องค์สมเด็จเทวนมินทร์ ได้พูดถึง สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ให้พระมาลัยฟังว่า
" ดูกรพระเถระเจ้า อันดาวดึงส์หมายความว่า มีเทวดาถือกำเนิดเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ๓๓ องค์ อันได้แก่ข้าพระองค์และเทวสหาย มีความกว้างยาว หนึ่งหมื่นโยชน์ รายล้อมด้วยกำแพงแก้ว สูง ๑๖ โยชน์ มีประตูเข้าออกนั้น ๑,๐๐๐ แห่ง เหนือประตูเมืองแต่ละแห่งมีปราสาท อยู่ด้านบน
เมื่อเปิดประตูเมือง จะมีเสียงทิพยดนตรีมโหรีพิณพาทย์ มีอุทยานรุกขชาติ ๔ แห่ง ในแต่ละทิศ ชื่อว่า นันทวัน จิตรลดาวัน สักกวัน เบื้องทักษิณ ผรุกวัน
มีสระโบกขรณี มีน้ำใสดุจดั่งแผ่นกระจกแก้วอัญมณี มีอุบลบานดอกออกฝักมากมาย มีก้อนศิลา มีแท่นประทับสำหรับเทพบุตรเทพธิดามานั่งเล่น
ใจกลาง มหานคร มีมหาปราสาท นามว่า .ไพชยนต์.. เป็นที่ประทับของข้าพระองค์แลมิ่งมเหสี ทำด้วยแก้วมณีเจ็ดประการ ภายในปราสาท มีวิมานทอง ประดับ ด้วยแก้วมณี ภายนอก มีปรางค์ปราสาทแก้วมณี ๓๒ หลัง เป็นที่อยู่อาศัยของเทวผู้เป็นสหายของข้าพระองค์
มีพระเจดีย์จุฬามณี เป็นที่สถิตประดิษฐานของ มุ่นมวยพระโมลีเกศาธาตุ ของพระบรมศาสดา มีพระเขี้ยวแก้วเบื้องขวาขององค์พระสัมมาสัมพุทธ
พระเจดีย์นี้ก่อด้วยแก้วอินทนิลเป็นส่วนฐาน ส่วนกลาง เป็นทองแท้ ยอดประดับ ด้วยแก้วมณีเจ็ดประการ มีกำแพงแก้ว ประดับด้วยธงทิว ธงชาย ธงตะขาบหลากสีสรร
นอกมือง มีอุทยานใ ชื่อว่า ปุณฑริกวัน มีต้นปาริชาตอันเป็นไม้ทิพย์ประจำทวีปพิภพดาวดึงส์ ดอกบาน ครบ ๑๐๐ ปี รัศมี รุ่งเรืองไปไกลได้ แปดแสนวา กลิ่นของดอกไม้ อบอวลไปถ้วนทั่วสวรรค์ เหล่าเทพบุตรเทพธิดานั้นจะมาชมดอกไม้อยู่ไม่ขาด ดอกปาริชาตจักลอยหลุดจากขั้วลงมาให้จนถึงมือ แม้นไม่ยื่นยื้อมืออกไปรับ ดอกไม้ ก็ไม่ตกถึงพื้นไม่ ยังลอยไว้เช่นนั้นแล
ใต้ต้นปาริชาต มีแท่นศิลาสีแดงดั่งดอกชบา นามว่..าบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์.. อันเป็นแท่นประทับของข้าพระองค์ เวลานั่งลงจักยุบอ่อนลงนิ่มพอดี หากคราวใดนั่งลงไปไม่ยุบกลับแข็งแกร่งกระด้าง จักเป็นลางบอกว่าผู้มีบุญญาธิการเกิดอุปัทวันตรายร้ายกาจ ทำให้ข้าพระองค์ต้องลงไปช่วยเหลือ
มีศาลา ชื่อว่า ศาลาสุธรรมาเทวสถาน พื้นศิลาลาดด้วยแก้วผลึกและแก้วอินทนิล มีพรรณบุปผาสวรรค์ อสาพตี ๑,๐๐๐ ปีจักบานดอกหนึ่งครั้ง ความหอม ยังมากกว่าดอกปาริชาต ฟุ้งสะพัดไปทั่วทั้งหมดสวรรค์
ศาลาสุธรรมา เป็นที่ประชุมเทวดาทุกวันธรรมเสวนะ เมื่อเทพดา มีพรหมกุมารเสด็จมาจากพรหมโลกเพื่อแสดงธรรม หากแม้นท่านนี้มิได้มาก็จะมีองค์ปาฐกอื่นมาแสดงแทน หากแม้นเป็นคราประชุมครั้งใหญ่ของเทวสภา ข้าพระองค์จะเป็นประธานอ่านชื่อมนุษย์ผู้บำเพ็ญกุศลผลทาน จากแผ่นสุพรรณบัตร ทวยเทพก็จักแซ่ซ้องสาธุการเอิกเกริกปิติยินดีจับระบำรำฟ้อนทุกครั้งไป
หากคราใดมีน้อยเหล่าทวยเทพก็จะเงื่อนหงอยด้วยโทมนัสาว่า มนุษย์ทั้งหลายนี้ยินดีในทางวิบัติหันไปสู่อบายภูมิเป็นเบื้องหน้า
ข้าพระองค์นี้มีมเหสีอยู่ ๔ นาง ชื่อ สุธรรมา ..สุจิตรา.. สุนันทา.. แลสุชาดา.. มีนางฟ้าปริจาริกาสองโกฏิกับอีกห้าล้านนาง อันเกิดจากบุญแต่ปางบรรพ์ของข้าพระองค์ที่ได้สร้างสมมาตั้งแต่เมื่อคราเป็นมนุษย์นั้นแล
ที่มา มโนธาตุ โพธิญาณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น