พลังอำนาจของความเชื่อ และ ความศรัทธา ที่จะช่วยให้มนุษย์เราประสบความสำเร็จในสิ่งที่พวกเรามุ่งหวังไว้ ?...
ความเชื่อ และ ศรัทธา นั้นมีพลังอำนาจ และ เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ในชีวิตของมนุษย์เรา ไม่ว่าเราจะทำสิ่งใด ถ้าเราปราศจากความเชื่อมั่นแล้ว ก็ย่อมยากที่เราจะประสบความ
สำเร็จได้..
"มีคำพังเพยของคนโบราณที่กล่าวไว้ว่า ถ้าหากเรามีความเชื่อมั่นอย่าง 100% อย่างสุดจิตสุดใจ พวกเราก็อาจเคลื่อนภูเขาลงทะเลได้"
ซึ่งมีความหมายว่า ความอืดอัด ความหนักอกหนักใจ ความรู้สึกยากลำบากใดๆ จะสลายหมดไปได้ก็ด้วยพลังอำนาจของความเชื่อมั่นนั้นของตัวเราเอง
เมื่อเราคิดอยากจะดี อยากจะได้ หรือ อยากจะเป็นอะไร ให้พวกเรามีความเชื่อในความคิด
ของเราว่าต้องได้ ต้องมี ต้องสำเร็จ และ ด้วยความคิดและความเชื่อนี้เอง จะเป็นพลังแรงขับเคลื่อนแรงดึงดูดด้วยความคิด ความเชื่อ ความศรัทธา ของตัวเราให้สามารถบรรลุความปรารถนาในสิ่งที่เราคาดหวัง และ มีเป้าหมายไว้ อย่างไม่มีความเคลือบแคลงใจใดๆ
ต่อแต่นี้ไปพวกเราจะต้องพัฒนาพลังอำนาจของความเชื่อมั่น ให้เพิ่มพูนและมั่นคงยิ่งขึ้น
ไม่คิดแต่เรื่องพลังลบๆ พูดในสิ่งที่เป็นผลลบ หรือ พูดลบและ มีการกระทำด้านลบทั้งแก่
ตัวเองและคนในครอบครัว และ ผู้คนในสังคมที่เราต้องสัมผัส
พลังอำนาจความเชื่อของเราก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้นก่อให้เกิดความสำเร็จ สมหวังในชีวิตเรามากยิ่งขึ้น และ รวดเร็วขึ้นอีกด้วย
ในความตระหนักรู้ มีกลไกที่สำคัญอันดับหนึ่งบรรจุอยู่ มันเป็นข้อมูลที่สร้างความแน่ใจว่า
โลกแห่งความเป็นจริงของแต่ละคนเป็นอย่างไร สิ่งนั้นคือ "ความเชื่อมั่นศรัทธา"
ความเชื่อก่อให้เกิดการสร้างและทำลายล้างได้ ความเชื่อก่อให้เกิดกำลังใจและเสียใจ
ความเชื่อก่อให้เกิดความรัก และ ความเกลียดชัง และ ความเชื่อก่อให้เกิดการปฎิบัติ และ
ไม่ปฎิบัติ ถึงแม้สิ่งนั้นจะดีหรือไม่ดีสักเพียงใด
สรุป โดยรวมความเชื่อก่อให้เกิดสิ่งที่เป็นทั้งผลลบและผลบวก แต่ในความเป็นจริงแล้ว
มันอาจจะไม่ใช่ลบหรือบวก แต่อย่างใดตามที่เชื่อเลย ความเชื่อ และ ศรัทธา เป็นความคิดที่ดึงดูด สภาวการณ์ต่างๆ เข้ามาในชีวิตของเราต่างหาก
อันที่จริง ความเชื่อเป็นเพียงแนวความคิดที่ถูกฝังเข้ามาในใจจากการเรียนรู้ตามประสบ
การณ์ ประสบการณ์ที่กล่าวอาจจะเป็นการบอกเล่า การถ่ายทอดสืบต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ไม่ว่าจะเป็นจากศาสนา ประเพณี และ วัฒนธรรมที่ฝังรากสืบต่อกันมา และ การศึกษาที่
เป็นทางการและไม่เป็นทางการ
และ มันอาจจะเกิดจากประสบการณ์ของตัวเราเองและเราแปลความหมายของเหตุการณ์
ไปทางหนึ่งด้วยตัวเอง หรือ อาจจะเป็นตามแนวคิดที่คนอื่นๆ เคยบอกหรือที่เราเคยได้ยิน
มาก่อน ความเชื่อไม่ใช่เรื่องจริง มันเป็นเพียงแนวความคิดที่ซํ้าๆ และ เราแปลความหมาย
ว่ามันเป็นจริงด้วยตัวเราเอง ทั้งที่เรารู้ตัวและไม่รู้ตัว
ฉะนั้น เราจึงสามารถเปลี่ยนความเชื่อได้ ด้วยข้อพิสูจน์ใหม่ๆ ที่ถูกนำมาลบล้างโดยเหตุ
การณ์แบบใหม่ หรือ จากความตั้งใจของเราเองที่จะเปลี่ยนเมื่อเรารู้ว่ามันไม่ใช่แล้ว
ความเชื่อ เป็นแนวความคิดอันสำคัญที่เราจะต้องตรวจสอบหากเราต้องการให้ชีวิตเรามี
ความรุ่งเรือง แต่เรามีความเชื่อเราไม่มีบุญวาสนาพอ เราก็ไม่มีทางที่จะได้รับความเจริญ
รุ่งเรืองนั้นได้ เพราะจิตของเราปิดกั้นความสำเร็จนั้นเอาไว้แล้ว
หรือ เมื่อเราได้รับความรุ่งเรืองก้าวหน้านั้นมาแล้ว เราก็จะทำลายมันทิ้งด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่งเพราะเรากำหนดมาตรฐานของตัวเราเองว่า "เราไม่มีบุญวาสนาพอที่จะคู่ควร
กับสิ่งนั้น"
หากเราเชื่อว่าอย่างไร สภาพแวดล้อมภายนอกของตัวเราก็จะมีหน้าตาเป็นอย่างนั้น ฉะนั้น กฎแห่งความตระหนักรู้ ก็คือ กฎเดียวกับกฎ แห่งความเชื่อมั่นตนเองนั่นแหละ เพราะความเชื่อมั่นศรัทธา เป็นกลไกหลักที่ฝังตัวอยู่ในจิตใต้สำนึก มันเป็นโปรแกรมในแถวหน้า ที่จะส่งผลออกมาสู่โลกภายนอก ของตัวเราในทันที หากในจิตความตระหนักรู้
ของเราเป็นอย่างไร โลกแห่งความเป็นจริงที่ภายนอกของตัวเราก็จะเป็นเช่นนั้น
ฉะนั้น เมื่อลูกๆ ทั้งหลายรู้แล้ว ก็จะตระหนักว่า ความเชื่อไม่มีตัวตน ถ้าหากเราต้องการให้
ชีวิตของพวกเราไปในทิศทางใด พวกเราจะต้องหาความเชื่อในทิศทางนั้นมาสนับสนุน
ให้เรามากๆ เช่น ถ้าเราต้องการความสำเร็จในชีวิต ก่อนอื่นเราต้องมีความเชื่อมั่น ว่าเรา
สมควรได้รับความสำเร็จที่ตัวเรามุ่งหวังไว้อย่างแน่นอน
ต่อมาเราต้องเชื่อว่า รอบๆ ตัวของพวกเรามีแต่ความรุ่งเรืองก้าวหน้า ไม่มีความขาดแคลน
อยู่ที่ใดเลย ประการต่อมาพวกเราต้องหาความเชื่อที่เกี่ยวข้องมาสนับสนุน เช่น ค้นหาคน
ที่มีความเชื่อมั่นเช่นนี้ และเขาพิสูจน์มันมาแล้ว กับชีวิตของพวกเขามาสนับสนุนสมทบเข้า
ไปอีกมากๆ และ ที่สำคัญที่สุดก็คือ
ต้องลงมือปฎิบัติจนกว่าความเชื่อของตัวเราที่ต้องการจะฝังแน่นในจิตใจเรา เราจะต้อง
พิสูจน์ด้วยตัวเองว่า สิ่งที่เรามีความเชื่อมั่นนี้เป็นความจริงแท้แน่นอน....-
ที่มา
Teucer Rom...
แสงสว่าง มองการไกล...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น