15 มีนาคม 2563

ปู่เทพโลกอุดรกับสมเด็จวังหน้า กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ

หลวงปู่โลกอุดร ภาค ๓๔
   
 ตอน องค์ชายลิ้นดำ

            ในสมัยรัชกาลที่ 4 นั้น  มีพระเจ้าแผ่นดิน 2 พระองค์  คือ  ร.๔ และ น้องชาย คือ   พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว และองค์ชายลิ้นดำ คือบุตรของ พระปิ่นเกล้า ที่อยู่วังหน้า นั่นเอง
   ... สมเด็จวังหน้า กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ"  " คือ เจ้าชายลิ้นดำ      เพราะโปรดการปลูกว่าน  ชิมว่าน นานาชนิด  จนลิ้นท่านดำ  งยังชื่นชอบเล่าเรียนวิชาอาคมไสยศาสตร์ พระองค์ทรงมีพระอัธยาศัย สุภาพอ่อนโยน แต่เคร่งขรึม  

.. การพบหลวงปู่เทพโลกอุดร...

        พระองค์ปลอมตัว ไปในหมู่บ้าน  เห็น พระธุดงค์ ปักกลดนั่งสมาธิอยู่ไกล  จึงเดินตรงไปยังพระธุดงค์ที่พระองค์เห็น  เห็นท่านมีเกศาขาวโพลนแต่หน้าตาดู หนุ่ม ผิวกายสีค่อนข้างดำ ผิวพรรณนั้นเปล่งปลั่ง จึงลงกราบมนัสการด้วยความ นอบน้อมถ่อมตน

**...ต่อมาพระธุดงค์ ก็  ชี้นิ้วไปที่กิ่งไม้แห้ง ไม้นั้นพลันกลายเป็นงูเขียวเลื้อยคลานได้ทันที  และแสดงอีกมากมาย จนเสด็จวังหน้า   ทรงยอมรับว่าคงเป็นครูบาอาจารย์ ขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์   วิชาแรกคือ  " นะหน้าทอง "  แผ่นทอง  พุ่ง ฝ่าอากาศไปติดตามต้นไม้แล้วหายเข้าไป 

 /*/...ครั้งต่อๆมา จึงมีการนัดพบเรื่อยๆ ไปฝึกวิชชา ข้ามประเทศ ข้ามเขา ไปพม่า ลาว    กาญจนบุรี  ท่านสอน วิชา " อยู่ยงคงกระพัน "  ต่อไป วิชา "เมตตามหานิยม" จน สามารถผูกมิตรกับ สิงสาราสัตว์  (ใช้เวลา 2 ปี)

 สุดท้ายหลวงปู่บอกว่า

“..วิชาอาคมไสยศาสตร์ที่ร่ำเรียนมาทั้งหมดนั้น ก็ยังมิใช่วิชาที่จะเอาตัวรอดได้..เพราะยังต้อง เกิด แก่ เจ็บ และตาย อยู่…มันเป็นเพียง เดรัชฉานวิชา เป็นที่นิยมกันในทางโลก เท่านั้น….วิชาที่ทำให้เอาตัวรอดได้จาก สังสารวัฐ นั้นมีวิชาเดียว คือ สติปัฐฐาน4 “ ให้ลืมวิชชาที่เรียนมาเสีย

 
เมื่อองค์ชายลิ้นดำ เข้า ฌาน4 ได้แล้ว ท่าน ก็สอนแนววิปัสสนา  โดยพิจารณา อนิจจัง ทุกขัง และ อนัตตา  จนจิตมั่นคง สะอาด องค์ชาย จึงสามารถติดต่อ กับอาจารย์ได้ทุกหนแห่ง   โดยผ่านทางจิต
 
        **…สมเด็จวังหน้า  อยู่กับหลวงปู่โลกอุดร   7 ปี   จะเรียก พระอาจารย์ว่า "หลวงพ่อ"  และหลวงปู่จะเรียก สมเด็จว่า " วังหน้า"   พอวังหน้าถามชื่อ พระอาจารย์   หลวงพ่อท่านหัวเราะ 

"หลวงพ่อก็ไม่รู้ชื่อ อะไรเหมือนกัน เกิดมาเนินนาน มากแล้ว สัญญาความจำได้หมายรู้นั้นเราก็วางเสียหมดแล้ว แล้วแต่ วังหน้าจะเรียกก็แล้วกัน เรียกอะไรมันก็เป็นแบบนั้น"

        ** สมเด็จวังหน้า  จึงเรียกท่านว่า"หลวงพ่อเทพโลกอุดร"  วังหน้า  ถาม อายุ หลวงพ่อหัวเราะ  

"เราเกิดมานานแล้ว หลวงพ่อก็ไม่ได้จดจำว่า มันจะอายุสักเท่าไหร่ เกิดเมื่อใด ก็แล้วเสด็จปู่ของ วังหน้า นั้นอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ"

เสด็จตอบว่า " เมื่อตอนสิ้นพระชนม์ก็อายุ ประมาณร้อยกว่าปีแล้วทั้งนั้น ขอรับ "

หลวงพ่อจึงตอบว่า " ให้เอาอายุของเสด็จปู่ของวังหน้า สักร้อยองค์ มาบวกกัน ก็ยังไม่เท่าอายุของเราเลยนะ "  (..หรือ หลวงปู่ ท่านจะมีอายุเป็นหมื่นปี..หรือ..เป็นปู่ฤาษีมาก่อน จะมาบวชพระหรือไม่..?..).

                พระราชวังบวรวิไชยชาญ เป็นวังหน้า  พ.ศ. ๒๔๑๑  ใน รัชกาลที่ ๔  และองค์สุดท้าย ในสมัย รัชกาลที่๕..ก่อนจะเปลี่ยนเป็น เป็นตำแหน่ง “พระโอรสสาธิราช”..ในรัชกาลต่อๆมา..

(..อนึ่ง..ในประวัติศาสตร์..องค์ชายลิ้นดำ มีความขัดแย้งกับ รัชกาลที่5.ถึงขั้นมีทหารแต่ละฝ่ายมาล้อมวัง..เพราะต่างระแวงว่าจะมีการแบ่งประเทศปกครอง คนละครึ่ง..)

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...