14 พฤษภาคม 2563

จิตธาตุ ไม่หายไปไหน

จิตดวงนี้ไม่เคยตายไม่เคยฉิบหายแต่ไหนแต่ไรมา ถ้าพูดถึงเรื่องวัตถุต่าง ๆ ในแดนโลกธาตุนี้ อันใดมากกว่าอะไร ไม่มีอะไรที่จะมากยิ่งกว่าจิตวิญญาณของสัตวโลก เต็มท้องฟ้ามหาสมุทร ใต้ดินเหนือดินมีเต็มหมดเลย อันนี้มากที่สุด คือจิตวิญญาณของสัตวโลก เพราะมันไม่สูญนั่นเอง เต็มอยู่นี้ ครองภพครองชาติอยู่ทุกแห่งทุกหนตามเพศตามภูมิ
อย่างเราเป็นมนุษย์ก็เห็นกันชัด ๆ ที่ไม่เป็นมนุษย์เป็นสัตว์ก็เห็นกันอยู่นั้น เป็นไก่ก็เห็นอยู่ เป็นเป็ด เป็นนก เป็นปลา เป็นอะไรเราก็เห็นกันอยู่นั้น ที่ละเอียดกว่านั้นก็มีอย่างเดียวกันนี้เลย ไม่ได้ผิดกัน มีอยู่ตามสภาพของตน ๆ เป็นแต่เพียงว่าเราสามารถสัมผัสสัมพันธ์รู้เห็นได้หรือไม่ได้เท่านั้นเอง มีภพ มีละเอียด หยาบ ต่างกัน อย่างพวกเทวบุตรเทวดา อินทร์ พรหม พวกเปรตพวกผีก็เหมือนกันกับเรานี้ มีภพมีชาติเป็นกำเนิดที่เกิดของตัวเอง ด้วยวิบากกรรมดีชั่วเหมือนกันหมด ไม่มีใครแปลกต่างกัน

เพราะฉะนั้นท่านจึงไม่ให้ประมาทกัน สัตวโลกที่เกิดขึ้นมาด้วยกันอย่าตำหนิกันด้วยชาติชั้นวรรณะสถานะสูงต่ำ อย่าไปตำหนิกัน สัตว์ทั้งหลายเกิดมาด้วยอำนาจแห่งกรรมของตนด้วยกัน สพฺเพ สตฺตา อันว่าสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตายด้วยกันหมดทั้งสิ้น คือเป็นด้วยอำนาจแห่งกรรม เกิดมาด้วยบุญด้วยกรรม กมฺมํ สตฺเต วิภชติ กรรมย่อมจำแนกแจกสัตว์ให้มีความประณีตเลวทรามต่างกัน แล้วเกิดไปตามวิบากแห่งกรรมของตน ๆ เพราะฉะนั้นท่านจึงไม่ให้ประมาทกัน

เช่นเวลาเรามาอยู่นี้ เราก็มาเสวยภูมิเป็นมนุษย์ ออกจากนี้เราก็จะไปอีกภูมิไหนก็ไม่รู้นะ ถ้าภูมิความดีก็แน่ต่อสิ่งที่ดี ภูมิชั่วนั้นแน่ต่อสิ่งที่ชั่ว ไม่ผิดที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ เพราะสอนแล้วด้วยความรู้ความเห็นทุกอย่างมาสอนโลก ให้เราปฏิบัติ เราเป็นคนตาบอดต้องเชื่อคนตาดี ถ้าเชื่อแต่คนตาบอดแล้วจะชนแต่ต้นไม้ ตกหลุมตกบ่อ หาความปลอดภัยไม่ได้ ถ้าเชื่อคนตาดี เขาจูงไปไหนก็ต้องไปซิคนตาบอดตามคนตาดี นี่เราเป็นคนโง่ เป็นคนตาบอดทางใจ ให้เชื่อพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นคนตาดีทั้งภายนอกภายใน ให้ตั้งใจปฏิบัติรักษาตามพระพุทธเจ้า แล้วเราจะค่อยแคล้วคลาดปลอดภัยเป็นลำดับ

เรื่องบุญ เรื่องกรรม เรื่องบาป เรื่องนรก สวรรค์ นี้ไม่มีปัญหาอะไรเลย เหมือนกับสิ่งที่เราเห็นอยู่ด้วยตาของเรานี่ นรกมีไหมก็เหมือนศาลาหลังนี้มีไหมนั่นเอง สวรรค์มีไหม ก็เทียบขึ้นไปอีกเหมือนชั้นบนชั้นล่างโดยลำดับลำดาไป เหมือนกันนั่นแหละ แล้วข้างต่ำไปอีก ใต้ดิน เหนือดิน มีไหม ๆ มีอยู่เหมือนกันหมด นี้ละที่พระพุทธเจ้าสอนไว้สอนตามหลักความจริง ที่รู้ที่เห็นแล้วนำมาสอนโลก ไม่ได้สอนแบบหลับหูหลับตาสอน

แต่พวกเรานี่ฟังแบบหลับหูหลับตาฟัง ถ้าเรื่องฟังอรรถฟังธรรม เกี่ยวข้องกับอรรถกับธรรมแล้วเหยาะ ๆ แหยะ ๆ ไม่ค่อยมีความจริงอะไร เพราะกิเลสเหยียบไว้ตลอดไม่ให้ก้าวเข้าสู่ความจริงได้ ถ้าเป็นเรื่องของกิเลสแล้วเอาเป็นก็เป็น ตายก็ตาย มีเท่าไรถึงไหนถึงกัน เรื่องกิเลสเป็นอย่างนั้น เพราะฉะนั้นโลกถึงจมอยู่กับกิเลส ไม่ได้หลุดพ้นไปได้ง่าย ๆ เป็นอย่างนี้เอง


ที่มา
พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ใหญ่พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๔๑
หลวงปู่มั่น-พระไตรปิฎกตาดี
#พระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...