อะไรก็ตามที่ถูกตกแต่งด้วยกฎแห่งกรรมวิบาก
จะเปลี่ยนแปลงไปเป็นอื่นเสมอ
เราไม่เคยสังเกตกระบวนการอันตัดตอนเป็นช่วงๆ
ไม่เคยตระหนักว่า
จิตก่อนหลับ ขณะหลับ กับตอนตื่น
ไม่ใช่อันเดียวกันสักอย่าง
เป็นคนละดวงแล้ว
ที่จำได้เหมือนเป็นคนเดียวกัน
เพราะจิตมีความรู้สึกในตัวตนฝังแน่นอยู่เต็มอก
เวลาผ่านไป นิสัยคนค่อยๆเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
จะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ตาม
ทุกสิบปีเราจะพบว่าพฤติกรรมบางอย่างต่างไป
หรือไม่ก็ถึงขั้นเปลี่ยนเป็นตรงกันข้าม
ราวกับจะเป็นศัตรูของตนเองในอดีตได้
มีอยู่หลายเรื่องที่เห็นกันง่ายๆว่าไม่น่าทำ
แต่ก็ทำกันเป็นปกติ
ทั้งลับหลังการเฝ้ามองของสังคม
และทั้งที่เปิดเผยต่อหน้าธารกำนัล
แต่ละคน
สูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปทีละน้อย
หรือกระทั่งเกิดมาไม่เคยมีจุดยืนของตัวเองอยู่เลย
นั่นเป็นเพราะขาดเป้าหมายที่ชัดเจนพอ
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
ที่สุดของความคุ้มในชีวิต
มิใช่การใช้ชีวิตได้ตามอำเภอใจ
แต่เป็นการได้หลุดพ้น
จากการครอบงำตามอำเภอใจของชีวิตต่างหาก
ชีวิตที่เกิดมาดีที่สุด
คือชีวิตที่รู้ว่า
เราจะตั้งเข็มไปทางสวรรค์นิพพานได้ยังไง
จิตที่เคยสั่งสมบุญไว้มากในปางก่อน
ย่อมมีบุญเก่าเตือนให้ต่อบุญ
แต่ไม่เป็นประกันว่า
จะกระตุ้นให้ขยันต่อบุญได้ทั้งชาติ
ความขยันทำบุญไม่อาจเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ
แต่ต้องด้วยความเข้าใจว่า
บุญคือสิ่งที่ทำให้เป็นสุขทั้งปัจจุบันและอนาคต
กับทั้งลงมือทำบุญอย่างต่อเนื่องทุกวัน
ไม่ทำด้วยกายอย่างน้อยก็ทำด้วยวาจา
ไม่ทำด้วยวาจาอย่างน้อยก็ทำด้วยใจคิด
สำรวจตนเองตามจริงด้วยใจเป็นกลางว่า
จิตวิญญาณของเรามีความเป็นปฏิปักษ์กับความดีใดบ้าง
ความดีที่จะมีน้ำใจคิดให้ทาน
ความดีที่จะห้ามใจไม่ก่อบาปก่อเวร
ความดีที่จะทำให้สติให้เจริญ
เพื่อเข้าใจให้ถูก และเข้าให้ถึงความสุขสูงสุดที่พึงได้มาก่อนตาย
.. .. .. .. .. .. .. .. .. ..
เริ่มจากเพิ่มนิสัยดีขึ้นมาสักอย่าง
โดยทั่วไป เพียงนิสัยดีเริ่มเกิดได้วันเดียว
นิสัยเสีย มักถูกกระทบโดยตรง
หรือโดยอ้อมไปอีกหลายวัน
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าตั้งใจจะสังเกตแง่ดีของคนอื่น
เอามาพูด เอามาคุยถึงเพียงสองสามครั้งในวันเดียว
ไอร้อนในปากที่ชอบให้ร้ายชาวบ้าน
เหมือนจะลดอุณหภูมิลงได้จนถึงวันพรุ่งแล้ว
ถ้าสำรวจตัวเองจริงและเอาจริงแล้ว
คุณจะพบว่ากำจัดนิสัยเสียสำเร็จอย่างเดียว
ได้บุญกว่าตระเวนทำบุญร้อยวัดเสียอีก!
________________
ที่มา
ร้อยเรียงจากหลากบทความของคุณดังตฤณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น