26 ตุลาคม 2564

การบำเพ็ญ..เพื่อนิพพาน

  ผู้ต้องการนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้   ต้องรู้ว่าในกายเนื้อ ยังมีกายทิพย์หลายๆกาย ซ้อนกันอยู่  เราจะต้องบำเพ็ญจนได้กายอรหันต์ทุกกาย  เแล้วรวมกายกันเป็นกายอรหันต์ หรือ “กายวิสุทธิเทพ” หรือไม่ต้องรวมกาย แต่บำเพ็ญทุกกาย ให้เป็นกายอรหันต์  

  ในกายเรา  อาจมีกายทิพย์อื่นๆ  ทั้งเทพเทวดา อสูรกาย มาร สัตว์เดรัจฉาน เปรต ที่มาอาศัยขันธ์ห้าร่วมกับเราเพื่อบำเพ็ญ   ถ้าเรามีกรรมเกี่ยวพันกัน ครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้า มีเปรตตนหนึ่งมาอาศัยอยู่ในกายข้าพเจ้า(วิญญาณ)..ซึ่งไม่ใช่จิตข้าพเจ้าเอง..เมื่อคนตาดีมองเข้าไป จึงเห็นว่า..ข้าพเจ้ามีกายเป็นเปรต..

 
ให้ดูในปัจจุบันนี้  ถ้าเรา เป็นคน มีมานะถือตัว ชอบแข่งขันทำดี ให้คนอื่นเชิดชู ชอบเป็นหนึ่ง และอิจฉาคนที่ทำดีกว่า  แสดงว่า เป็นคนมีมีสักกายทิฐิ สูง มีมิจฉาทิฐิ  เป็นจิตมาร  กายในจึงยังมี”กายมาร”ครอบอยู่..จึงต้องสลายกายมารนี้   ด้วยทำจิตเมตตา ให้อภัย และอ่อนน้อม    

 
หากจิตมีความบ้าฤทธิ์ บ้าเดช  หลงบ้าไสยศาสตร์ โมโหร้าย เจ้าแค้น นั่นคือจิตอสูร   กายในบางกาย จึงเป็นกายอสูร  กายยักษ์ฝ่ายร้าย    มีจิตมิจฉามาก จะต้องสลายกายอสูร  ด้วยการวิปัสสนา กายานุสติ
 
หากจิตมี ความตระหนี่ถี่เหนียว จะมี”กายเปรต”ซ้อนอยู่ ต้องแก้ด้วยการให้ทาน ให้ความรู้สึกดีๆค่อ คน สัตว์   หาก   ขาดศีลห้า  ไม่เกรงกลัวบาป จะมี”สัตว์นรก” ซ้อนอยู่   ให้แก้ไขด้วยการตั้งใจรักษาศีล 
 
หากจิตชอบทำร้าย ฆ่าสัตว์ ชนิดนั้นบ่อยๆ จะมีกายใน เป็นสัตว์เดรัจฉานชนิดนั้น เช่นฆ่หมู ควาย กายในจะเป็น กายควาย กายหมู  ให้แก้ด้วยการ ทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์ประเภทนั้นๆ แล้วอุทิศบุญเจาะจงไปให้

อนึ่ง กายทิพย์เหล่านี้ ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป สลายไปได้ หรือ จุติไป  อยู่ที่การกระทำของเรา ในปัจจุบันนี้ ว่ามี การ สลาย โลภ โกรธ หลง แค่ไหน และ บำเพ็ญบารมีแบบไหน

กายในของเรา  เป็นกายซ้อนๆกัน  เป็นการ แสดงสภาวะจิตของเราในแต่ละขณะ ที่เกิดจากอวิชชา ทำให้เราสร้างกรรมทับซ้อนไปมา  กายในสามารถเปลี่ยนแปลงได้เรื่อยๆ ..เหมือนเราใส่เสื้อหลายตัว หลายชั้น อยู่ที่ว่า เสื้อตัวไหนจะเด่นชัดที่สุดในตอนนี้  กายในจะแสดงถึงกรรมของเราที่แสดงมาในช่วงเวลานั้น.. เกิดจากผลกรรมมากมายในอดีตชาติ จนถึงปัจจุบัน ของเราเอง   

 เมื่อบำเพ็ญบารมี จน โลภ โกรธ หลง หมดไป จะสลายกายทั้งหมดที่ซ้อนๆกันอยู่ สลายกรรม ตัดภพตัดชาติ   จนเหลือแต่ “กายอรหันต์” ที่อยู่ชั้นในสุด ..เป็นกายที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดกาล เรียก”กายวิสุทธิเทพ” หรือ จะไม่มีกายเลยก็ได้ 

    จะ มี หรือ ไม่มี     หาได้มีความแตกต่างกันไม่ เพราะจิตดวงนั้น อยู่เหนือคำว่า มี และ ไม่มี  ไปแล้ว  เป็นดวงจิตที่อิสระล้วน.. สิ่งไหนควรสงเคราะห์ก็สงเคราะห์ จะปรากฏเป็นกายทิพย์พิเศษให้เห็น เพื่อสอนธรรมก็ได้..พลังแห่งพุทธะ หาได้หายไปไหนไม่

ที่มา 
มโนธาตุ  โพธิญาณ

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...