ฉันเลยถามว่า
"ลุง!...วันนี้หนุ่มเหมือนเด็กอายุ ๑๘"
ตามธรรมดาเทวดาหรือพรหมเขาไม่แก่ ท่านบอกว่า
"วันนี้ผมปลอดภาระนรกการครับ"
รู้จักนรกการไหม อย่างคนรับราชการ ท่านบอก
"วันนี้หยุดราชการ"
ที่นั่นเขาปลอดนรกการ
ถามว่า "ลุงปลอดกี่วันล่ะ?"
ท่านบอก "ปลอด ๓ วัน คือวันขึ้น ๑๔ ค่ำ
ขึ้น ๑๕ ค่ำ กับแรม ๑ ค่ำ
ก็เลยถามว่า
"ปีหนึ่งมีการปลอดกี่ครั้ง ?"
ท่านบอก "๔ ครั้ง"
"วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา
วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา"
หมายความว่าใน ๔ จุดไม่มีการสอบสวนกัน
ก็ถามท่านว่า
"ถ้าลุงไม่มีการสอบสวนก็แสดงว่าผู้ที่ตายยังเรียกว่า
สัตว์นรกไม่ได้นะเพราะเขายังไม่แน่ว่าผิดหรือไม่ผิด
ฉะนั้น ผู้ที่รอการสอบสวน ลุง..เขาปล่อยเป็นอิสระใช่ไหม ?"
ท่านบอกว่า
"ใช้คำว่าปล่อยไม่ถูกเพราะทุกคนเขาเป็นอิสระหมด
ไม่ถือว่าเป็นนักโทษ แต่ว่าเท่าที่เขาไปรวมอยู่ที่นั่น
เขาทราบว่าจะมีคนสักคนหนึ่งคอยช่วยเหลือเขาไม่ให้
ลงนรก เขาไปรอการสอบสวน เราไม่สอบสวนเขาก็ไป
ตามเรื่องของเขา ไปหาญาติๆ
ก็เลยถามว่า
"ในขณะที่เขาออกมาได้อย่างนั้น และถ้าญาติเขาจะ
บำเพ็ญกุศลให้จะได้ไหม?"
ท่านก็บอกว่า
"ถ้าญาติฉลาดทุกคนได้หมด และก็ไม่ต้องลงนรก"
ถามว่า "ทำยังไง"
ท่านบอกว่า
"ทำบุญอุทิศเฉพาะ ออกชื่อตรงคนนั้นเลย แต่มันก็ไม่แน่นัก
บางทีบาปหนา บางทีไม่ได้รับ"
ท่านบอกให้ฝาก "พระยายม" ว่า "การอุทิศส่วนกุศล
คราวนี้ ถ้าบุคคลนั้นไม่ได้รับ ขอฝากพระยายมไว้ด้วย ถ้าพบ
คนนี้เมื่อไร ขอบอกให้เขาโมทนาทันที"
อันนี้ถ้าเขาผ่านสำนักผม ผมจะบอกให้เขาโมทนาทันที
เรื่องก็จบเท่านี้
ที่มา
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
จากหนังสือ "ธัมมวิโมกข์" ปีที่ ๓๒ ฉบับที่ ๓๖๕
เดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๔
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น