"... การเทศน์เหมือนโปรยยาพิษทำลาย
ผู้คนที่ไม่มีความเคารพอยู่ภายใน ถ้าไม่
เกิดประโยชน์ ก็ไม่อยากให้เกิดโทษ ..."
. . . เวลาแสดงธรรมให้กับมนุษย์ แสดงซ้ำ
แล้วซ้ำเล่า ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ นอกจากไม่
เข้าใจแล้ว ยังคิดตำหนิผู้แสดงอีกด้วย ว่า
เทศน์อะไร ฟังไม่รู้เรื่องเลย
บางราย... ยังเอากิเลสหยาบๆที่อยู่ภายใน
ของตนเองมาตำหนิติเตียน.
บางราย... มาจะจับผิดพลาด ด้วยความอวด
ตัวว่าฉลาด แม้จะแสดงให้ฟังด้วยวิธีใดๆ ก็
เหมือน
"... เทน้ำใส่หลังหมานั่นเอง มันสลัดทิ้งหมด
ทันที ไม่มีน้ำเหลืออยู่บนหลังของมันแม้แต่
หยดเดียว ..."
. . . ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็จะไม่เทศน์ เพราะ..
การเทศน์เหมือน
"... โปรยยาพิษทำลายผู้คนที่ไม่มีความ
เคารพอยู่ภายใน ..."
เ มื่ อ ใ จ เ ข า ไ ม่ ย อ ม รั บ เ เ ล้ ว
"... ถ้าไม่เกิดประโยชน์ ก็ไม่อยากให้เกิด
โทษ ..."
เพราะ ผู้สร้างบาปจะสร้างกรรมของเขาอยู่
ตลอดเวลา แบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ก็ต้อง
ปล่อยไปตามบุญตามกรรม
เมื่อ หมดหนทางแก้ไขแล้ว ก็เห็นว่า.. เป็น
กรรมของสัตว์ ผู้มาแสวงหาสิ่งที่ไม่เป็นท่า
รู้สึกมีมากพรรณาไม่ถูก
. . . พระสาวกอรหันต์
ท่านมีกายเดียว จิตดวงเดียว และมีอารมณ์
อันเดียว ไม่ไหลบ่าไปหาความทุกข์
ไม่สั่งสมอารมณ์ใดๆ ให้มาหนักหน่วงถ่วง
ตน มาเพิ่มเติม
. . . บางคนหนักเท่าไหร่ยิ่งขนมาเพิ่มเติม ..
ท่านเบาเท่าไหร่ยิ่งขนออก ขนออกจนไม่มี
อะไรจะขน แล้วก็อยู่กับความไม่มี ทั้งๆที่ผู้รู้
ก็รู้ว่า ..
"... ผู้ไม่มี คือ ใจ ..."
ใจ ก็มีอยู่กับตัว คือ ..
ไม่มีงานที่จะขนออกแล้ว ไม่มีที่จะขนเข้าอีก
ต่อไป บรรลุถึงคนว่างงาน ใจ.. ว่างงานใน
ศาสนาถือว่า การว่างงานแบบนี้ มีความสุข
อันยิ่งใหญ่ ผิดกับทางโลก
ที่มา
.. พระสาวกอรหันต์ท่านนิพพานแบบนี้กันทั้งนั้น ..
. . . หลวงปู่มั่น ภูริฑัตโต . . .
(.. ขอขอบคุณรูปภาพประกอบธรรมค่ะ ..)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น