โยม : หลวงปู่ครับ ทำยังไงผมถึงจะรวย วันนี้ซื้อหวยก็ไม่ถูก หลวงปู่ช่วยโปรดลูกโปรดหลานบ้างเถอะครับเผื่องวดหน้าลูกจะมีโชค
หลวงปู่ : อยากรวยต้องเอาคาถาไปท่อง
"อุ อา กะ สะ" นี่คาถาหัวใจเศษฐี
โยม : แค่คาถาสั้นๆ จะได้ผลหรือครับผม หลวงปู่
หลวงปู่ : เอาแบบยาวๆก็มี "อุฏฐานสัมปทา อารักขสัมปทา กัลยาณมิตตตา สมชีวิตา" จำได้ไหม จำไม่ได้หาอะไรมาจด
โยม : แล้วต้องท่องตอน ไหนบ้างครับ คาถานี้มีข้อห้ามรึเปล่าครับหลวงปู่
หลวงปู่ : ต้องท่องตลอด และต้องเข้าใจด้วย ว่า
อุฏฐานสัมปทา แปลว่า ขยันหา
อารักขสัมปทา แปลว่า รักษาทรัพย์
กัลยาณมิตตตา แปลว่า คบคนดี
สมชีวิตา แปลว่า รู้จักใช้เงินใช้ทองให้เหมาะสมกับฐานะตัวเอง ไม่ฟุ่มไม่เฟือย ให้รู้จักพอ
ส่วนข้อห้าม
ห้ามอยากได้ของคนอื่น
ห้ามเอาคนอื่นมาเปรียบเทียบกับตัวเอง
ห้ามเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
เงินเขาแสนล้านก็ไม่สู้เงินเราบาทเดียวเพราะเราไปใช้ของเขาไม่ได้
ข้อสำคัญ คุณจะจนหรือจะรวย ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณยังอยากได้อีกเท่าไหร่ถึงจะรวย คุณมีแสนล้าน คุณอยากได้อีกแสนล้าน คุณก็จนแสนล้าน คุณมีหนึ่งร้อย คุณไม่ขาด คุณไม่อยาก คุณก็รวย
คุณว่าต้องมีเงินแสนล้านหรือจึงจะเรียกว่ารวย หรือต้องมีบ้านหลังสวย รถคันงาม เงินเต็มธนาคาร จึงจะเรียกว่ารวย ถ้าคุณอยากได้ทุกอย่างแล้วมันได้ตามคุณปรารถนาทุกอย่างไป คุณว่าโลกใบนี้ทั้งใบจะพอบรรจุสิ่งที่คุณอยากได้หรือเปล่าหล่ะ
โลกใบนี้ไม่ได้มีไว้สำหรับคนอยาก แต่มีไว้สำหรับคนพอ ประเทศไทยมีแต่อำเภอพล (จังหวัดขอนแก่น) แต่ไม่มีอำเภอพอ อำเภอพออยู่ไหน ก็อยู่ที่อำเภอใจ นั้นไง ทำใจให้เป็นอำเภอพอ พอหน่ะมันเพียง (คำว่าเพียงในภาษาอีสานแปลว่าเต็มพอดีหรือเสมอขอบปาก)
ไม่พอหน่ะมันล้น ให้พอใจ มีข้าวกิน มีดินอยู่ มันก็พอ มันก็รวย จนอยู่ที่อยาก รวยอยู่ที่พอ ไม่อยากก็ไม่ยาก ไม่ยากก็ไม่จน ยิ่งอดยิ่งอยาก ยิ่งยากก็ยิ่งจน คุณพอใจในทรัพย์ ที่มีอยู่ คุณก็รวย คุณพอเดี๋ยวนี้คุณก็รวยเดี๋ยวนี้ คุณพอพรุ่งนี้คุณก็รวยพรุ่งนี้
พวกเรามาอาศัยโลกอาศัยธรรมชาติ เรามาอาศัยเขาอยู่ชั่วครั้งชั่วคราว แล้วก็มาตู่ว่าเป็นของเรา เป็นสมบัติของเรา ลืมจนลืมตาย พอตายก็ต้องคืนเขา
คืนให้โลก คืนให้ธรรมชาติ คืนเจ้าของเดิม เจ้าของที่แท้จริง ไปดิ้นรนไปขวนขวาย สาวเอาสาวเอา ก็ว่าตนมั่งตนมี ไปอวดมั่งอวดมีกับทรัพย์ของเขา มีนี่ก็จะเอานั้น มีนั้นก็จะเอาโน้น ไม่รู้จักพอก็เลยมีแต่อยาก ไม่รู้จักรวย ให้รู้จักพอ พอเมื่อไหร่คุณก็รวยเมื่อนั้น เข้าใจนะ
ที่มา
โอวาทธรรม หลวงปู่หา สุภโร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น