..ช่วงเพลานี้.. มีสิ่งเร้ารอบตัว.อย่าให้จิตเราบันทึกอารมภ์อกุศลจิต...อย่าได้ชี้นิ้ว..ด่าทอ.ผู้ที่มีความเห็นไม่ตรงกับเรา..ว่าเอ็งผิด ข้าถูก เอ็งเลว..ข้าดี.. นั่น คือ การบ่มเพาะอารมภ์แห่งโกรธ..โทสะ.นั่นคือ .กิเลส. ยิ่งการเห็นอีกฝ่ายต้องล่มจม ถูกทำร้าย..แล้วรู้สึกสะใจ.. เป็นอารมภ์แห่งความพยาบาท กิเลสกองโต..เมื่อขณะใดจิตเรามีความโกธ บารมีทั้ง๑๐ย่อม ไม่มีใช้งานไม่ได้เลย..เมื่อใดมีอารมภ์เป็นอกุศล..อารมภื์แห่งกุศล ย่อมเกิดไม่ได้
อารมณ์แบบนั้น..ไม่ใช่เป็น กุศลจิต..ไม่ใช่ความรัก ความเมตตา ไม่ใช่ธรรมแห่งอุแบกขา..ก็ทุกอย่างล้วนเกิดจากกรรม..ใยตัวเรา ต้องลงไปผสมในกรรมของคนอื่น ..ตัดสินกรรมคนอื่น...เพิ่มกรรมให้ตนเอง.ถ้าวันนี้..เราต้องละจากโลกนี้.ไปสู่ภพภูมิอื่น..เราจะบ่มเพาะคลื่นแห่งความโกรธ เกลียด.ชัง หรือ.จะบ่มเพาะ สายลมแห่งความเมตตา อ่อนโยนดี..จงถามและตอบตนเอง..ให้ชัด!
ที่มา มโนธาตุ โพธิญาณ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น