"เป็นเพราะไม่มีที่พึ่งทางจิตใจหรือไม่รู้ที่พึ่งอันเกษม
อันอุดม จึงกลัวการตายแต่ไม่กลัวการเกิด เมื่อเป็น
เช่นนี้จึงคว้าโน้นคว้านี้เป็นที่พึ่ง บางคนกลัวตาย
แล้วไปไขว่คว้าเอาสิ่งอื่นมาเป็นที่พึ่ง ที่เคารพนับถือ
ด้วยความงมงาย มีการอ้อนวอน วิงวอนขอโดยวิธี
บนบานศาลกล่าวจากเถื่อนถ้ำและภูเขา ต้นไม้ใหญ่
ศาลพระภูมิเจ้าที่เจ้าทางต่างๆ
ที่ตนเองเข้าใจว่าเป็นที่สถิตย์อยู่ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ทั้งหลาย อันอาจดลบันดาลให้ชีวิตตนรอดพ้น
จากอันตรายความตาย และความทุกข์ได้ จึงหลง
พากันเซ่นสรวงด้วยเครื่องสังเวยต่างๆ ตามที่ตนเอง
เข้าใจว่าเจ้าของสถานที่ เหล่านั้นจะพอใจหรือชอบใจ
นอกจากนั้นยังมี การทรงเจ้าเข้าผี สะเดาะเคราะห์
สะเดาะนาม สืบชะตาราศี ตัดกรรมตัดเวร โดยวิธีต่างๆ
เหล่านี้"
"ที่พึ่งอันอุดมมั่นคงนั้นคือการให้ภาวนา น้อมรำลึกนึก
เอาพระคุณอันวิเศษ ของพระพุทธเจ้า พร้อมพระธรรม
และพระอริยสงฆ์ มาเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ
จึงจะเป็นการถูกต้องสมกับที่พวก เราเป็นผู้รับ นับถือ
เอาพระรัตนตรัยมาเป็นที่พึ่งประจำกายใจของตน
และอีกอย่างให้ประพฤติปฏิบัติตามหลักของอุบาสก
อุบาสิกา มีการให้ทาน รักษาศีลและเจริญเมตตาภาวนา"
" ต่อไปนี้ให้ญาติโยมทุกคนทั้งหญิง ทั้งชาย เฒ่าแก่
เด็กเล็กเด็กน้อยก็ตาม พากันสวดมนต์ทำวัตรทั้งเช้า
ทั้งเย็น ก่อนนอนตื่นนอนทุกวัน ให้ผู้ใหญ่ในครอบครัว
พ่อแม่เป็นผู้พาทำ ทำที่บ้านใครบ้านมัน ทุกครัวเรือน
ถ้าทำได้อย่างนี้ก็จะเป็นบุญเป็นกุศลแก่พวกเรา
ความเดือดร้อนต่างๆ เหล่านั้นมันก็จะหายไปเอง "
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น