การให้โอวาทของผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต
ณ เขากะลา นครสวรรค์ วันที่ 10 ตุลาคม 2541
(ตอนที่ 5)
โดย กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
(คุณวิโรจน์) ท่านผู้สูงสุดครับ... ตามที่ท่านบอกว่า 1 ใน 60 บุคคล ที่ได้รับเลือกไปนี้นับว่าเป็นการโชคดีมาก แต่ผมเองคิดว่า ใครที่ได้รับเลือกไปนี้มันคงจะไม่ใช่โชคดี #แต่จะเป็นการเสียสละ #ช่วยโลกและช่วยเพื่อนมนุษย์ชาติจริง ๆ มันคงไม่ใช่งานสนุก แต่ถ้าเป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบด้วยกิเลส ว่าโชคดีได้ไปขึ้นบนจานบินของมนุษย์ต่างดาว มันคงไม่สำเร็จอะไร ก็คงมีบางคนคิดเล่น ๆ เหมือนกันนะ
(ผู้สูงสุดแห่งดาวพลูโต) ที่เจ้าถามมานะ #พวกเจ้าคิดว่าผู้ที่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์นั้น #พวกเจ้าคิดว่าเขาโชคดี #ฟลุ๊ค #จึงได้บรรลุธรรมหรือ?..... หรือเป็นพระโสดาบัน โชคดีได้บรรลุธรรมหรือ? ไม่ใช่นะ นั่นเป็นสิ่งที่เป็นเหตุ เป็นผล เป็นปัจจัย
บุคคลที่เข้ามาเป็น 60 บุคคลนั้น จะไม่มีใครฟลุ๊ค ไม่มีใครโชคดีไปเห็นยานต่างดาว จะไม่ใช่แบบนั้นนะ #จะเป็นบุคคลที่ตั้งจิตอธิฐานลงมาตั้งแต่เขาอยู่บนเทวโลก #และปวรณาตัวอธิฐานจิตลงมา #เสี่ยงบารมีลงมาเพื่อที่จะช่วยเหลือมนุษย์ #ในภพมนุษย์ที่จะเกิดภัยพิบัติในครั้งนี้ แต่การที่ข้าพเจ้าบอกว่าโชคดีนั้น เพราะมนุษย์ถ้าได้รับการฝึกฝน อบรมแล้วมาช่วยเพื่อนมนุษย์นั้น เป็นโอกาสดี เพราะว่าอะไร?
#สมมุติเจ้าไปเรียนรู้วิชาแพทย์ แพทย์ในเมืองของเจ้านะ แล้วก็ไปอยู่ในหมู่บ้าน ตรงไปอยู่ในหมู่บ้านที่มีบุคคล 5 บุคคล หมู่บ้านนั้นมีบุคคล 5 คน เจ้าก็ได้ไปใช้วิชาแพทย์ เรียนมาเป็น ด๊อกเตอร์ ก็ได้ใช้วิชาด๊อกเตอร์กับคน 5 คน
#แต่อีกคนหนึ่งเรียนวิชาแพทย์เหมือนกัน #แต่ได้ไปอยู่ในหมู่บ้านที่ซึ่งมีบุคคล 1,000 คน หรือ 10,000 คน เจ้าว่าใครโชคดี
(ตอบ....10,000 คน)
โชคดีเพราะอะไร?
(ตอบ....เพราะช่วยเหลือได้หลายคน)
แต่มันสบายไหม?
(ตอบ....ไม่สบาย)
ปางตายเลยละ.......
เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงต้องเปิดโรงพยาบาล ให้เครื่องมือกับแพทย์คนนั้น ซึ่งไปช่วยเหลือคน 10,000 คน
#พลังนั้น #ที่ข้าพเจ้าจะต้องนำมาให้ อันนี้เป็นการเปรียบเปรยนะ #ไม่ใช่ทุกคนจะลงมาเป็นหมอกันหมดนะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะ
แพทย์จบมาเหมือนกัน ก็เหมือนพวกเจ้าในปัจจุบันนี้ ผู้ที่สามารถจะสร้างบารมีช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ก็มีในปัจจุบันนี้
แต่ผู้ที่ได้รับการฝึกอบรม และช่วยเหลือมวลมนุษย์ซึ่งเขาแทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ และมีจำนวนมากมายเหลือเกิน ที่จะให้พวกเจ้าลงไปช่วยเหลือนั้น
โชคดีก็คือ พวกเจ้าน่ะจบเป็นแพทย์เหมือนในยุคนี้เหมือนกัน แต่ได้ไปปล่อยในหมู่บ้าน ซึ่งมีบุคคล 10,000 คน และมีแพทย์คือเจ้าคนเดียว เขาเจ็บป่วย เขาทุกข์ทรมาน เขาก็ต้องมาหาเรา
#ข้าพเจ้า #เป็นผู้ซึ่งมาบำเพ็ญบารมีเหมือนกัน เพราะตามกฏของกรรม #ข้าพเจ้าก็ต้องบำเพ็ญบารมีเพื่อบรรลุมรรคผลนิพพานเหมือนกัน ไม่ใช่เป็นมนุษย์ต่างดาวแล้ว ลอยไป ลอยมา ไม่ต้องสร้างบารมี มันก็ทำไม่ได้
ข้าพเจ้าก็จะสร้างบารมี #โดยการที่จะสงเคราะห์แพทย์ เรียกว่าแพทย์ชนบทได้ไหม?....แพทย์ต้องรักษา 10,000 คน แพทย์ชนบทนะ โดยการให้หูฟัง โดยการให้เครื่องมือตรวจ โดยการให้เครื่องมือเช็ค นั่นเรียกว่า “#พลัง”
เพราะฉะนั้น นี่เรียกว่าการเปรียบเปรย
ไม่ใช่ว่ามีพลังแล้ว เขาจะไม่ให้การบรรลุธรรมนะ การบรรลุธรรมนั้นต้องใช้ดวงจิตของแต่ละคน
เพราะฉะนั้น ถ้าแพทย์ซึ่งลงไปอยู่ในหมู่บ้านซึ่งมี 10,000 คน เขามีเครื่องมือพร้อมจากการอนุเคราะห์ และมีดวงจิตของเขา แต่ถ้าเขาไม่ใช้เครื่องมือ และใช้ความสามารถของเขา เขาก็ไม่ได้โอกาส
เพราะฉะนั้น ถ้าเขามีโอกาส และได้ใช้ความสามารถของเขา เขาก็สามารถบำเพ็ญบารมีได้มากมาย เรียกว่าโชคดีตรงนี้ ที่เรียกว่าโชคดีก็คือ #ได้เหนื่อยแสนสาหัส #ได้บารมี
มันแสนสาหัสนะ ถ้าใครทนความสาหัสไม่ได้ ก็ไม่ได้เป็น 1 ใน 60 บุคคล
เตรียมตัวเตรียมใจกันเถอะ เพราะว่าอะไร #การที่พวกเจ้าจะไปช่วยเหลือบุคคลที่กระเซอะกระเซิง #ภัยพิบัตินั้นมันต้องจากลูกจากหลาน #จากภรรยาสามีไปตามกฏแห่งกรรม...#ในหนึ่งครอบครัวมันจะเหลือกันไม่ครบทั้งครอบครัวหรอก ในส่วนมาก ฉะนั้นพวกเจ้า #ต้องไปช่วยเหลือเขาทั้งทางร่างกายและจิตใจ
เพราะฉะนั้น ศาสตร์ต่าง ๆ ที่ข้าพเจ้าจะอนุเคราะห์ให้พวกเจ้านั้น #จะมีทั้งศาสตร์ทางเทคโนโลยีทั้งทางร่างกาย #และจิตใจ นั่นคือ “ธรรม”ของพระพุทธองค์ ซึ่งจะเป็นธรรมโอสถมันจะต้องผสมผสานไปในทางที่จะกลมกลืนกัน ให้ช่วยเหลือได้ผลเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ... เข้าใจหรือยังล่ะ.
...........................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น