก่งกว่า ของมึงสู้ของกูไม่ได้ รับรองว่าต้องแหลกแน่ จึงกลายเป็นว่าต้องเกิดขึ้นทีละพระองค์เดียว
ปัญหานี้คนถามน่าถูกเตะมากเลย อาตมาก็ไม่คิดว่าจะต้องไปแคะคำตอบมาให้หรอก แหม…น่าเตะจริง ๆ
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕
ที่มา วัดท่าขนุน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น