09 ตุลาคม 2563

มิใช่ -อัตตา .. มิใช่ -อะตอม


       เราเรียนมาว่า” อะตอม” เป็นอนุภาคที่เล็กที่สุดในจักรวาล  แบ่งแยกไม่ได้    แม้แต่  ปรัชญาฮินดู ก็สอนว่า   “อัตตา” หรือ “อาตมัน”(อะตอม /ปรมาณู)      แบ่งแยกไม่ได้  เป็นความจริงสูงสุด            มีเพียงศาสนาพุทธศาสนาเดียวเท่านั้น ที่ปฏิเสธ”อะตอม” ปฏิเสธ”อัตตา”หรือ”อาตมัน”  ว่าเป็นความจริงสูงสุด

          **… พระพุทธศาสนา ยืนยันว่าไม่มีแก่นสารทั้งในฝ่ายจิต(อาตมัน-วิญญาณอมตะ)และฝ่าย สสาร  (อะตอม/ปรมาณู )            พระพุทธเจ้าตรัสว่า “สัพเพ ธัมมา อนัตตา” แปลว่า “สิ่งทั้งหลายทั้งปวงเป็นอนัตตา” หมายความว่า สรรพสิ่งทั้งที่เป็นจิต และสสาร  ล้วนไม่มีแก่นแท้ถาวร คือเป็นอนัตตา
 
 **..ทุกสิ่งทุกอย่าง..ไม่มีแก่นแท้ถาวร...ที่ตั้งอยู่ได้ในตัวของมันเอง.. เพราะ อาศัยกันและกันเกิดขึ้นตลอดเวลา  ตามหลัก  “หลักปฏิจจสมุปบาท” เพราะมีปัจจัยนี้..จึงเกิดสิ่งนั่น เป็นลูกโซ่ 

   …. แม้แต่ในตัวอะตอม ” ยังมีนิวเคลียส +อิเลคตรอน+ โปรตอน +นิวตรอน) อยู่ด้านใน  การเกาะกลุ่มของประจุไฟฟ้า จึงกลายเป็นอะตอม และประจุไฟฟ้าเหล่านั้น  ต่างอาศัยกันและกันเกิดขึ้น ..และในสิ่งเหล่านั้น..ล้วนมีความว่างห่อหุ้ม..

 **ด้วย “อัตตา” หรือ “อาตมัน”..ล้วน ตกอยู่ในกฎไตรลักษณ์..อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา..ล้วนเสื่อมสลาย  ทนอยู่สภาพเดิมไม่ได้.ล้วนไม่มีใครเป็นเจ้าของ..จะนับอะไร กับของหยาบๆที่เราเห็นอยู่นี้..ทั้ง ทรัพย์สิน สิ่งของ บ้าน รถ เงิน ทอง ร่างกาย สามี ภรรยา บุตร ทั้ง เกียรติ อำนาจ คำยกย่อง สรรเสริญ

....ล้วน..ไม่มีอยู่จริง..ถาวร ถึงเวลา ก็ ดับหายไป..ถ้าเรายึดมั่นในสิ่งเหล่านี้..ย่อมก่อทุกข์..ยึดมาก ทุกข์มาก..


ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...