อายุคนเราไม่เกิน 80-90ปี
เจอความไม่แน่นอน..ตายแบบไม่มีโอกาสได้ชรา..
ตั้งแต่วัยเด็ก ,วัยหนุ่มสาว..ก็เกิดได้ตลอด
เกิดมาแล้ว..ระหว่าง.กว่าอายุไขจะมาถึง.. อะไรคือ ไม่ประกอบด้วยราคะ
หรือดำรงอยู่แบบที่ไม่พึ่งราคะมากมาย..คืออะไร
เมื่อ...เกิดมาแล้ว..
💥อาหารคือคำข้าว 1 หรือ 2 มื้อ หล่อเลี้ยงกายตั้งอยู่ได้....ราคะมาเอี่ยว..มักมากในการกิน กินของยาก กินมาที่1..ต้องแพง ต้องดี
ยังไม่สามารถเห็นความเป็นปฏิกูลในสิ่งไม่เป็นปฏิกูลได้
ที่จริงต้องปลูกกิน..มีมากแลกเปลี่ยนกัน..แบ่งปันกัน
จนมาถึง..มีการค้าขาย จนหาแต่เงิน..ไว้ซื้อ..เงินจึงเป็นพระเจ้า..
เรียกว่า...คนพาล..กองตรงหน้ามากเข้าไว้..ถูกยก.เป็นเทพเจ้าทันที
💥มีผ้า.เสื้อ.สะอาดเป็นที่ปิดบังความอุดจาด
ปิดความไม่งามของกาย เรือนร่าง
และเพื่อบังแดด ร้อน หนาว และแมลงกัดต้อย..
ราคะมาเอี่ยว..ต้องสวยงาม หายาก ต้องแพง
มีรสนิยม
💥ที่พักอาศัย..เพื่อหลับแดด ฝน หนาว และแมลงสัตว์กันต่อย..ราคะมาเอี่ยว.ต้องใหญ่ โต โอ่อ่า มีทุกอย่างครบที่อยากได้..เทียบคนอื่นจนเป็นอวดฐานะ ทางสังคม..
💥 นอกนั้น...คือ ราคะกล้า เมื่อเป็นคนราคะกล้า ตัณหาจะมาก..การแสวงหาเพื่อให้ได้มาจะมาก
การกำหนดฐานะทางสังคมจะมีขึ้น การเห็นผู้อื่นมี ฉันจะต้องเทียบเขา หรือมากกว่า...กามกล้าขึ้น
อุปาทานในสิ่งที่แสวงหามาด้วยความยากลำบาก ก็มากตาม
ความมักโกรธ.. ความโกรธ แค้น จากไม่สมปรารถนา
ไม่ได้ดังใจ ความที่สิ่งที่มีอุปทานมาก ก็หวงกั้น ตระหนี่ เป็นมลทิน..อาจถูกผู้อื่นมายุ่ง มาหยิบไป มาขโมย สูญหาย เสียหาย...ย่อมโกรธ เกลียดชัง อาฆาตรแค้น พยาบาท เบียดเบียนกัน ทาง ใจ วาจา กาย ...
การดำรงอยู่ ของสัตว์ จึง เป็นที่สุดคือ ราคะ โทสะ โมหะ มาอารมณ์
🙏🙏พระตถาคต..ทรงตรัสชัดว่าใน อริยสัจ4 แบบพิสดารว่า...สิ่งที่ควร ละ ด้วยปัญญาอันยิ่ง คือ.. อวิชชา และ ภวตัณหา‼
🔸️เพราะมีอวิชชา เป็นปัจจัยจึงมีสังขารทั้งหลาย...
เมื่อดำรงชีพอยู่..สังขารคือ จิต (จิตสังขาร) สัตว์ไม่เคยปล่อยวางจากจิต..มันดับลง เกิดมาใหม่ก็ยึดว่าเป็นตน
ดับก็ไม่รู้ว่าอะไรคือดับ❓
จิตเกิดใหม่คืออะไร❓.เพราะเป็นไปตามเหตุ..มันเนียน เปลี่ยนแปลงไว จนจะหาอุปมาเปลี่ยนได้ง่าย(มีพระสูตร)
🔸️เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ
🔸️เพราะมีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมี..นามรูป(ขันธ์ใหม่)
🔸️เพราะมีนามรูปเป็นปัจจัย จึงมีสฬายตนะ
🔸️เพราะมีสฬายตนะเป็นปัจจัย จึงมีผัสสะ‼..
🔸️เพราะมีผัสสะเป็นปัจจัย จึงมีเวทนา❗
💥รูปขันธ์กรรมเก่า...มีเครื่องมื ผลิตกรรมใหม่‼
ตลอดชีวิต..รูปๆหนึ่งใน 7,000ล้านรูป (จำนวนมนุษย์ในโลกนี้โดยประมาณ)...มีสถาพธรรมเดียวกัน..ก่อกรรมแบบเดียวกัน..
ผัสสะ6, >>(ฉันทะ ราคะ นันทิ) >>เวทนา6>>สัญญา6
>>สังขาร6..》》ตัณหา6‼ .
ตัณหา 6 ทางมา...เป็นแบบนี้
ตัณหา..ที่ควรละ มีภพที่ใดๆ เพราะมีตัณหา3 คือ
🔹️️กามตัณหา
🔹️️ภวตัณหา
🔹️️วิภวตัณหา..
➖➖
🔸️เพราะมีเวทนาเป็นปัจจัย จึงมีตัณหา(6)
🔸เมื่อมีตัณหา️เป็นปัจจัย. จึงมีอุปาทาน(4)
(ถ้าสัตว์ผู้สิ่นอุปาทาน..แต่ไม่สิ้นตัณหามีอยู่..ก็ตัณหานั้นและ คือเชื้อ.ไปสู้ภพเอง)
🔸️เพราะมีอุปาทาน(4)เป็นปัจจัย จึงมีภพ( กามภพ,รูปภพ, อรูปภพ)
🔸️เพราะมีภพเป็นปัจจัย จึงมีชาติ
💥 เกิดมา..เป็นอะไร ถ้ามาเป็นคนอีก...ก็ไม่ได้สดับอีก..ไม่รู้แจ้งในอริยสัจ4 เช่นเดิม..ก็เวียนว่าย อยู่แบบนี้ตลอดกาลยาวนาน หาที่สุดไม่ได้...ก็เป็นแบบเดิม
➖➖➖➖➖➖
เกิดมา..แบบเดิมคือ...คิดว่าเกิดมา..เพื่อสะสม เงินทอง
กองกิเลส ตัณหา..อุปาทาน..
เอาไปไม่ได้...ร่างก็ถูกดินกลบหน้าคืนสู่ดิน
อะไรที่มีขึ้นในภพมนุษย์ อย่าผูกพัน อย่ายึดทางใจ
มาใช่ ก็ทิ้งไป คนโง่เขลา เขาจะเสียดาย คิดว่านี้ของตน.. จิตยึดไว้...เป็นเครื่องร้อยรัด เป็นทุกขเวทนายิ่งนัก....เรียกว่า โมหะ ให้ผลร้าย คลายช้า
เฝ้าทรัพย์สินที่หลง..เฝ้า..จนกว่าจะพ้นไปด้วยขดใช้กรรม แห่งความหลงในภพเปรต..ก็ว่ากัยต่อไป..อาจเป็นเดรัจฉานต่อ...เวียนรอบๆ สิ่งที่ยึดไว้ ปลวก ใส้เดือน แต่..ไม่รู้แล้วว่า..คืออะไร
พลังแห่ง..อุปาทาน 4 มีได้ แต่ต้องรู้ทางพ้นไปได้ ก่อนตาย...ต้องมีสุตตะ คือฝึกอบรมจิต อบรมปัญญา
รู้ทางดับซึ่ง อุปาทาน 4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น