22 ตุลาคม 2561

การใช้ปัญญาญาญาณ พิจารณา

การให้โอวาทของผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต 
ณ เขากะลา นครสวรรค์  วันที่ 10 ตุลาคม 2541

(ตอนที่  9  จบ. )

โดย กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

(คุณวิโรจน์) ท่านว่าในการนั่งสมาธิ  ให้ไปในหนทางแห่งการใช้ปัญญา  หมายความว่า  ที่จะเรียกปัญญาก็เหมือนท่านบอกว่าเป็นปัจจัตตัง อย่างนี้ใช่ไหมครับ  พอรู้แจ้งด้วยปัญญา ก็จะเห็นแจ้งหมด  ก็เท่ากับเป็นตาทิพย์ อย่างนี้ใช่ไหมครับ.

(ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต)  เออ...ตาทิพย์มันมีหลายอย่างนะ  สมมุติเจ้าตาทิพย์ สมมุตินะ  เจ้าตาทิพย์ มองจากที่นี่  มองเห็นยานอวกาศของข้าพเจ้า  บึงบอระเพ็ดเต็มไปหมด   กับการที่ใช้ปัญญา  เขาเรียกว่ามีปัญญา  ปัญญาญาณเนี่ย...ไม่เห็น  มองไม่เห็นนะ  แต่ว่ามีปัญญารู้ว่า  ที่ท่านเหล่านี้มา  #มันมีความสำคัญแค่ไหน  #มันมีความลึกซึ้งแค่ไหน  ใช้ปัญญามองลงไป  #ความเพียรพยายามของเทพทั้งหลาย  #ความสำคัญของญาณใหญ่ทั้งหลาย  มองด้วยปัญญาของตัวเอง  โดยไม่ต้องไปมองเห็นรูปร่างยาน  รูปร่างภายนอก  

แต่การมองด้วยปัญญาแบบนี้  #ข้าพเจ้าสรรเสริญมากกว่าการเพ่งแล้วเห็นยานอวกาศของข้าพเจ้าในสมาธิของพวกเจ้า   การมองด้วยปัญญาของเราตอนนี้  เราก็มองได้  ไตร่ตรองไปเยอะ ๆ มองให้มันแยบคาย  ให้ลึกซึ้ง  ว่าท่านทั้งหลายที่มาในขณะนี้  ที่นี่จะสำคัญเพียงไร  เทพทั้งหลายก็ลงมาจากเทวโลก  มนุษย์ต่างดาวก็มาจากที่ไกล  มาด้วยความยากลำบากเพียงไร
 

ข้ารู้นะ ร่างพระพิฆเณศร์ (จ.ส.อ.เชิด) ในสมัยที่ท่านได้พูดมา  ได้รับรู้น่ะว่าท่านนั่งสมาธิแบบนี้  นี่เป็นตัวอย่างได้  ท่านนั่งสมาธิไปนะ  นั่งนิ่ง ๆ วิธีไหนของเจ้าก็แล้วแต่  ท่านนั่งพุทเข้า โธออก  แล้วท่านก็ทำไงรู้มั๊ย....#ท่านก็ไตร่ตรอง  โอ...#ร่างกายเรานี้หนอ  #มันไม่เที่ยง  #มันทรุดโทรมไป  อนิจจัง ทุกขัง  อนัตตา  #ท่านพิจารณาสังขาร  เออ...มันไม่เที่ยงนะ  นั่งแล้วมันก็เมื่อยได้  ในร่างกายเรามันก็มีสิ่งไม่สวยไม่งาม  เพราะฉะนั้น  นี่คือสิ่งที่ท่านทำดีแล้ว  เทพทั้งหลายอนุโมทนา 

เพราะฉะนั้น  พวกเราล่ะ   ทำไมไม่ทำอย่างท่าน  เห็นไม่เห็นไม่เป็นไร  แต่พอจิตสงบ  มาดูซิ...มาดูความเป็นจริงซิ  ร่างกายของเรามันก็เท่านี้  พอ 30 แล้วร่างกายมันก็เหี่ยว  พอ 40 แล้วร่างกายมันก็เหี่ยวมากขึ้น  50 มันก็เหี่ยวมากขึ้น  มันดึงกลับไม่ไหวแล้ว เพราะฉะนั้น  #มันก็เป็นไปตามหลักที่พระพุทธองค์ทรงสอนนะ  ไปไม่กลับ  หลับไม่ตื่นนะ  #อีกหน่อยก็ต้องนึกถึงกันทุกๆคน 

แล้วทำไมล่ะ  #เวลาที่เหลือ  #เราไม่ทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับดวงจิตของเรานะ  หน้าที่การงานของแต่ละคน  แยกย่อยกันไปแต่ละอย่าง  แต่สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับดวงจิตของตัวเรา  ทำได้ทุกวินาที  ตอนนี้ก็ทำได้ 

สิ่งสำคัญที่ท่านสอนก็คือ 
#อย่าไปคิดร้ายใคร  ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู  #และอย่าไปพูดว่าร้ายใครนะ  ไม่ว่าจะเป็นมิตร หรือศัตรู 
#เสร็จแล้วก็อย่าไปทำร้ายใคร  อันนี้ก็สำคัญนะ  ไว้ป้องกันตัวเองนะ 3  อย่างนี้   เราทำดีได้มาก  ได้น้อยเท่าไรไม่ว่า 

แต่อย่าไปคิดร้ายใคร อย่าไปทำร้าย  อย่าไปว่าร้ายใครนะ    เพราะฉะนั้น  สิ่งที่คนอื่น  #ไม่ว่าจะเป็นมหาโจร  #ก็เป็นไปตามกรรมของเขา  #เราก็รู้ไปตามหลักกฏแห่งกรรมนะ  อย่าไปว่าเขา  อย่าไปซ้ำเติมเขา  #ถ้าช่วยเขาไม่ได้ก็ปลงสังเวชไปนะ 

อันนี้นะ  ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง  #ซึ่งเป็นแก่นของพระพุทธศาสนานะ 

#พระพุทธองค์น่ะ  ท่านไม่คิดร้ายใคร  ไม่ว่าร้ายใครนะ  ท่านไม่ทำร้ายใครนะ  พญามารมาแกล้งท่าน  ท่านก็ไม่ว่าร้ายนะ  ไม่คิดร้ายนะ  เพราะฉะนั้น  เราเป็นศิษย์พระพุทธองค์ ทำตามแบบนี้  ธรรมะ..ชนะ..อธรรม  เสมอนะ  แต่ใช้เวลาหน่อยนะ

เออ...วันนี้ได้ประโยชน์กันไปเยอะนะ  #แต่ใครจะคุ้มค่ามากก็คือคนที่เอาไปไตร่ตรอง  #ธรรมะนี่มันสำคัญยิ่งกว่าทองนะ 

....สมควรแก่เวลา  ทุกท่านในที่นี้ เดี๋ยวรับบารมีจากข้าพเจ้า .... เปิดใจรับบารมีจากข้าพเจ้าโดยพร้อมเพรียงกันด้วยเทอญ
สาธุ  สาธุ  สาธุ อนุโมทามิ

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...