#เธอทั้งหลาย #จงพยายามละตัณหาทั้ง ๓ คือ #กามตัณหา #ภวตัณหา #วิภวตัณหา ด้วยอำนาจของอริยสัจ คือรู้ตามความเป็นจริง จงพิจารณาว่าร่างกายของคนก็ดี ของสัตว์ก็ดี ที่
มีอยู่นั่นไม่ใช่ร่างกายของเราจริง มันเป็นเรือนร่างที่อาศัยชั่วคราวเท่านั้น มันมีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น มีความเปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง และมีการสลายตัวไปในที่สุด ในเมื่อเธอทั้งหลาย
วางภาระนี้เสียได้ เธอก็จะพ้นจากความทุกข์ คือเป็นพระอริยเจ้าเข้าพระนิพพาน"
#เมื่อองค์สมเด็จพระพิชิตมารทรงเทศน์จบ ปรากฏว่าท่านโกณฑัญญะเป็นโสดาบันเป็นเหตุให้องค์สมเด็จพระพิชิตมารดีพระทัยมาก จึงได้เปล่งอุทานวาจาว่า
#อัญญาสิ #วะตะโภ #โกณฑัญโญ #อัญญาสิ #วะตะโภ #โกณฑัญโญ
#คำว่า #อัญญาสิ นี่แปลว่า #รู้แล้ว ซึ่งแปลเป็นใจความว่า #โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ #โกณฑัญญะได้รู้แล้วหนอ" พระองค์ดีใจมาก เพราะเทศน์กัณฑ์แรกมีคนบรรลุมรรคผล แม้แต่เบื้องต้น เป็นอันว่าคำว่า "อัญญา" ต่อหน้าคำว่า "โกณฑัญญะ" เฉยๆ มีมาตั้งแต่วันนั้น
#ท่านโกณฑัญญะท่านฟังอะไร ฟังยังไงจึงได้พระโสดาบัน อันนี้ฟังยังไง ไม่ต้องว่าไปถึง ว่าไปสามเดือนมันก็ยังไม่จบ มาว่ากันถึงอารมณ์ อารมณ์จิตเวลานั้นของท่านตั้งยังไง ที่พระพุทธเจ้ากล่าวถึงตัณหา ๓ ประการ ให้วางตัณหา ยอมรับนับถือกฎของธรรมดา ซึ่งเรียกกันว่าอริยสัจ
#อันดับต้น #ท่านอัญญาโกณฑัญญะมีความเคารพในพระพุทธเจ้าจริง
#มีความเคารพในพระธรรมจริง
เวลานั้นยังไม่มีพระสงฆ์ มีแต่พระพุทธเจ้ากับพระธรรม เข้าถึงไตรสรณาคมน์ ๒ ประการ
#แล้วหลังจากนั้นท่านอัญญาโภณฑัญญะไม่มีความสงสัยในคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า #เรื่องของศีล #ท่านออกบวชมานาน #ทรงศีลบริสุทธิ์ จิตยึดมั่นที่พระพุทธเจ้ากล่าวว่า #ถ้าถึงนิพพานเมื่อไร #นิพพานเป็นแดนเอกันตบรมสุข #เป็นสุขอย่างยิ่ง #ไม่มีการเคลื่อน #ไม่
#แก่ #ไม่เจ็บ #ไม่ตาย #ไม่ไปไหน #ท่านผูกใจในพระนิพพานจึงเป็นพระโสดาบัน
# สรุปความง่ายๆ ก็เรียกว่า การที่เป็นพระโสดาบันของท่านอัญญาโกณฑัญญะ หรือของบรรดาท่านพุทธบริษัทก็เช่นเดียวกัน เขาเป็นกันอย่างนี้ อารมณ์จริงๆ เป็นง่าย คือ
🚩🚩อารมณ์พระโสดาบัน
🌿๑.มีความเคารพในพระพุทธเจ้าจริง เคารพในพระธรรมจริง เคารพในพระอริยสงฆ์จริง แล้วก็
🌿๒. ทรงศีล ๕ บริสุทธิ์
🌿๓. จิตคิดไว้เสมอว่า ถ้าตายชาตินี้เราไม่ไปไหนนอกจากนิพพาน เราไม่ต้องการเกิดเป็นมนุษย์ เป็นเทวดาหรือพรหม เราต้องการนิพพานอย่างเดียว
# พระโสดาบันกับสกิทาคามีสำคัญที่ศีล ๕ พระพุทธเจ้าตรัสว่า พระโสดาบันกับ
พระสกิทาคามีเป็นผู้ทรงอธิศีล ถ้ามีศีล ๕ บริสุทธิ์ เคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริง จิตยังไม่รักพระนิพพาน ท่านเรียกว่าเป็นผู้เข้าถึงไตรสรณาคมน์
# ถ้าจิตมุ่งมั่นต้องการพระนิพพานจริงๆ พวกนี้เป็นพระโสดาบัน และคนที่จะเป็น
พระโสดาบันได้ต้องมีบารมีเต็มพอที่จะบรรลุมรรคผลได้ ต้องบำเพ็ญบารมีมา
ถ้าเป็นสาวกฎูมิก็ต้องบำเพ็ญบารมีมาไม่น้อยกว่า ๑ อสงไขยกับแสนกัป
ถ้าเป็นอัครสาวกก็ต้องบำเพ็ญบารมีมาไม่น้อยกว่า ๒ อสงไขยกับแสนกัป
# ฉะนั้น ถ้าใครมีจิตใจรักศีลเป็นสำคัญ มีความเคารพในพระพุทธเจ้าจริง ใน
พระธรรมจริง ในพระอริยสงฆ์จริง จิตใจมุ่งมั่นปรารถนาอย่างเดียวคือพระนิพพาน ผู้นั้นชื่อว่าเป็นผู้มีบารมีเต็ม
เป็นอันว่าการคุยกันวันนี้ ก็หวังถือใจความเป็นสำคัญ ถ้าว่ากันตามเรื่องจริงๆ แล้วนั้น ธรรมจักรนี่เทศน์ ๓ เดือนไม่จบ ก็ไม่มีประโยชน์มาก การคุยกันวันนี้ต้องการอย่างเดียวกัน คือ ต้องการให้บรรดาท่านพุทธบริษัทรู้จักอารมณ์ของพระโสดาบัน
# ในที่สุดนี้ อาตมภาพขอตั้งสัตยาธิษฐานอ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ทั้ง ๓ ประการ ขอจงอภิบาลบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน ให้มี
แต่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล และจงเจริญไปด้วยจตุรพิธพรชัยทั้ง ๔ ประการมีอายุ วรรณะ สุขะ พละ และปฏิภาณ หากทุกท่านมีความประสงค์สิ่งใด ขอให้ได้สิ่งนั้นสม
ความปรารถนาทุกประการ สวัสดี
ที่มา
🖊️📖คำสอนหลวงพ่อวัดท่าซุง ๑๔
หน้าที่ ๘๓~๘๕
🙏🙏คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม(ท่าซุง)
ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี
🖊️นภา อิน🙏🙏😊😊🌺🌺
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น