ถ้าต่างคนต่างรักษาศีลห้าครบถ้วน
บ้านเมืองจะมีความสงบสุข
ในหลวงสนทนากับหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง
ในหลวง : บรรดาประชาชนทั้งหลายทุกคน ถ้าต่างคนต่าง
รักษาศีลห้าครบถ้วน บ้านเมืองจะมีความสุข เรื่องศีลห้านี่
เป็นของยาก คนเขาไม่ค่อยจะเห็นคุณเห็นโทษ และโดย
เฉพาะอย่างยิ่ง พระ พระนี่เมื่อมีความผิดแล้ว ก็มีอาบัติเป็น
เครื่องปรับ แต่คนเขาขาดศีลห้า ไม่มีอาบัติเป็นเครื่องปรับ
เป็นของยากที่จะให้คนเห็นโทษเห็นคุณในการรักษาศีลห้า
หลวงพ่อ : หลวงพ่อปานท่านไม่ต้องการให้คนละศีลห้า
หลวงพ่อปานต้องการอย่างเดียว คือ ให้คนละศีล ๒
ในหลวง : (ทรงแย้มพระโอษฐ์แล้วตรัสถาม) ศีล ๒
มีอะไรบ้างขอรับ ?
หลวงพ่อ: ศีล ๒ ที่หลวงพ่อปานต้องการนั่นก็คือ
๑.อทินนาทาน ต้องการให้คนไม่ลักขโมย ไม่คดโกง
ซึ่งกันและกัน ยอมรับนับถือในสิทธิสมบัติซึ่งกันและกัน
๒. หลวงพ่อปานต้องการให้คนละการดื่มสุราและเมรัย
ศีล ๒ ของหลวงพ่อปานนี้มีความสำคัญมาก เพราะในอันดับแรก
ถ้าทุกคนไม่คดโกงซึ่งกันและกันแล้ว สุขมันก็จะมีมากขึ้นมามาก
ทุกคนต่างยอมรับนับถือในสิทธิในสมบัติซึ่งกันและกันแล้ว
อีกประการหนึ่ง ถ้าคนทั้งหลายไม่เสพสุราเมรัย จิตใจก็ทรงสติ
สัมปชัญญะสมบูรณ์ ความเร่าร้อนของประเทศชาติก็จะลด
น้อยลงไป ประเทศชาติจะมีแต่ความเยือกเย็น และเมื่อ ๒ ศีล
ครบถ้วนบริบูรณ์แล้ว ในไม่ช้าอีก ๓ ศีล ก็ครบถ้วนบริบูรณ์
ในหลวง : (ทรงแย้มพระโอษฐ์อีก แล้วค่อยตรัสว่า) เมื่อก่อนนี้
มันยุ่งเหลือเกินขอรับ มันติดอยู่ในวัตถุ ยุ่งมาก แต่เวลานี้สบายใจ
มากแล้ว เพราะไม่ติดในวัตถุ วันนี้ผมมีความสุขใจมาก ผมมีความ
สบายใจมาก...
จากหนังสือเรื่อง "พระเมตตา"
โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง
Cr fb Buddha satthu
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น