หลวงปู่มั่น ท่านเคยปรารถนาพุทธภูมิ
(เรื่องเล่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
(บันทึกโดย หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ)
(เรื่องเล่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
(บันทึกโดย หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ)
ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตเป็นผู้มีปฏิปทามักน้อย
สันโดษ ไม่ระคนด้วยหมู่ แสวงหาวิเวก ปรารภความเพียร
ตั้งแต่วันบรรพชาอุปสมบท จนกระทั่งวาระสุดท้ายเรียกว่า
ครบบริบูรณ์ เหมือนกับว่า เมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล ผล คือ
ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ อันนี้เป็นผล
ของความมักน้อย สันโดษ ไม่ระคนด้วยหมู่ แสวงหาวิเวก
ปรารภความเพียร ท่านพระอาจารย์มั่น ทำได้สม่ำเสมอ
ตั้งแต่เบื้องต้นแห่งชีวิต จนกระทั่งบั้นปลายชีวิต
สันโดษ ไม่ระคนด้วยหมู่ แสวงหาวิเวก ปรารภความเพียร
ตั้งแต่วันบรรพชาอุปสมบท จนกระทั่งวาระสุดท้ายเรียกว่า
ครบบริบูรณ์ เหมือนกับว่า เมื่อมีเหตุก็ต้องมีผล ผล คือ
ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ วิมุตติญาณทัสสนะ อันนี้เป็นผล
ของความมักน้อย สันโดษ ไม่ระคนด้วยหมู่ แสวงหาวิเวก
ปรารภความเพียร ท่านพระอาจารย์มั่น ทำได้สม่ำเสมอ
ตั้งแต่เบื้องต้นแห่งชีวิต จนกระทั่งบั้นปลายชีวิต
ธุดงควัตรของท่าน คือบิณฑบาตเป็นวัตร ฉันมื้อเดียวเป็นวัตร
ฉันในบาตรเป็นวัตร ใช้ผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ผู้ที่จะไปถวาย
ถ้าเป็นจีวรสักผืนหนึ่ง ผ้าสบง ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเล็กๆ น้อยๆ
ก็ตาม เรียกว่าผ้าก็แล้วกัน ถ้าจะถวายท่าน เขามักจะไปวางไว้
ที่บันไดบ้าง วางใกล้ๆ กุฏิของท่านบ้าง วางตรงทางเดินไป
ห้องน้ำบ้าง ท่านเห็นก็บังสุกุลเอา บางผืนก็ใช้ บางผืนก็ไม่ได้ใช้
ผู้ไม่รู้อัธยาศัยไปถวายกับมือ ท่านจะไม่ใช้
ฉันในบาตรเป็นวัตร ใช้ผ้าบังสุกุลเป็นวัตร ผู้ที่จะไปถวาย
ถ้าเป็นจีวรสักผืนหนึ่ง ผ้าสบง ผ้าเช็ดหน้า หรือผ้าเล็กๆ น้อยๆ
ก็ตาม เรียกว่าผ้าก็แล้วกัน ถ้าจะถวายท่าน เขามักจะไปวางไว้
ที่บันไดบ้าง วางใกล้ๆ กุฏิของท่านบ้าง วางตรงทางเดินไป
ห้องน้ำบ้าง ท่านเห็นก็บังสุกุลเอา บางผืนก็ใช้ บางผืนก็ไม่ได้ใช้
ผู้ไม่รู้อัธยาศัยไปถวายกับมือ ท่านจะไม่ใช้
ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นพระนักปฏิบัติ เป็นสาวก
ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า โคดม ในยุค ๒,๐๐๐ ปี เป็น
สาวกที่มีลักษณะสมบูรณ์แบบ ด้วยลักษณะภายนอกและ
ภายใน เพราะเหตุนั้นชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์เกียรติคุณ
ของท่าน จึงขจรขจายถึงทุกวันนี้ แทนที่จะเป็น ๖๐ ปีแล้ว
ก็เลือนหายไป กลับเพิ่มขึ้นๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
เพราะบุคลิกของท่านนั้น เป็นบุคลิกที่สมบูรณ์แบบ ในความรู้สึก
ของผู้เล่า ท่านพระอาจารย์มั่น เป็นบุคคลน่าอัศจรรย์ในยุคนี้
ขอให้ท่านสังเกตดูในรูปภาพ คิ้ว คาง หู ตา จมูก มือ และเท้า
ตลอดชีวิตของท่านนั้น ท่านเดินทางข้ามเขาไปไม่รู้กี่ลูก
จนเท้าพอง ไม่ใช่เท้าแดงหรือเท้าเหลือง
ของพระพุทธเจ้าพระนามว่า โคดม ในยุค ๒,๐๐๐ ปี เป็น
สาวกที่มีลักษณะสมบูรณ์แบบ ด้วยลักษณะภายนอกและ
ภายใน เพราะเหตุนั้นชื่อเสียงและเกียรติศักดิ์เกียรติคุณ
ของท่าน จึงขจรขจายถึงทุกวันนี้ แทนที่จะเป็น ๖๐ ปีแล้ว
ก็เลือนหายไป กลับเพิ่มขึ้นๆ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
เพราะบุคลิกของท่านนั้น เป็นบุคลิกที่สมบูรณ์แบบ ในความรู้สึก
ของผู้เล่า ท่านพระอาจารย์มั่น เป็นบุคคลน่าอัศจรรย์ในยุคนี้
ขอให้ท่านสังเกตดูในรูปภาพ คิ้ว คาง หู ตา จมูก มือ และเท้า
ตลอดชีวิตของท่านนั้น ท่านเดินทางข้ามเขาไปไม่รู้กี่ลูก
จนเท้าพอง ไม่ใช่เท้าแดงหรือเท้าเหลือง
คิ้ว ท่านมีไฝตรงระหว่างคิ้ว ลักษณะคล้ายกับพระอุณาโลม
ของพระพุทธเจ้า ไฝอันนี้เป็นจุดดำเล็กๆ ไม่ได้นูนขึ้นมา
มีขนอ่อน ๓ เส้น ไม่ยาวมาก และโค้งหักเป็นตัวอักษร ก
เป็นเส้นละเอียดอ่อนมากถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็น ขณะท่าน
ปลงผมจะปลงขนนี้ออกด้วย แต่จะขึ้นใหม่ในลักษณะเดิมอีก
ใบหูของท่านมีลักษณะหูยาน จมูกโด่ง แววตาของท่าน
ก็เหมือนแววตาไก่ป่า บางคนอาจไม่เคยเห็นไก่ป่า คือ
เป็นวงแหวนในตาดำ มือของท่านนิ้วชี้จะยาวกว่า แล้วไล่
ลงมาจนถึงนิ้วก้อย นิ้วเท้าก็เหมือนกัน
ของพระพุทธเจ้า ไฝอันนี้เป็นจุดดำเล็กๆ ไม่ได้นูนขึ้นมา
มีขนอ่อน ๓ เส้น ไม่ยาวมาก และโค้งหักเป็นตัวอักษร ก
เป็นเส้นละเอียดอ่อนมากถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็น ขณะท่าน
ปลงผมจะปลงขนนี้ออกด้วย แต่จะขึ้นใหม่ในลักษณะเดิมอีก
ใบหูของท่านมีลักษณะหูยาน จมูกโด่ง แววตาของท่าน
ก็เหมือนแววตาไก่ป่า บางคนอาจไม่เคยเห็นไก่ป่า คือ
เป็นวงแหวนในตาดำ มือของท่านนิ้วชี้จะยาวกว่า แล้วไล่
ลงมาจนถึงนิ้วก้อย นิ้วเท้าก็เหมือนกัน
หลวงปู่หล้าท่านก็เคยเล่าว่า เวลาล้างเท้าหลวงปู่มั่น
เห็น ฝ่าเท้าของท่านเป็นลายก้นหอย ๒ อัน และมีรอย
อยู่กลางฝ่าเท้า เหมือนกากบาทเวลาท่านเดินไปไหน
ท่านเดินก่อน สานุศิษย์จะไม่เหยียบรอยท่าน พอท่าน
เดินผ่านไปแล้ว ชาวบ้านจะไปมองดู จะเห็นเป็นลายตาราง
ปรากฏอยู่ทั้งสองฝ่าเท้า
เห็น ฝ่าเท้าของท่านเป็นลายก้นหอย ๒ อัน และมีรอย
อยู่กลางฝ่าเท้า เหมือนกากบาทเวลาท่านเดินไปไหน
ท่านเดินก่อน สานุศิษย์จะไม่เหยียบรอยท่าน พอท่าน
เดินผ่านไปแล้ว ชาวบ้านจะไปมองดู จะเห็นเป็นลายตาราง
ปรากฏอยู่ทั้งสองฝ่าเท้า
รอยนิ้วเท้าก็เป็นก้นหอยเหมือนกัน จะเรียกก้นหอยหรือ
วงจักรก็ได้ มีอันใหญ่กับอันเล็ก ๒ อัน เป็นลักษณะพิเศษ
ของท่าน (หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร วัดป่านาสีดา
อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ได้เล่าเสริมเกี่ยวกับ
เรื่องนี้ว่า ขณะหลวงปู่จันทร์โสมพักอยู่วัดป่าบ้านหนองผือนั้น
ได้ถวายการนวดหลวงปู่มั่น เมื่อท่านหลับแล้ว หลวงปู่ได้พลิก
ดูฝ่ามือของหลวงปู่มั่น พบว่า มีเส้นกากบาทเต็มฝ่ามือ
ทั้งสองข้าง และมือท่านก็นิ่มมาก) บุคคลทุกระดับ เมื่อเข้า
ไปถึงท่านแล้ว ท่านจะเป็นกันเองมาก คุยสนุกสนาน
เหมือนคนรู้จักกันมานาน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าบุคคล
ที่มักจะเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ ท่านจะไม่ค่อยเป็นกันเอง
เท่าไหร่ ถามคำไหนได้คำนั้น ถ้าไม่ถามท่านก็นั่งเฉย
ท่านพระอาจารย์มั่นเคยพูดว่า
วงจักรก็ได้ มีอันใหญ่กับอันเล็ก ๒ อัน เป็นลักษณะพิเศษ
ของท่าน (หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร วัดป่านาสีดา
อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ได้เล่าเสริมเกี่ยวกับ
เรื่องนี้ว่า ขณะหลวงปู่จันทร์โสมพักอยู่วัดป่าบ้านหนองผือนั้น
ได้ถวายการนวดหลวงปู่มั่น เมื่อท่านหลับแล้ว หลวงปู่ได้พลิก
ดูฝ่ามือของหลวงปู่มั่น พบว่า มีเส้นกากบาทเต็มฝ่ามือ
ทั้งสองข้าง และมือท่านก็นิ่มมาก) บุคคลทุกระดับ เมื่อเข้า
ไปถึงท่านแล้ว ท่านจะเป็นกันเองมาก คุยสนุกสนาน
เหมือนคนรู้จักกันมานาน แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าบุคคล
ที่มักจะเอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ ท่านจะไม่ค่อยเป็นกันเอง
เท่าไหร่ ถามคำไหนได้คำนั้น ถ้าไม่ถามท่านก็นั่งเฉย
ท่านพระอาจารย์มั่นเคยพูดว่า
"ผู้ที่จะมาศึกษาธรรมะกับเรา จะเป็นญาติโยมก็ดี หรือ
เป็นพระสงฆ์ก็ดี ขอให้เก็บหอกเก็บดาบไว้ที่บ้านเสียก่อน
อย่านำมาที่นี่ อยากมาปฏิบัติ มาฟังเทศน์ฟังธรรม ถ้านำ
หอกนำดาบมา จะไม่ได้ฟังเทศน์ของพระแก่องค์นี้"
แม้กระทั่งเด็กที่ไม่รู้เดียงสา ป.๒-๓-๔ ท่านก็ทำเป็นเพื่อนได้
ในความรู้สึกของผู้เล่าผู้อยู่ใกล้ชิด เวลาท่านอยู่กับเด็ก
กิริยาของท่านก็เข้ากับเด็กได้ดี เพราะฉะนั้นความโดดเด่น
ของท่าน ใครเข้าไปแล้วกลับออกมาก็อยากเข้าไปอีก
ใครได้ฟังเทศน์ฟังธรรมแล้ว กลับออกมาก็อยากฟังอีก
เป็นพระสงฆ์ก็ดี ขอให้เก็บหอกเก็บดาบไว้ที่บ้านเสียก่อน
อย่านำมาที่นี่ อยากมาปฏิบัติ มาฟังเทศน์ฟังธรรม ถ้านำ
หอกนำดาบมา จะไม่ได้ฟังเทศน์ของพระแก่องค์นี้"
แม้กระทั่งเด็กที่ไม่รู้เดียงสา ป.๒-๓-๔ ท่านก็ทำเป็นเพื่อนได้
ในความรู้สึกของผู้เล่าผู้อยู่ใกล้ชิด เวลาท่านอยู่กับเด็ก
กิริยาของท่านก็เข้ากับเด็กได้ดี เพราะฉะนั้นความโดดเด่น
ของท่าน ใครเข้าไปแล้วกลับออกมาก็อยากเข้าไปอีก
ใครได้ฟังเทศน์ฟังธรรมแล้ว กลับออกมาก็อยากฟังอีก
อันนี้คืออานิสงส์ที่ท่านตั้งปณิธานว่า ข้าพระองค์
ขอปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเหมือนอย่างพระองค์
หลังจากที่ได้ฟังพระพุทธเจ้าเทศนาจนจบ
จึงได้ตั้งปณิธานเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า
คือ องค์สมณโคดมนี้ (ขณะนั้นท่านพระอาจารย์มั่น
เป็นเสนาบดีแห่งแคว้นกุรุ - ภิเนษกรมณ์)
หลังจากนั้นก็เวียนว่ายตายเกิดจนชาติปัจจุบันมาเป็น
ท่านพระอาจารย์มั่น
ขอปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าเหมือนอย่างพระองค์
หลังจากที่ได้ฟังพระพุทธเจ้าเทศนาจนจบ
จึงได้ตั้งปณิธานเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า
คือ องค์สมณโคดมนี้ (ขณะนั้นท่านพระอาจารย์มั่น
เป็นเสนาบดีแห่งแคว้นกุรุ - ภิเนษกรมณ์)
หลังจากนั้นก็เวียนว่ายตายเกิดจนชาติปัจจุบันมาเป็น
ท่านพระอาจารย์มั่น
ทีนี้ทำไมท่านจึงละความปรารถนาพุทธภูมิ
ท่านพิจารณาแล้ว รู้สึกว่าตัวเรานี้ปรารถนาพุทธภูมิ
จึงมาสร้างบารมี ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ เขาคิดอยู่ในใจ
เหมือนกับเรานับไม่ถ้วน ผู้ที่ออกปากแล้วเหมือนกับเรา
ก็นับไม่ถ้วน ผู้ที่ได้รับพระพุทธพยากรณ์แล้วก็นับไม่ถ้วน
และผู้ที่จะมาตรัสรู้ข้างหน้ามีอีกหลายองค์ เช่น
พระศรีอริยเมตไตรย พระเจ้าปเสนทิโกศล กว่าจะถึง
วาระของเรา มันจะอีกนานเท่าไหร่ เราขอรวบรัดตัดตอน
ให้สิ้นกิเลสในภพนี้เสียเลย ท่านพิจารณาเช่นนี้ จึงได้ละ
ความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า
ท่านพิจารณาแล้ว รู้สึกว่าตัวเรานี้ปรารถนาพุทธภูมิ
จึงมาสร้างบารมี ผู้ที่ปรารถนาพุทธภูมิ เขาคิดอยู่ในใจ
เหมือนกับเรานับไม่ถ้วน ผู้ที่ออกปากแล้วเหมือนกับเรา
ก็นับไม่ถ้วน ผู้ที่ได้รับพระพุทธพยากรณ์แล้วก็นับไม่ถ้วน
และผู้ที่จะมาตรัสรู้ข้างหน้ามีอีกหลายองค์ เช่น
พระศรีอริยเมตไตรย พระเจ้าปเสนทิโกศล กว่าจะถึง
วาระของเรา มันจะอีกนานเท่าไหร่ เราขอรวบรัดตัดตอน
ให้สิ้นกิเลสในภพนี้เสียเลย ท่านพิจารณาเช่นนี้ จึงได้ละ
ความปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น