มีคน ถามเรื่องพระศรีอริยเมตตรัยเป็นใคร ท่านก็มักจะตอบว่า
“พระศรีเป็นใครนะหรือ ……..ไอ้ที่เหาะมาได้ก็มิใช่พระศรี ..ไอ้ที่บินมาได้ก็มิใช่พระศรี ..ไอ้ที่ขี่ม้ากาบกล้วยแล้วเหาะได้ก็ไม่ใช่พระศรี ..ไอ้พวกที่สามารถเดินบนปลายเข็มนับหมื่นเล่มได้ก็ไม่ใช่พระศรี ...ไอ้พวกที่มันยืนบนปลายหอกปลายดาบได้ก็ไม่ใช่พระศรี... ไม่ว่าจะเป็นใครจะมีฤทธิ์มีอำนาจมากแค่ไหนก็ไม่ใช่พระศรี…….. “พระศรีเกิดแล้ว” แต่ในขณะนี้นั้นท่านยังไม่รู้ตัวรู้ตนของท่านเลย เพราะท่านเป็นคนธรรมดาสามัญ ซึ่งกำลังสร้างสมบุญบารมีเยี่ยงโพธิสัตว์เท่านั้น”
หลวงปู่ เล่าเรื่อง พระศรีอาริยเมตไตรย์ ที่นอกเหนือตำราไปอีกว่า
“..พระศรีอาริยเมตไตร คือ หน่อบรมครู มีศาสนาอันเรียงงาม เพรียงงามทุกชาติหรือภาษา ใบหน้าใบตาเสมอกัน อันอยู่คนยุคนั้นอยู่ในเครื่องทิพย์ ไม่มีรถแล่น ไม่มีงาน บันดาลด้วยเครื่องทิพย์ ชนโลกทั้งหลายทั้งปวงอยู่ในวัย ๘ หมื่นปี เจริญไปเป็นแสนๆ ปี หรือล้านๆ ปี ตลอดถึงอสงไขยตายไม่เป็น หรือต่อจนกว่ามนุษย์อยากตาย เทวดาผู้วิเศษหรือจะมาย่นย่ออายุของหมู่สัตว์นั้นให้ตกอยู่ให้เขาได้อยู่ ๘ หมื่นปี เขาเลือกเอาตามใจชอบ
ณ ยุคนั้นชื่อว่าเป็นยุคที่ ที่มีเมตตาธรรมต่อกันและกัน ซึ่งสัตว์ทั้งหลายไม่เบียดเบียนกัน คนทั้งหลายก็ไม่ศัตรูกัน สามีก็รักภรรยา ไม่นอกใจ ภรรยาก็รักสามีดังนี้ เป็นยุคของพระศรี ฯ หรืออาริยเมตไตรย์ลงมาเลี่ยงลัดตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่ในเมืองเกตุมดีมหานคร
... มีพระเจ้าสังขรจักร อยู่ในราชสมบัติแก้ว ๗ ประการ อยู่วิมานทองคำ อยู่ในอำนาจของสุพรหมพราหมณ์ เพราะยุคนั้นสมัยนั้นเขาจะยกพราหมณ์เป็นใหญ่ คือสุพรหมพราหมณ์เป็นพุทธบิดา สุพรหมพราหมณี พราหมณีอันเป็นเป็นพุทธมารดา อันเป็นแม่ของพระศรีอาริยเมตไตรย์โพธิสัตว์จุติ
...โดยเหล่า เทวดาอินทร์พรหมหมื่นโลกธาตุไปอาราธนาโพธิสัตว์(พระศรีย์)มาตรัส พระองค์ที่เกิดมาอยู่ในวัย ๒ หมื่นปี ๒ หมื่น ๒๕ ปี ครองราชสมบัติ แต่งอายุ ๑๖ ปี กับนางจันทมุกขี ได้ลูกชายชื่อว่า”ท้าวสาลีราช “ดังนั้นออกมา ณ วันนั้นก็เสด็จหนีไปสู่อภิเนษกรมณ์บรรพชา
...แม้สรรพสัตว์ทั้งหลาย มีพระเจ้าสังขรจักรหรือประชาชน พระวงศานุวงศ์ ญาติๆ ทั้งหลาย ทั้งภรรยา ทั้งบุตรที่คลอดวันนั้น สาลีราชก็เสด็จตาม ไปบรรพชา อธิษฐานเป็นสมณเพศ พระองค์ตัดเมาลี(มวยผม)อธิษฐาน แล้วพระอินทราเทวราช จึงเอาไปบรรจุเป็นธาตุจุฬามณีเช่นกัน
...แล้วก็พระองค์ทำความเพียรอยู่ ๗ วันเท่านั้น พระยามารยกทัพมา แต่ไม่มาใกล้ได้ จึงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศเป็นพระพุทธเจ้า เหล่า เทวดาอินทร์พรหมก็มาอาราธนาให้พระสัทธรรมเทศนา คือพระธัมจักกัปวัตนสูตรแก่พระวงศานุวงศ์ พร้อมทั้งอินทร์ทั้งพรหมได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ขีณาสาวก มีฤทธาจักสันดาน ณ การวันนั้นฉันใด เป็นเช่นนี้
...เพราะฉะนั้นคุณงามความดี ศรีอาริยเมตไตรย์แม้อยู่ขอบฟ้าจักรวาลพระองค์ใดก็ตาม ที่เป็นโพธิสัตว์ เพื่อนพี่น้องครองไปกันซึ่งกัน พระราโมพุทโธ- ธรรมราช –ธรรมสามี - นารทะพุทธรังสีมุนี -พระเทวะเทโว – พระนรสีห์ – พระติสสะ – พระสุมังคละ ทั้ง ๑๐ พระองค์ แม้บารมีพระองค์นั้นๆ ที่เป็นสังขารหรือไม่เป็นสังขารอยู่ที่ไหน อยู่ภูมิที่รักษาเกียรติหรือในการบารมีของพระองค์นั้นๆ ส่งมาถึงท่าน ณ ที่นี้
..เพื่อให้คุณงามความดี เพื่อกุลบุตรหรือสานุศิษย์ ลูกหลานทั้งหลายผู้ที่มีผลงานประพฤติปฏิบัติหรือติดตามมาในชาติอดีตปัจจุบันนี้ก็ตาม ขอให้ได้รับผลประโยชน์ คือจตุพร ๔ ประการ ๑ อายุ ๒ วรรณะ ๓ สุขะ ๔ พละ จงเกิดมีทุกทิพาราตรี ณ สาธุ สาธุ
(หลวงปู่ให้พร) : อิจฉิตัง ปัตถิตัง ตุมหัง …สัพพีติโย… อายุ วัณโณ สุขัง พะลัง
ที่มา
มโนธาตุ โพธิญาณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น