#เคยมีท่านเจ้าคุณรูปหนึ่งถามท่านพ่อลีว่า
“ในเมื่อเป็นพระกรรมฐาน ดำเนินในปฏิปทาของ “ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต” แล้ว ทำไมท่านจึงชอบนำพาเหล่าบรรดาญาติโยม จัดงานบุญงานกุศลสร้างพระอยู่เป็นประจำ ไม่มุ่งเน้นพาเหล่าบรรดาญาติโยมให้ปฏิบัติภาวนาล่ะ?”
ท่านพ่อลีท่านก็ตอบท่านเจ้าคุณรูปนั้นว่า
เกล้ากระผม ทำนาไม่ได้เอา
“ข้าว” อย่างเดียว (มรรคผล)
“แกลบ” ผมก็เอา (เนกขัมมบารมี)
“รำ” ผมก็เอา (บุญกุศล)
“ฟาง” ผมก็เอาขอรับ (นิสัยวาสนา)
หมายเหตุ : เพราะในบุคคลทั้งหลายย่อมมีนิสัยวาสนาและบุญบารมีธรรมที่สั่งสมอบรมมามากน้อย ต่างกันไม่เท่าเทียมกัน ครั้นถ้าท่านพ่อลีจะมุ่งเน้นสอนแต่ “การภาวนา” ก็คงจะได้ผลเพียงบางคนเท่านั้น ท่านจึงเล็งเห็นว่า คนที่ “บารมียังอ่อน” ยังไม่ถึงพระนิพพานในชาตินี้ ก็คงต้องได้อาศัยยึดเกาะ “บุญกุศล” ให้จิตใจมีศีลมีธรรม เพื่อไม่ตกลงในอบายภูมิ ได้แก่ นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน ท่านจึงมีดำริสร้างพระพุทธรูปและมีงานบุญอยู่เป็นประจำ อันเป็นความปรารถนาดีที่ท่านมีต่อลูกศิษย์ทุกๆคน เพียงแต่ใครจะมีสายตามองเห็น “ความเมตตา”ขององค์ท่านได้มากน้อย ตามแต่ภูมิจิตภูมิธรรมของแต่ละบุคคลเป็นรายๆไป
#แชร์ไปได้บุญ ธรรมทานชนะการให้ทั้งปวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น