19 กันยายน 2563

พระเทวทัตท่านยังเห็นโทษ

.
เทวทัตท่านรู้ตัวนะ พระเทวทัตท่านรู้ตัว ก่อกรรมก่อเวรกับพระพุทธเจ้ามากี่กัปกี่กัลป์ เวลาวาระสุดท้ายแล้วพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกของโลก เทวทัตก็ตามจองล้างจองผลาญเรื่อยๆ มาจนกระทั่งถึงวาระสุดท้ายพระเทวทัตก็ยอมตัวขอขมาพระพุทธเจ้า นั่นเห็นไหม ผลแห่งการขอขมาของเทวทัตนั้น ท่านตกนรกก็ตกจริง เวลานี้ท่านเสวยทุกข์ของท่าน เพราะการทำชั่วช้าลามกต่อศาสดาองค์เอกก็เป็นโทษถึงขั้นอนันตริยกรรมเต็มเหนี่ยวทุกประเภท ท่านได้ ๒ ตำแหน่ง ตำแหน่งหนึ่งทำลายพระพุทธเจ้า ตำแหน่งที่สองก็ยุยงให้สงฆ์แตกจากกันจากองค์ศาสดา แล้วท่านไปเสวยผลตกนรกอเวจีนี้เป็นเวลานานแสนนาน
.
แต่แม้เช่นนั้นเงื่อนปลายของท่านยังมี ที่จะตัดขาดสะบั้นลงไปในทุกข์ทั้งหลาย พอท่านถวายคางกรรไกร กระดูกคาง เห็นโทษพระพุทธเจ้าแล้วก็มาขอขมา ยังไม่ถึงก็ตาม ท่านขอถวายคางกรรไกร และต่อไปหลังพ้นจากนรกแล้วท่านจะได้มาเกิดเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ชื่อ อัฏฐิสาระ พระพุทธเจ้าทรงแย้มพระโอษฐ์รับ เออ สิ้นละ ทีนี้สิ้นกรรมเทวทัตเรา ถึงวาระที่เสวยกรรมก็เสวยไปก่อน กรรมนี้เป็นของไม่เที่ยงเหมือนกัน มีกฎอนิจจังติดตัวของมัน เมื่อหนักแล้วก็เบาๆ เมื่อมีแล้วก็มีการสิ้นสุดได้ นี้เวลาเธอรับกรรมก็รับไปเสียก่อน พอสิ้นสุดจากกรรมนี้แล้ว กรรมที่เลิศเลอตลอดกาลอนัตตกาลถึงนิพพานก็คือ จะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ชื่อ อัฏฐิสาระ นั้นสิ้นสุดแล้วเรื่องกรรมทั้งหลาย
.
นี่พระเทวทัตท่านยังเห็นโทษนะ เราเป็นลูกชาวพุทธจะไม่ยอมเห็นโทษแห่งกรรมชั่วของตนที่ทำความชั่วช้าลามกแก่คนทั้งชาตินี้ จะเลวกว่าเทวทัตเข้าไปอีก ตกนรกกี่กัปกี่กัลป์เราทราบไม่ได้เราตัดสินไม่ได้ มอบให้กรรมชั่วช้าลามกหนักเบามากน้อยตัดสินของผู้ทำเอง ผู้ทำดีเป็นดีไปทันที ผู้ทำชั่วเป็นชั่วตลอด ทั้งสองประเภทนี้มีผลไม่ยิ่งหย่อนต่างกัน เสมอกันหมด ทุกคนจำเอาไว้นะ

...................................................................

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๔๓

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...