01 กันยายน 2563

#จิตทรงฌาน


     คำว่าจิตทรงฌานไม่ใช่ว่าไปนั่งสมาธิทั้งวัน ไอ้นั่นน่ะมันบ้าแล้ว​ ถ้านั่งสมาธิ​ทั้งวันนี่เป็นโรคประสาท เป็นบ้าแน่ #คำว่าสมาธิเขาแปลว่าตั้งใจ #ต้องทำกำลังใจเบาๆ อันดับแรกที่สุดเราจะทำงานทำการต้องทำทุกอย่าง งานอะไรมีขึ้นต้องทำไม่ใช่ทำสมาธิแล้ว ฉันไม่ทำงาน อันนี้ตกนรกแน่ ไม่ช้าความปรารถนาไม่สมหวังเกิดขึ้น ในเมื่อความปรารถนาเกิดขึ้นอารมณ์มันก็ฟุ้งซ่านมีความเดือดร้อน​ เกิดการเดือดร้อนขึ้นมา จิตใจก็เดือดร้อน ลงนรกไปเลย #อย่านึกว่ามีฌานเป็นของดี #ฌานน่ะดีแน่ #แต่ทำให้มันถูก

     คำว่า #ผู้ทรงฌาน แปลว่า #ผู้มีจิตใจปกติ #จะไม่ตกเป็นทาสของนิวรณ์​ อำนาจของนิวรณ์อย่างหนึ่งอย่างใดก็ตามจะไม่ให้มีอำนาจเหนือจิตใจ ยามว่างถ้าเรายังไม่เป็นอรหันต์ ย่อมมีนิวรณ์เข้ากินใจเป็นธรรมดา แต่ถ้าเวลาต้องการฌานเมื่อใด​ นิวรณ์จะต้องกระเด็นออกทันที ถ้ากระเด็นบ่อยๆ ไม่ช้ามันไม่เข้ามายุ่งกับใจ เราทำงานทำการทุกอย่างใจไม่ตกเป็นทาสของนิวรณ์

     อย่าถือว่าทำฌานสมาบัติแล้ว ทำโน่นทำนี่ไม่ได้ ไอ้นั้นล่ะตัวนรกละ ไม่ช้ามานะมันจะเกิด และจะกินที่ไหนล่ะ ไม่ทำตายโหงตายห่าล่ะ มันก็ต้องทำ ทำแล้วจิตใจไม่ตกอยู่ในอำนาจของนิวรณ์เท่านั้น พระอรหันต์ท่านนั่งนิ่งที่ไหนพระพุทธเจ้าท่านไม่นั่งนิ่ง

#ถ้าเราระงับนิวรณ์ได้ #จิตเป็นฌานที่ ๑
#จิตทรงปีติ #ถ้าจิตทรงปีติมันเป็นฌานที่ ๒
#จิตตัดปีติออกเหลือแต่สุข #จิตเป็นฌานที่​ ๓
#จิตตัดสุขออกเหลือแต่เอกัคคต  #อุเบกขาเป็นฌานที่​ ๔

     #ทีนี้เวลาทรงฌานไม่ใช่มานั่งสมาธิ​ทั้ง​วัน​ ทำงานอยู่คุยอยู่กับเพื่อน​ อ่านหนังสือ​อยู่​ ฟังเทป​ ฟังเทศน์​ ดายหญ้าวัด​ ทำงานทุกอย่าง​ หุงข้าวหุงปลา​ ผ่าฟืน​ ดายหญ้า​ จิตสบายใจไม่มีอารมณ์​เป็นอกุศล​ #อย่างนี้เรียกว่าจิตทรงฌาน​ การที่จะรู้ว่าจิตทรงฌาน เราจะรู้กันจริงๆ มันยาก และวิธีวัดนี่ง่าย การที่จะรู้ว่าฌานเราทรงตัวไม่ทรงตัวอาศัย ๑ ในวิชชาสาม หรือว่า​ ๒ ในวิชชาสาม นั่นคือ​ #ทิพจักขุญาณ หรือ​#ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ

  #บุพเพนิวาสานุสสติญาณ #ระลึกชาติได้
 #ทิพจักขุญาณอย่างเข้ม #สามารถรู้เห็นพรหมเทวดาได้อย่างนี้จุดหนึ่ง

    กำลัง #มโนมยิทธิ ที่เราฝึกได้ เราทำได้ เวลาดายหญ้าเวลาขุดดิน เวลาผ่าฟืน เวลาตักน้ำ หุงข้าว ใช้มันเวลานั้นแหละ ลองใช้เวลานั้น เวลาที่กำลังนั่งหุงข้าวอยู่ในครัว เวลาทำอยู่เราก็ใช้ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ นึกปั๊บ..ไอ้งานประเภทที่เราทำอย่างนี้เราทำมาแล้วกี่ชาติ ชาติก่อนๆ เราเคยทำไหม ก็ดูภาพ ภาพมันจะปรากฏทันที อันนี้เรียกว่าเราชนะนิวรณ์ ต้องทำอย่างนี้

    ถ้าไปเจอะหมาขี้เรื้อน ก็นึกว่า ไอ้ภาพอย่างนี้เราเคยเป็นไหม ขอดูภาพ ภาพจะปรากฎทันที โดยไม่ต้องไปใช้กำลังสมาธิให้เสียเวลาแม้แต่ ๑ วินาที มันจะปรากฏกับใจ​ แหม...หลายชาติ ชาติละหลายตัว เราเคยเกิดเป็นหมาขี้เรื้อนมาหลายชาติ เราคุยไปคุยมา นั่งดายหญ้านั่งผ่าฟืน นึกถึงเทวดา เทวดาท่านมีความสุข ก็นึก​ เอ..เราเคยเป็นเทวดา​ มันจะปรากฏทั้งตัวเราเองและวิมานในสมัยที่เป็นเทวดา

     นี่เขาต้องทำอย่างนี้ อย่างนี้ถือว่าถึง
#สังฆัง #สรณังคัจฉามิ นี่อย่างย่อนะ คือการปฏิบัติ #มโนมยิทธิ ต้องทำแบบนี้ ถ้ายังต้องเข้าสมาธิ เครียด ยังใช้ไม่ได้​ เวลาจะตายมันไม่ทันเวลาของนรก เวลาจะตายจริงๆ ไปนั่งขัดสมาธิได้ยังไง มันป่วยไข้ไม่สบาย ต้องใช้กำลังใจเป็นปกติญาณต่างๆ ต้องใช้ให้คล่องคือ ใช้ทุกวันถ้าเราทิ้งไม่ใช้เพียงแค่ ๒ - ๓ วันมันก็มีอารมณ์เฝือ

                     (สองจิต)​

     “หลวงพ่อเจ้าคะ ขณะที่ทำงานอยู่คล้ายๆ ใจมี ๒ จิต​ คือใจหนึ่งก็ทำงาน ใจหนึ่งก็ทำสมาธิพร้อมกัน อย่างนี้จะเรียกว่าขาดสติหรือเปล่าเจ้าคะ”

       อย่างนั้นสติมันสมบูรณ์ เพราะว่าทำงานด้วย จิตก็มีอารมณ์เป็นสมาธิด้วย คือว่าอยากทำสมาธิแล้วทิ้งงานทิ้งหน้าที่ใช้ไม่ได้นะ ให้มีความเข้าใจเสียใหม่ว่า​การทำงานด้วยความระวังด้วยความตั้งใจจริงเฉพาะงานนั้น เป็นการฝึกสมาธิไปในตัว​ แต่ว่าอารมณ์​ของผู้ถามอาจจะเป็นกุศล​ว่าเวลานี้เราทำสมาธิ​ ทำงานแล้วอยากทำจิตให้สงบใช่ไหม​ พอจะทำจิตให้สงบก็เบื่องาน​ อย่าเบื่อนะ

      พระพุทธเจ้าท่านทรงแนะนำ
▪️อะนากุลา​ จะ​ กัมมันตา​ เอตัมมังคะละมุตตะมัง

     การงานดีไม่เลอะเทอะ​ ไม่เกลื่อนกล่น​ คือไม่เสีย  จัดว่าเป็นอุดมมงคล​ การงานที่เราจำเป็นจะต้องทำ​ มันต้องกิน ต้องใช้เวลา ต้องอาศัยงาน​ ต้องพยายาม​ตั้งใจให้ดี​ เวลาที่จิตอยากจะฝึกสมาธิ​ ว่างานที่เราทำหนังสือ​ควรจะเขียนแบบไหน​ ก็ทำให้มันถูกต้องด้วยความตั้งใจ​ นั่นแหละเป็นการฝึกสมาธิ​ไปในตัว​ อารมณ์​นั้นเวลากลับบ้านจิตจะเป็นสมาธิ​ ดีมาก..

🙏🙏พระธรรม​ค​ำ​สอน​หลวงพ่อ​พระราช​พรหมยาน​ วัดจันทาราม​ (ท่าซุง)
ต.น้ำซึม​ อ.เมือง​ จ.อุทัยธานี
🖊️📖หนังสือ​ ธรรมปฏิบัติ​ ๓๙​ หน้าที่​ ๕๕~๕๙

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...