14 ตุลาคม 2564

หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ”หน่อพุทธางค์กูร


                   ภาค ๓ ภาพกวางทอง .. 
๑๔ ต.ค.๖๔
     

ขณะหลวงปู่ได้เมตตาเล่าเรื่องในอดีตของที่ให้ลูกศิษย์ฟัง ว่าชาติหนึ่งหลวงปู่เคยเกิดเป็นกวางทองโพธิสัตว์ ถูกนางยักษ์ สาป ที่ขัดขืนไม่ยอมเป็นสามีนาง ให้กลายเป็นกวางทอง และเป็นอยู่ได้ ๗ วัน ร่างกวางทองก็คืนสภาพเป็นร่างคนดังเดิม .

 ขณะที่ท่านเล่าอยู่นั้นได้มีลูกศิษย์คนหนึ่งได้ถ่ายภาพหลวงปู่ เมื่อล้างออกมาปรากฏเป็นรูปกวางทอง หลวงปู่บอกว่า แค่รูปกวางทองก็เหลือกินแล้ว (ให้ดูแสงตรงศรีษะหลวงปู่ คือมงกุฎของกษัตริย์ )..เป็นชาติ๑ใน๑๐ชาติปรมัตถบารมี
 
    สมัยที่หลวงปู่ทองทิพย์มีชีวิตอยู่ มีพระองค์หนึ่งออกท้วมผิวคล้ำ ๆ ในจีวรที่ขาด ๆ ปะแล้วปะอีก สะพายถุงปุ๋ย หมอบคลานเข้ามาแสดงกิริยาอันนอบน้อม กราบหลวงปู่ด้วยความเคารพ และยังบีบนวดมือและเท้าให้หลวงปู่อีกด้วย หลังจากที่พระรูปนั้นกลับไปแล้ว หลวงปู่จึงบอกว่า นั้นแหละปู่เณรคำ เพิ่น(ท่าน)มาจากภูเขาควาย  
  
เรื่องปู่เณรคำ ท่านเป็นเณรจริง ๆ เป็นเณรอภิญญา ท่านอยู่ที่ภูเขาควาย(อีกมิติ) ท่านจะไปมาไม่ซ้ำแบบ บ้างก็มาแบบเห็นตัวตน บ้างก็มารูปลักษณ์อื่น ๆ เวลาที่ท่านมาจะนั่งข้างล่างต่ำกว่าหลวงปู่ทุกครั้ง  
บางท่านว่า ปู่เณรคำ จากภูเขาควาย คือ หลวงปู่เณรคํา วัดภูกำพล้า จ.มุกดาหาร หรือ หลวงปู่คำน้อย มรณภาพ พ.ศ.2548 เมื่ออายุ 238-300 ปี (เกิดในรัชกาลที่ 1 ..เป็นคนละองค์.ที่อยู่ในคุกนะ)..

หลวงปู่คำน้อยเล่าว่า เมื่อท่านอายุครบ 120 ปีครั้งหนึ่ง จะมีฟันชุดใหม่ งอกขึ้นมาครั้งหนึง นี่ก็งอกขึ้นมาครั้งที่ 2 แล้ว เล็บก็งอกใหม่ 

 หลวงปู่คำน้อย พูดถึง “พระธาตุพระสีวลี” ที่เราเห็นเป็นลักษณะคล้าย”ลูกยอมีหินปูน” ด้วย อำนาจพระบารมีแห่งพระสีวลีเถระเจ้า ได้ทำให้บังเกิดเป็น”ธาตุพระสีวลี จำลอง” เพื่อสงเคราะห์มนุษย์ **โดยพระธาตุพระสีวลีนี้ มีบารมีเหมือนพระธาตุพระสีวลีจริงทุกประการ เพราะเกิดจากบารมีของพระสีวลีเถระเจ้า ..*โดยพระแม่ธรณีเป็นผู้สร้าง คือผู้อาราธนาพระบารมีไห้นั่นเอง 

...ความต่าง พระธาตุพระสีวลีจริงๆ . เพียงมีไว้กับตัว ทุกอย่างจะคล่องตัวหมด มีคนเมตตา ส่วน พระธาตุสีวลีจำลอง คนนั้นต้องศรัทธาเคารพและนับถือพระสีวลีโดยตั้งมั่นแล้ว  

  หลวงปู่ทองทิพย์ ท่าน จะพูดถึง พระที่มีบารมีแก่กล้า ให้ลูกศิษย์ฟัง" เช่น หลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่พิบูลย์ วัดพระแท่นบ้านแดง จ.อุดรธานี และ หลวงปู่สีทัตถ์ หลวงปู่ทองทิพย์เล่าว่า พ่อแม่สีทัตถ์ท่านเป็นพระโพธิ์สัตว์ จะเป็นพระพุทธเจ้า ๑ ใน ๑๐ องค์ข้างหน้า หลวงปู่ว่าอดีตหลวงปู่สีทตถ์ท่านคือ “อสุรินทราหูโพธิสัตว์”

หลวงปู่ทองทิพย์ กับ หลวงปู่สรวง(เทวดาเล่นดิน) .. ท่านสร้างบารมีมาด้วยกันนานหลายร้อยปี หลวงปู่สรวงท่านมาหา และถวายเขี้ยวเสือ ให้กับหลวงปู่ทองทิพย์   

หลวงปู่พูดถึง พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน จะพูดถึงพระดีที่น่ากราบไหว้ ส่วนฆาราวาส คือ "ปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์" ผู้สร้าง "อาศรมแก้วกู่"  
ปู่เหลือ เป็น...นักพรต ผู้ทรงศีล ถือศีล เคร่งวิปัสสนา ... ร่างไม่ได้เปื่อยเน่า และสานุศิษย์บอกว่า เส้นผมของปู่เหลือ จะเป็นสีดำ และเป็นสีขาว สลับสับเปลี่ยน แบบนี้อยู่เรื่อยๆ  

ในวันหนึ่งที่หลวงป๋า เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสด อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้ขึ้นไปกราบหลวงปู่ทองทิพย์เป็นครั้งแรก เมื่อเข้าไปถึงวัดก็ปรากฏว่าหลวงปู่ทองทิพย์ท่านนั่งรออยู่แล้ว พอหลวงป๋าท่านเข้าไปกราบ หลวงปู่ทองทิพย์ก็พูดขึ้นให้ได้ยินทั่วกันว่า

"อ้าว พระสุมังคละมาแล้ว" (พระพุทธเจ้าองค์ที่ 10 ที่มีพระนามว่า "พระสุมังคละพุทธเจ้า" ) นั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...