มนุษย์เรานั้นมีตัวตนอยู่มากมายหลากมิติทั้งใน อดีต ปัจจุบัน และ อนาคต ซึ่งพวกเรากำลังมีชีวิตอยู่ในตอนนี้ที่ไหน "สักแห่ง" ในสนามพลังควอนตัม และ เวลานั้นเป็นเพียงภาพลวงตา เพื่อประโยชน์ให้ง่ายต่อการใช้ชีวิตในโลกเสมือนจริงมิติที่ 3 นี้เท่านั้น.?....
นักฟิสิกส์ทฤษฎีในยุคสมัยใหม่นี้ พอจะมองเห็นภาพลางๆ ของคลื่นพลังงานสร้างวัตถุต่างๆ ในโลกที่มนุษย์กำลังอาศัยอยู่ แต่ยังไม่สามารถคิดวิเคราะห์ หรือ คิดค้นทฤษฎี
สนามรวมฯ สรรพสิ่งจักรวาลขึ้นมาอธิบายให้เกิดความรู้ความเข้าใจนั้นได้
ฉะนั้น มันจึงยังเป็นความลับ และ ความมืดมิดอีกต่อไป และ เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนการเสียชีวิตของ "สตีเฟ่น ฮอลกิ้ง" ได้เสนอทฤษฎี (พหุจักรวาล) จนเกิดความเกรียวกราวมีทั้งที่
สนับสนุน และ คัดค้าน อย่างมากมาย
แต่พ่ออยากบอกอะไรสักอย่างนะ! นี่แหละทฤษฎีที่ใกล้กับความเป็นจริงที่สุด แล้วพ่อจะอธิบายตามสิ่งที่ Teucer Rom.อธิบายให้พ่อฟังจิตเบื้องสูงที่สถิตตัวพ่อในคํ่าคืนวันหนึ่ง
ก่อนออกจาริกไปตามจุด grid ต่างๆ รอบโลกเพื่อปลดล๊อกกุญแจพลังงานที่ฝ่ายมืดได้ปิด
ผนึกไว้
โลกคู่ขนาน หรือ จักรวาลคู่ขนาน โลกที่ดำเนินไปพร้อมกับโลกของเราฉะนั้น "พหุจักรวาล" นั้นถูกสร้างมาจากคลื่นพลังงานที่สร้างวัตถุ มันจึงสามารถซ้อนทับอยู่ในพื้นที่เดียวกันได้ แต่ละมิติจะมีคลื่นความถี่ที่ละเอียดลึกลงไปเรื่อยๆ เปรียบเหมือนหนังสือเล่มนึงมีความหนาหลายร้อยหน้าแต่ละหน้าคือ คลื่นมิติที่แตกต่างกัน จึงซ้อนทับอยู่ในพื้นที่เดียวกันได้
โลกแห่งความเป็นจริงคู่ขนาน จะถูกสร้างขึ้นมาทุกครั้งที่มนุษย์ทำการตัดสินใจครั้งสำคัญ
ว่าจะ "เลือกเส้นทางไหนดี" ซึ่งการเลือกดังกล่าวนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงและพลิกโฉมหน้าของโลกได้ ทั้งทางที่เกิดสันติสุข และ สงครามได้เลย เช่น โลกคู่ขนานอีกเส้นนึงอาจไม่มีสงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดขึ้นมาก็ได้
ด้วยโลกคู่ขนานก็เปรียบเหมือนพรหมลิขิตที่ถูกหักเหด้วยประสบการณ์ทางเลือกของตัวตนเราเองว่า "อยากจะมีประสบการณ์แบบไหน" มากกว่า ฉะนั้นพวกเราต้องเข้าใจก่อนว่า
อดีต ปัจจุบัน และอนาคต มันเกิดขึ้นพร้อมกัน และ ในเวลาเดียวกัน และ เวลานั้นไม่มีอยู่จริง
ในขณะที่พวกเราอยู่ในโลกเสมือนจริงหลักที่อยู่ในโลกแห่งกายภาพนี้ พวกเราจะไม่สามารถตระหนักรู้ได้เลยว่า ในความเป็นจริงแล้ว มันยังมีโลกแห่งความเป็นจริงที่เป็นไปได้ทั้งหลายอยู่อีกมากมาย หลายเวอร์ชั่น ที่พวกเขากำลังมีชีวิตอยู่ในโลกคู่ขนาน หรือ
โลกบนทางเลือกอื่นๆ อีกนับเป็นอนันต์
พ่อจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ นะ เหมือนกับเรากำลังเล่นเกมส์ RPG นั่นแหละ ที่จะมีบทสรุปของจุดจบของเกมส์ ว่าเราจะเลือกแบบไหนที่จะให้ผ่านด่านต่างๆ ไปได้ โดยไม่เกมส์
โอเวอร์ไปเสียก่อน
ฉะนั้น พวกเราจงอย่าชี้ผิดชี้ถูก ในเหตุการณ์ต่างๆ ที่เราประสบว่าอันนั้นไม่ถูกต้องอันนี้ผิด
ซึ่งการกระทำสิ่งเหล่านี้เอง มันจะไปขัดขวางกระบวนการเลื่อนระดับชั้นของตัวตนเราให้ล่าช้าลงไปมากๆ หรืออาจไม่สามารถเพิ่มมิติกายเนื้อของเราได้อีกเลยหากเราตัดสินใจ
เลือกสิ่งนั้น
ฉะนั้นจงอย่าพยายามที่จะควบคุมความคิดของผู้อื่น เพราะการกระทำแบบนี้จะทำให้ตัวตนเรามีความรู้สึกไม่ได้ดั่งใจ เมื่อเรามีความคิดที่จะควบคุมคนอื่น มันจะเกิดการต่อต้าน
หรือ สร้างความขัดแย้งขึ้นมา โลกของเราที่มีแต่ความโกลาหลวุ่นวายไม่รู้จบก็เพราะมนุษย์เรามีความคิดที่จะให้คนอื่นคล้อยตามความคิดของเรานี่แหละ
เพราะจิตมนุษย์แต่ละคนต้องการอิสระ พวกเขาจะมองหาอิสรภาพตลอดเวลา ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งนามธรรมจะไม่ใช่สิ่งที่มองเห็นด้วยตาเนื้อก็ตาม ภายในจิตหรืออารมณ์ความรู้สึก
เมื่อเกิดความคิด และ มีความรู้สึกแบบนั้นเมื่อไหร่
มันจะไปสร้างรอยแผลในชั้น Etheric Body หรือ (รัศมีกาย Aura) ทำให้ออร่าของเขาผู้นั้นหม่นหมองและลดคุณค่าตัวเองลงไป เพราะมนุษย์ไม่ใช่สิ่งที่จะมาควบคุมเหมือนหุ่นยนต์ จะต้องใช้วิธีทำความเข้าใจกันและกัน หรือ การเดินเข้าหากันด้วยความรู้สึกดีๆ เสมอกัน
เมื่อคนเราคิดที่จะควบคุมคนอื่นมันจึงเกิดโศกนาฎกรรมไม่รู้จบขึ้นมา คนเรานั้นเมื่อคิดจะ
ควบคุมคนอื่นด้วยการใช้ความกลัว อารมณ์ของตัวเองก็จะเกิดการสั่นไหวขึ้นหากไม่เป็นไปตามความต้องการของตัวเอง พ่อว่าอย่าครํ่าครวญไปเลยนะ เพราะจิตของมนุษย์
"มันเป็นเช่นนั้นเอง"....
ที่มา
Teucer Rom...
แสงสว่าง มองการไกล....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น