06 มีนาคม 2563

“หลวงปู่เทพโลกอุดร” ภาค ๕ ลักษณะเฉพาะ คณะ เทพโลกอุดร


 
พระเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์  มีนิสัย และบุคลิกภาพแตกต่างกัน   ยากที่ผู้อื่นจะดูออก ว่าเป็นท่านใดมาโปรด ยกเว้นศิษย์ที่อยู่กับท่าน  สายของพระเทพโลกอุดรมีอยู่หลายสายด้วยกัน และยังแยกออกเป็นสายในดงและสายนอกดงสาย
 
        ในดง   - คือไปศึกษาความรู้จากองค์ท่าน 

       สายนอกดง – คือ ท่าน มาสอนเป็นช่วงๆ หรือ ลูกศิษย์สอนรุ่นต่อรุ่นๆ กันสืบต่อไป มีทั้งฆราวาสและบรรพชิต เช่น อาจารย์พัว แก้วพลอย, อาจารย์ฉลอง เมืองแก้ว, อาจารย์ชม สุคันธรัต  

 *///..    ศิษย์โลกอุดร ตั้งแต่ สมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน , สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี, หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน, หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ, หลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระพุทธบาทเขารวก จ.พิจิตร, หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ องค์ชายลิ้นดำ   หลวงตาพลอย วัดมักกะสัน, หลวงพ่ออภิชิโตภิกขุ  ท่านพันเอกชม สุคันธรัตน์ หลวงปู่กบ เขาสาริกา ลพบุรี หลวงพ่อโอภาสี แห่งอาศรมบางมด  หลวงพ่อยี วัดดงตาก้อนทอง ปู่โทน  และอีกมากมาย   ที่ทุกคนรู้จักกันดีคือ หลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน..ก็จะเรียกว่า.”กลุ่มโลกอุดร”  และยังจะมีตามมาอีกหลายรุ่น

*.องค์ที่หนึ่ง ....พระอุตตรเถระ หรือหลวงปู่ใหญ่ คือหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร ลักษณะรูปร่างสันทัด ผิวกายค่อนข้างดำคล้ำ จึงมีฉายาว่า “หลวงพ่อดำ” มีจิตเยี่ยงพระโพธิสัตว์เจ้า เก่งวิชาแพทย์ ผู้ปลุกเสก พระพิมพ์โลกอุดรกรุวังหน้า  ท่านมาในกายธรรม ที่คล้ายกายเนื้อมาก..
 
*.องค์ที่สอง.. พระโสณเถระ หรือหลวงปู่ขรัวตีนโต รูปกายสูงใหญ่ ผิวดำ   ใจดี เยือกเย็นประกอบด้วยเมตตาธรรม ชอบผาดโผน เหินฟ้านภาลัยโขดเขินเนินไศลเป็นที่สัญจร
 
*.องค์ที่สาม... พระมูนียะ หรือพระอิเกสาโร, หลวงปู่โพรงโพธิ์, หลวงปู่เดินหน ล้วนเป็นองค์เดียวกัน มีบุคลิกภาพอันสง่างาม ชอบเจริญอสุภกรรมฐาน 10 มักสร้างรูปบูชาเป็นโครงกระดูก   คือ องค์ที่มีหน้าตาหนุ่มแต่เกศาขาวโพลน ภาพถ่ายของท่านเป็นหน้าตาเดียวกันกับพระครูพรหมสิงขบุรี ซึ่งองค์นี้ก็เป็นพระโลกอุดรเช่นกัน และนับเป็นองค์ที่ปรากฏกายแสดงฤทธิ์โปรดสัตว์บ่อยๆ จากคำบอกเล่าของพันเอกชม สุคันธรัตน์  

          เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ห่มจีวรสีหมองคล้ำ หากปรากฏภาพในนิมิตมักจะปรากฏเส้นเกสายาวจรดเอวทีเดียวแสดงว่า “อิเกสาโร”  
 
*.องค์ที่สี่ ....พระณานียะ หรือหลวงปู่ขรัวขี้เถ้า เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จังหวัดนครปฐม ท่านมีรูปกายค่อนข้างสูงใหญ่ ขนตาดกยาวแปลกกว่าองค์อื่น  เมื่อท่านมรณภาพ  สานุศิษย์นำใส่โลงศพ  หลวงปู่เกิดหายไปไร้ร่องรอย ว่ากันว่า..ท่านคือ กลวงพ่อกบ วัดถ้ำสาริกา
 
*.องค์ที่ห้า ...พระภูริยะ หรือหลวงปู่หน้าปาน  หรือ หลวงปู่แก้มแดง เป็นผู้ชำนาญทางเตโชกสิณ ท่านสำเร็จปรอท ล่องหนย่นระยะทางเก่ง องค์นี้ชำนาญในสมาบัติ ๘ และยังสามารถทางเล่นแร่แปรธาตุ เหล็กไหลไพรดำปรอทกายสิทธิ์  ว่ากันว่า ท่านเอาจิต อาศัยร่างท่านพระมหาชวนหรือหลวงพ่อโอภาสี แห่งอาศรมบางมด  มาสร้างบารมีต่อ
    
   ..//**… ใน ๕ ท่านนี้   “”พระอุตตระ มีอายุยาวนานมานับพันปี รองลงมาจากท่านคือ “ขรัวเศียรบาตร” องค์นี้มีฤทธิ์และบุญญาธิการสูงส่ง มีฐานะเป็นศิษย์น้องของพระอุตตระเถระ รองลงมาคือ “หลวงปู่โพรงโพธิ์”  องค์นี้สำเร็จธรรมชั้นสูงมักเป็นตัวแทนของ หลวงปูใหญ่ไปโปรดสัตว์หรือไปทำภาระหน้าที่ต่างๆ แทนองค์หลวงปู่ใหญ่เสมอๆ ได้รับการอนุญาตจากหลวงปู่ใหญ่ให้แสดงฤทธิ์ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต

ที่มา มโนธาตุ โพธิญาณ

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...