ต่อไปนี้ก็จะพูดกรรมฐานยากๆ สักหน่อย เอา
ไหมกรรมฐานยาก วันนี้มีคนมาถามหลายคนว่า
๑. เวลานี้กำลังใจมันตก คำว่าตกก็หมายความ
ว่าเจริญกรรมฐานทรุดตัวลงไม่เจริญขึ้น
๒. กำลังใจเศร้าหมอง
ไอ้ตกหรือเศร้าหมองก็อันเดียวกัน เหมือนกัน
ก็รวมความว่าอาการกำลังใจตกก็ดี เศร้าหมอง
ก็ดี ถ้าพูดให้ฟังนี่มันไม่ยาก แต่ว่าถ้าใครไม่
โดนเข้าจริงๆ ไม่รู้สึกว่ายาก โดนเข้าจริงๆ จะ
รู้สึกว่ายากมาก เพราะการแก้ตนเองนี่แก้ยาก
ถ้าถามว่าทำไมถึงรู้
อาตมานะโดนมาหลายวาระกว่าจะถึงวันนี้นะ
โดนมาหลายแบบหลายวาระเลย
เวลาโดนเข้าจริงๆ มันไม่รู้สึกมันแย่จริงๆ มันตี
ไม่ขึ้น เพราะกำลังใจเรามันทรุดไปเอง
ถามว่าประคองตัวมาได้ยังไง
ก็อยู่เกณฑ์ที่ว่าแพ้มันบ้างชนะบ้าง แต่ว่าไม่
ยอมแพ้เลย วันนี้แพ้วันหลังถ้าจิตใจดีหน่อยก็
เอาชนะนิดหนึ่งก็เอา วันหนึ่งมีเวลา ๒๔ ชั่วโมง
ชนะแค่ ๒ นาทีก็เอา ใช่ไหม คือให้มีเวลาชนะ
วิธีชนะทำอย่างไรมันก็ไม่ยาก แต่ว่ามันยาก
อยู่นะ มันยากอยู่ตรงปรับปรุงใจตนเอง
คือถ้าเวลาไหนกำลังใจดีขึ้นมาให้ใช้เวลานั้น
อย่าใช้เวลาแน่นอน กำหนดรู้ลมหายใจเข้า
ออก หายใจเข้ารู้อยู่ว่าหายใจเข้า
หายใจออกรู้อยู่ว่าหายใจออก
ถ้าอยากจะภาวนาด้วยก็ภาวนาตามชอบใจสัก
๑ นาที ๒ นาที ๓ นาทีก็ตาม แค่ใจสบาย ถ้าจิต
เริ่มฟุ้งซ่านเลิกเลย อย่าฝืน ถ้าฝืนแล้วจะเสีย
ทำอย่างนี้บ่อยๆ กำลังใจจะค่อยดีวันละน้อยๆ
วันหนึ่งทำได้ประเดี๋ยวเดียวพอใจแล้ว
จงอย่าคิดว่าเมื่อก่อนๆ เราทำได้ตั้ง ๑๐ นาที
๒๐ นาที ๓๐ นาที ต่อวาระ เวลานี้เราได้นาที
สองนาทีไม่ไหว อันนี้ไม่ถูก
ให้ถือว่าวันนี้เราไม่ยอมแพ้ทั้งวัน เวลา ๒๔ ชั่ว
โมง มันจะชนะ ๒๓ ชั่วโมงกับ ๕๐ นาที ก็เป็น
เรื่องของมัน เราขอชนะ ๑๐ นาที แล้วก็ไม่ใช่
ชนะครั้งเดียว ครั้งละ ๑ นาที ๒ นาทีก็ตามเรา
ชนะให้ได้นิดหน่อย ต่อไปจิตก็จะมีอารมณ์ชิน
เพราะกรรมฐานนี่มีกิเลสมารเป็นของสำคัญ
ที่เรากล่าวกันว่า ขันธมาร ความจริงขันธมาร
มีกำลังไม่มาก ไอ้ขันธมารนี่อาการป่วยไข้ไม่
สบายนี่กำลังไม่มาก มันทรุดตัวประเดี๋ยวเดียว
ก็ทรงตัวได้
แต่ กิเลสมาร มีความสำคัญมาก กิเลสคือ
ความเศร้าหมองของจิต เป็นอารมณ์ร้ายที่เข้า
มาครอบงำจิตช่วงนี้แหละหนัก ฉะนั้นจึงค่อยๆ
ย่องตีมันทีน้อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโบราณณา
จารย์ที่ท่านใช้กันก็มีผลนะ
คือว่าจะป่วยไข้ไม่สบายอย่างไรก็ตาม
จะมีอารมณ์กลุ่มแบบไหนก็ตาม
เพื่อต้องการให้กรรมฐานของเราไม่เสื่อม ถ้า
เวลาจังหวะมันว่างนิดหนึ่งเราเริ่มภาวนาทันที
จะนั่ง จะนอน จะยืน จะเดินก็ได้ จะได้นาที
ครึ่งนาทีก็พอใจ หรือว่าภาวนา พุท เข้า โธ ออก
เพียงแค่ ๒-๓ ครั้งจิตเคลื่อนก็ใช้ได้
อย่างนี้กรรมฐานเดิมที่ทรงไว้จะไม่เสื่อม
ต่อไปเมื่อกิเลสทรุดตัวกรรมฐานจะทรงตัวตามเดิม ต้องปฏิบัติตามนี้นะ
ที่มา
โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษี
ลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น