พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถึงเรื่องการ เกิดเป็นขอทาน ไว้ว่า ในกรุงสาวัตถีมีเศรษฐีคนหนึ่งมีชื่อว่า “อานนทเศรษฐี” ซึ่งมีบุตรชื่อว่า “มูลสิริ” เศรษฐีคนนี้เป็นคนที่ร่ำรวยมาก เขามักสอนบุตรชายของตนว่า “เจ้าจงทำให้ทรัพย์เพิ่มพูน และห้ามยกทรัพย์ให้ใคร” ซึ่งครอบคลุมไปถึงเรื่องการทำบุญทำทานอีกด้วย
อานนทเศรษฐีมีขุมทรัพย์ถึง 5 แห่ง แต่กลับไม่บอกใครเลยแม้กระทั่งบุตรชายที่ตนไว้วางใจให้สืบทอดการค้าต่อจากตน จนกระทั่งสิ้นบุญลงก็ไปเกิดในท้องของนางจัณฑาลคนหนึ่ง จากนั้นพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงแต่งตั้งให้มูลสิริเป็นเศรษฐีต่อจากอานนทเศรษฐี
เมื่ออานนทเศรษฐีปฏิสนธิในท้องของหญิงจัณฑาล ทำให้สามีและคนในครอบครัวไม่มีใครจ้างทำงาน แถมยังไม่ได้รับทานแม้ข้าวสักหนึ่งก้อน ทำให้ทุกคนลงความเห็นว่านางและลูกในท้องเป็นกาลกิณีจึงขับไล่ออกไป
เมื่อนางจัณฑาลต้องอดทนอุ้มท้องอย่างยากลำบาก เมื่อคลอดลูกน้อยออกมาเด็กน้อยก็มีรูปลักษณ์ที่น่าเกลียดน่ากลัวเหมือนภูตผีที่ตัวเต็มไปด้วยฝุ่น แม้ลูกน้อยของนางจะน่าเกลียดน่ากลัวอย่างไรนางก็ไม่ทอดทิ้ง แต่วิบากกรรมที่เป็นคนตระหนี่มาแต่อดีตชาติส่งผลให้ถ้าหญิงจัณฑาลพาลูกไปทำงานด้วยจะไม่มีใครจ้างนาง แม้ข้าวสักหนึ่งก้อนก็ไม่ตกถึงท้อง หากนางไม่พาลูกมาด้วย นางกลับมีงานเข้ามาและได้รับทานกินจนอิ่มท้อง
เมื่อเด็กน้อยโตขึ้นพอที่จะเดินได้แล้ว หญิงจัณฑาลได้มอบจานกระเบื้องใบหนึ่งแก่ลูกและบอกว่าให้ใช้จานใบนี้รับทานจากโรงทานที่ตั้งอยู่ในกรุงสาวัตถี หรือจากผู้ที่อยากให้ทาน
เด็กน้อยจึงยึดอาชีพเป็นขอทานและมุ่งหน้าสู่กรุงสาวัตถี เมื่อเดินผ่านเรือนของมูลสิริเศรษฐีก็จำได้ว่าตนเคยเป็นเจ้าของเรือนนี้เมื่อในอดีตชาติ เมื่อบุตรของอานนทเศรษฐีเห็นเด็กน้อยก็พากันร้องไห้ด้วยความกลัว และขับไล่เด็กน้อยออกไปให้พ้นเรือน
พระผู้มีพระภาคเจ้ากำลังบิณฑบาตพร้อมด้วยพระอานนท์ พระองค์ทอดพระเนตรเหตุการณ์ทั้งหมด ทั้งยังทรงเห็นด้วยพระญาณว่าเด็กน้อยคนนี้คืออานนทเศรษฐีผู้ขี้ตระหนี่กลับชาติมาเกิด พระองค์ทรงให้พระอานนท์ไปตามมูลสิริเศรษฐีออกมาจากเรือน
เมื่อมูลสิริเศรษฐีมาถึงเบื้องพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทูลถามว่า “พระสมณโคดมให้ข้าพเจ้าลงมาจากเรือนด้วยเรื่องอะไร” พระพุทธองค์ตรัสว่า “ท่านรู้จักเด็กน้อยผู้นี้หรือไม่” มูลสิริเศรษฐีตอบว่า “ไม่รู้จักพระเจ้าข้า” พระพุทธองค์ตรัสต่อว่า “เด็กน้อยผู้นี้คือบิดาของท่านที่กลับชาติมาเกิด” มูลสิริเศรษฐีถึงกับอึ้งไป
พระพุทธองค์กล่าวว่า “ข้อพิสูจน์มีเพียงเรื่องขุมทรัพย์ทั้ง 5 แห่งที่อานนทเศรษฐีไม่ได้บอกแก่ใครเลยจนกระทั่งเขาได้สิ้นลมลง จริงหรือไม่ท่านอานนทเศรษฐี” เด็กน้อยพยักหน้าและได้บอกขุมทรัพย์ทั้ง 5 ว่าอยู่ที่ใดบ้าง มูลสิริเศรษฐีได้ตามไปดูก็พบขุมทรัพย์จริงตามที่เด็กน้อยบอก หลังจากนั้นมูลสิริเศรษฐีจึงขอพึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะและทำทานสร้างกุศลจนกว่าชีวิตจะหาไม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น