31 พฤษภาคม 2563

เรื่องกฎของกรรมของพระมหาชนก


โดยหลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง

กรรมเดิม...คือว่าในสมัยชาติก่อนถอยหลังเข้าไป
กี่ชาติจำไม่ได้ เพราะเวลาพูดนี่ไม่ได้นำเอาหนังสือ
มาอ่าน ไม่ได้เรียบเรียงมา เอาจากพุงมาคุยกัน 
คุยจากพุงนะ ว่าพุงจำมาได้เท่าไหร่ก็ว่าเท่านั้น 
ถ้าบกพร่องไปบ้างขอบรรดาพุทธบริษัทให้อภัย
ว่าในสมัยชาตินั้นพระมหาชนกกับพระบรมราชินี 
เวลานั้นพระมหาชนกเป็นกษัตริย์ สรงสนาน
คือสรงน้ำอยู่ในชายทะเลแห่งหนึ่ง เวลานั้นมีเณรเล็ก ๆ 
เป็นเด็กอายุเพียง ๗ ขวบ พายเรือมา ผ่านมา

เวลานั้นพระเจ้าแผ่นดินรู้สึกเขาไม่ถือตัวกันนัก 
เป็นกันเองกับประชาชน เข้าถึงประชาชนเป็นอย่างดี 
เณรน้อยคนนี้พายเรือมาแต่พายเรือไม่ค่อยเป็น 
ท่าทางแกโคลงเคลง ๆ ชอบกล พระมหาชนกจึงล้อเณร 
่ได้แกล้ง ทำน้ำให้เป็นคลื่น เณรแกพายเรือไม่ค่อยเป็น
อยู่แล้ว นั่งเรือไม่ถนัด ก็ปรากฏเรือล่มลงไป

ท่านพระมหาชนกในสมัยนั้นตกใจ จึงได้เข้าไปอุ้มเณร
ขึ้นมาบนบก แล้วก็เอาผ้าสบงจีวร สั่งให้อำมาตย์
หามาให้เปลี่ยนเป็นอย่างดี แล้วนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา 
พระมหาชนกก็ปวารณาตัวเป็นโยมของสามเณร 
หมายความว่าอุปถัมภ์สามเณรจนกระทั่งบวชพระ
ให้มีความสุขทุกอย่าง

นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัท องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิ
โสภาคย์กล่าวว่า ด้วยอำนาจกฎของกรรมเดิมเพียง
นิดเดียวเท่านี้ เพียงแกล้งเณรให้เรือล่มด้วยมีเจตนา
จะล้อ ไม่ใช่มีเจตนามุ่งร้าย ถ้ามีเจตนามุ่งร้ายก็มีหวัง
ลงนรก แต่นี่พระมหาชนกมีเจตนาจะล้อเล่นกับสามเณร
ตัวเล็ก ๆ เพราะน่ารัก ไม่ใช่น่าเกลียด

เณรเรือล่มลงไป แล้วก็พระมหาชนกก็ตั้งใจสงเคราะห์
ด้วยดี อุ้มสามเณรขึ้นมาเปลี่ยนผ้าให้ สงเคราะห์สามเณร
ในฐานะเป็นโยม ความจริงก็เป็นสิ่งที่มีคุณ พระพุทธเจ้า
ตรัสว่ากรรมเพียงเล็กน้อยเท่านี้ ตถาคตเอง คำว่า
พระมหาชนกก็คือพระองค์เองพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน 
ต้องถูกดลบันดาลทำให้เรือแตกว่ายกลางมหาสมุทร 
๕๐๐ ชาติ

นี่บรรดาพุทธบริษัททำกรรมอะไรเข้าไว้ก็นึกไว้ให้ดีนะ 
ไอ้กรรมบางอย่างที่ไม่ได้ดลบันดาลให้ลงนรก แต่มันยัง
ได้รับทุกข์ในชาติที่เกิดเป็นมนุษย์ นี่กรรมเล็กน้อย
เพียงเท่านี้ พระพุทธเจ้ากล่าวว่าพระองค์เองต้องเรือแตก
ในมหาสมุทรถึง ๕๐๐ ชาติ ว่ายน้ำแบบนั้นตลอดมา 
น่าคิดไหม แล้วการที่เรือแตกคราวใดก็ได้เป็นพระราชา
ทุกที อานิสงส์ที่เรือแตกต้องว่ายน้ำก็เพราะล้อเณร
ให้ต้องตกใจเรือล่ม

นี่แหละกรรมอันนี้ทำให้พระมหาชนกคือพระองค์ ต้องเรือล่ม
ในมหาสมุทรว่ายน้ำคราวละ ๑๕ วัน ๕๐๐ ชาติ

คราวนี้ผลบุญที่พระมหาชนกสมัยนั้น อุ้มเณรขึ้นไปแล้วก็
เปลี่ยนผ้าผ่อนท่อนสไบ อุปถัมภ์ให้เณรน้อยนั้นไซร์เป็นลูก
ของตัว บำรุงอย่างลูกตลอดชีวิต กุศลจิตตอนนี้บรรดา
ท่านพุทธบริษัท พระพุทธเจ้าตรัสว่า เรือล่มคราวใดก็ดี 
กุศลผลบุญที่สงเคราะห์เณรในคราวนั้น บันดาลให้พระองค์
เป็นกษัตริย์ ดีเหมือนกัน

นี่ละบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน ที่อาตมาเคยพูดว่าคนเรา
เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วรับผล ๒ ประการ คือทั้งกรรมที่เป็นกุศล 
และกรรมที่เป็นอกุศล ฉะนั้นบรรดาท่านพุทธบริษัทศาสนิกชน
รับทราบไปแล้ว...ฟังแล้วไว้คิดตามด้วย ว่ากรรมใดที่ทำ
ให้เราเดือนร้อนใจ ว่ากรรมเป็นอกุศลที่กระทำในชาติก่อน 
ไปนั่งโทษพระกันนักว่าทำบุญทำทานมาเยอะแล้ว ทำไม
ถึงยังป่วยไข้ไม่สบาย ทำไมไม่มีความสุข มัวไปโทษพระกัน 
ควรจะโทษตัวเองกัน ขณะใดที่เรามีความสุขนั้นเป็นผลของ
กุศลกรรมให้ผล

เมื่อทราบแล้วก็ขอบรรดาพุทธบริษัทศาสนิกชนหลีกเลี่ยง
กรรมที่เป็นอกุศลเสีย ทำแต่เฉพาะกรรมที่เป็นกุศลก็แล้วกัน...

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...