ภาพรวมทางประวัติศาสตร์ (วัตถุประสงค์ด้านการศึกษาเท่านั้น)
มนุษยชาติยินดีต้อนรับกลับสู่สติการเงิน!
คุณได้เข้าสู่วัฏจักรใหม่ของการดำรงอยู่ตามปฏิทินจันทรคติของจีนหรือ
ที่เรียกว่า 2015 AD หรือ "ปีแห่งแกะ" มนุษยชาติจะไม่ถูกทารุณกรรมทางเศรษฐกิจอีกต่อไปหรือถูกบังคับให้เชื่อว่าเราเป็นหนี้อะไรจากธนาคารกลาง ทราบ
ว่าหนี้สาธารณะทั้งหมดได้ถูกชำระโดยราชวงศ์มังกรแดงของจีน (ผู้รักษาความมั่งคั่งของโลก) โดยเจรจาร่วมกับ 200 + กว่าประเทศผ่านสนธิสัญญาระหว่างประเทศ
ทุกประเทศทั่วโลกได้ตกลงที่จะรีเซ็ตค่าสกุลเงินของตนให้เป็น
ค่ามาตรฐานทองคำทั่วไปซึ่งตระกูลมังกรแดงมีหลักประกันในทรัพย์สินทองคำที่จับต้องได้
นอกจากนี้จากผลของความสามัคคีทางเศรษฐกิจมหภาคใหม่นี้ "เงิน" ที่อัดแน่นด้วยกระดาษคำสั่งทั้งหมด
จะถูกนำไปแลกรวบรวมและเผา ด้วยตั๋วเงินใหม่ที่ได้รับการสนับสนุนจากทองคำ
กระบวนการแลกเปลี่ยนนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Global Currency Reset (GCR) และส่วนใหญ่
สื่อมวลชนที่มีอยู่ไม่มีใครสังเกตเห็นซึ่งเจ้าของก็เป็นเจ้าของการแปรรูป
ระบบธนาคารกลาง พวกเขามีเจตนา จำกัด การไหลเวียนของข้อมูลอย่างเสรี
ทั่วโลกเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตน และได้ทำหน้าที่ชั่วร้ายในการรักษาความลับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์นี้ให้หลุดออกไปจากจิตสำนึกสาธารณะ จนถึงตอนนี้!
ข้อมูลบางอย่างในภาพรวมในอดีตนี้อาจเป็นข้อมูลใหม่บางส่วนอาจเปิดหูเปิดตา
ในขณะที่บางส่วนอาจดูน่าตกใจหรือไร้เหตุผลในตอนแรก ดังนั้นทุกคนอาจยอมรับหรือยกเลิกการ
อ้างสิทธิ์ใด ๆ ที่เป็นความจริง แต่ควรพิจารณาข้อมูลทั้งหมดและเพียงแค่แยกแยะความจริงของคุณเอง เรา
หวังว่าการนำเสนอนี้จะกระตุ้นจิตสำนึกของคุณและเป็นสิ่งเตือนใจคุณ
จิตใต้สำนึกเพื่อกระตุ้นความยิ่งใหญ่ของคุณ
ขณะนี้เรากำลังเข้าสู่ความเป็นจริงของการรีเซ็ตสกุลเงินทั่วโลก (GCR) และการประเมินค่าใหม่
ของสกุลเงิน (RV) ซึ่งจะเริ่มต้นการไถ่ถอนแบบสาธารณะในเร็ว ๆ นี้ ดังนั้น
ขอให้มีกำลังใจเปิดใจรับกระบวนการนี้และขอให้ทุกคนเป็นหนึ่งเดียวกันในจิตวิญญาณเพื่อรักษาเผ่าพันธุ์
และโลกของเราในรูปแบบ ... มนุษยชาติยินดีต้อนรับกลับสู่ความมีสติทางการเงิน!
ระบบการธนาคารแบบเก่า
BRETTON WOODS CONFERENCE (1944)
ส่วนใหญ่ตระหนักดีว่าดาวเคราะห์โลกถูกสร้างให้ดำรงอยู่ในลักษณะที่ไม่ยั่งยืน
มานานหลายศตวรรษทั้งในแง่ของการละเมิดทรัพยากรธรรมชาติและการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ กลไกผ่านระบบธนาคารกลางที่ยึดมั่นอย่างดี แต่ไม่มีประเทศใดแม้แตาสหรัฐอเมริกาที่สามารถพิมพ์เงินต่อไปได้โดยไม่ต้องมีทรัพย์สินที่จับต้องได้เป็นหลักประกันหนี้ นี่คือสิ่งที่ระบบธนาคารกลางได้ทำอย่างแม่นยำ ผลก็คือพวกเขาพยายามแปรรูปความมั่งคั่งทั่วโลกตรวจสอบและจำกัดปริมาณเงินของโลกรวมถึงพันธบัตรตราสารธนาคารหุ้นดิจิทัลกระดาษและสกุลเงินเหรียญ กรอบการควบคุมการเงินส่วนบุคคลระดับโลกนี้ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับโลกในระหว่าง
การประชุม Bretton Woods ใน Bretton Woods รัฐนิวแฮมป์เชียร์มิถุนายน 2487
(http://en.wikipedia.org/wiki/Bretton_Woods_system )
ในการประชุมครั้งนี้ NATO ได้นำเสนอกลยุทธ์ทางการเงินและการทหารระดับโลกที่ชาติพันธมิตร 44 ชาติเห็นชอบในการปฏิบัติ “ ฝ่ายสัมพันธมิตร” ซึ่งชนะสงครามได้ประกาศว่าสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ปลดปล่อยโลกและควรเป็นผู้บังคับใช้ทางทหารในอนาคตของโลกและเป็นผู้มีอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับต้น ๆ
ทั้งหมดนี้เป็นการชดเชยสำหรับการชนะสงครามเพื่อมนุษยชาติ ดังนั้นสหรัฐอเมริกาจึงได้รับสิทธิ์ในการพิมพ์สกุลเงินสำรองทั่วโลกโดยพฤตินัยและ
เรียกมันว่าดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยสกุลเงินอื่น ๆ ทั้งหมดของโลกจะถูกจัดขึ้นโดยเปรียบเทียบที่ตราไว้เพื่อกำหนดมูลค่าสากลของตนเอง USD อันยิ่งใหญ่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วตามที่กล่าวโดยพฤตินัยของสกุลเงินสำรองทั่วโลกโดยแทนที่สกุลเงินปอนด์สเตอร์ลิงของอังกฤษและทันใดนั้นสหรัฐฯก็ได้รับอนุญาตให้“ พิมพ์” ได้มากที่สุดเท่าที่พวกเขาเห็นว่าจำเป็นโดยไม่ต้องมีการกำกับดูแลจากนานาชาติ ยกเว้นครอบครัวเดียวกันที่เป็นเจ้าของ Central ระบบธนาคาร.
โดยที่ทราบกันดีว่าสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกาของเราได้ลงมติอย่างลับ ๆ ในการอนุญาตให้ธนาคารเอกชนแห่งใหม่ชื่อ Federal Reserve (FED) พิมพ์เงินทางกายภาพของประเทศเกิดใหม่สำหรับเราเป็นเจ้าของกระทรวงการคลังของสหรัฐอเมริกา การกระทำอันเป็นการทรยศนี้เรียกว่า Federal Reserve Act of 1913 และ FED เพียงอย่างเดียวจะได้รับอนุญาตให้มีอำนาจทางการเงินทั่วโลกอย่างเต็มที่ในส่วนที่เหลือของโลก
ความคิดแบบ "เช็คเปล่า" ที่ให้เงินโดยตรงกับหนี้การเงินทั่วโลกในปัจจุบัน/ มนุษยชาติที่วิกลจริตยังคงดำรงอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามในช่วง Bretton Woods (1944) พันธมิตร NATO และสหรัฐอเมริกาจำเป็นต้องมีหลักประกันในการ“ วาง” เพื่อที่จะเริ่มแผนการครอบครองโลกของพวกเขา
ดังนั้นพวกเขาจึงถามราชวงศ์มังกรแดงของจีนซึ่งเห็นด้วยในเจตนารมณ์ของก
วิสัยทัศน์ที่ดียิ่งขึ้นสำหรับการฟื้นฟูสังคมในยุคของโลกใหม่ เป็นครอบครัวราชวงศ์มังกรแดงของจีนที่ให้การสนับสนุนสงครามอเมริกันกับจักรวรรดิอังกฤษในช่วงปลายทศวรรษที่ 1770 และทำไมชาวอเมริกันถึงยังคงยิง
ดอกไม้ไฟจีนเพื่อเป็นเกียรติแก่ของขวัญทุกวันที่ 4 กรกฎาคมจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้น Red Dragons จึงตกลงที่จะให้ยืมทองคำของพวกเขากับ Central Bankers เป็นระยะเวลาสูงสุดห้าสิบปีซึ่งสิ้นสุดในปี 1996 (บวกการเปลี่ยนแปลงหรือระยะเวลาผ่อนผัน 5 ปีทำให้
กำแพงด้านหลังคืนวันที่ 11 กันยายน 2544) และด้วยการกระทำที่มีเมตตากรุณานี้ทั่วโลก ระบบธนาคารกลางถือกำเนิดขึ้นโดยอนุญาตให้ประเทศที่มีสถานะดีทั้งหมดกู้ยืมเงินเพื่อการพัฒนาขื้นใหม่และ / หรือใช้ประโยชน์จากการค้าเพื่อสร้างประเทศที่ขาดสงครามหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ตอนนี้เพื่อทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงจำนวนทองคำที่ยืมไปยังโลกเสรีโดย Red Dragons ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าทองคำถูกขุดทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานกว่า 5,000 ปี และกลุ่มตระกูลมังกรแดงทั้ง 26 กลุ่มนี้จะสะสม
ดูแลรักษาเติบโตและปกป้องทรัพย์สินของพวกเขาด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่มีใครเทียบได้ ดังนั้นเมื่อพวกเขา
ตกลงที่จะให้ยืมทองคำของพวกเขาทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการเอื้อเฟื้อต่อประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่าของมนุษยชาติ
พวกเขาคาดว่าจะได้รับคืนในบางช่วงเวลา
ดังนั้นนายธนาคารกลางจึงเริ่มใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทองคำที่ซ่อนอยู่ในช่วงปี 1946 และเริ่มสร้างสังคมใหม่ทั่วโลก นี่คือยุคทองของอเมริกา…ปลาย
ปี 1940 ถึงกลางทศวรรษ 1960 การเติบโตและความเป็นไปได้ดูเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดในสหรัฐอเมริกา แต่
น่าเศร้าที่อำนาจสูงสุดมักจะทุจริตเสมอในที่สุดนายธนาคารกลางตัดสินใจที่จะเก็บทองคำไว้ใช้เองและเริ่มวางแผนกลยุทธ์เพื่อบรรลุจุดจบอันชั่วร้ายนี้
ดังนั้นพวกเขาจึงสร้างสงครามสองสามครั้ง ในเกาหลี เวียดนาม อิหร่านอิสราเอล / ปาเลสไตน์เลบานอน
บอสเนียคูเวตและอิรัก จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ 9/11 ซึ่งนำมนุษยชาติไปสู่
เส้นทางการทหารและการเงินในปัจจุบันสู่อัฟกานิสถานอิรัก (อีกครั้ง) อียิปต์ซีเรีย
อิสราเอล / ปาเลสไตน์ (อีกครั้ง) ลิเบียและในที่สุดยูเครน สงครามทั้งหมดนี้เป็นการตอบสนองโดยตรงต่อการให้ Red Dragons คืนทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันให้กับระบบธนาคารกลางที่ผิดนัดอย่างรวดเร็ว ความแตกต่างนี้เกิดขึ้นเมื่อ Red Dragons เรียกร้องให้ชำระหนี้อนุพันธ์ของ Lehman Brothers ในปี 2550 และยืนยันว่าจะต้องจ่ายดอกเบี้ยทองคำของพวกเขา
แต่เมื่อเลห์แมนไม่สามารถชำระหนี้ได้ รัฐบาลสหรัฐ(USG)ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางการเงินทั่วโลกโดยยืมเงิน 700 ล้านดอลลาร์จากพลเมือง (TARP) เพื่อรักษากำหนดการชำระหนี้ที่ธนาคารกลางสหรัฐเจรจากับ Red Dragons
ณ วันที่ 1 มีนาคม 2015 FED และ United States of American Corporation มีสภาพคล่องเหลือพอที่จะชำระหนี้ได้ดังนั้นจึงได้เปลี่ยน USG ให้กับผู้นำทางทหารของอัศวินสีขาวภายในเพนตากอนของสหรัฐฯและตอนนี้พวกเขาบริหารกิจการของประเทศ การเปลี่ยนแปลงนี้ได้เริ่มต้นอย่างเงียบ ๆ โดยย้อนกลับไปใน
ไตรมาสที่4 ปี 2555
ดังนั้นหากคุณได้ยินคำว่า“ Global Currency Reset” หรือ“ การประเมินค่าสกุลเงินใหม่” ในอนาคตขอให้เข้าใจง่ายๆว่าโลกกำลังรีเซ็ตกลับสู่ความสมดุลทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศอธิปไตย โดยแต่ละประเทศตกลงที่จะ“ ตีราคาค่าเงินของตน” ให้สอดคล้องกับมาตรฐานมูลค่าทองคำทั่วไปที่ตกลงไว้ล่วงหน้าสำหรับทั้งการวัดและการค้าความมั่งคั่ง
ระบบธนาคารใหม่ กลุ่มพันธมิตร BRICS
ตอนนี้ Red Dragons ได้อ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของของ Federal Reserve Bank และทรัพย์สินทั้งหมดของธนาคารผ่านค่าเริ่มต้นของสนธิสัญญาอธิปไตยครั้งหนึ่ง USD ที่แข็งค่าของเราได้สูญเสียความน่าเชื่อถือและมูลค่าทั่วโลกไปทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ Red Dragons จึงได้แทนที่ USD ด้วยสกุลเงินดิจิทัลใหม่ทั่วโลกที่เรียกว่า Treasury Reserve Note (TRN); และพวกเขาได้รับการสนับสนุนด้วยทองคำ โดยพื้นฐานแล้วการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจสหรัฐฯในขณะเดียวกันก็แทนที่สกุลเงินสำรองทั่วโลก(USD) เดิมด้วยตะกร้าสกุลเงินสำรองใหม่ทั่วโลกโดยพาดหัวด้วย Renimbi / Yuan (RNB / CYN) ของจีนตามลำดับ
ประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยขนาดเล็กทั้งหมดเมื่อขึ้นอยู่กับสหรัฐอเมริกาและ FED ผู้ยิ่งใหญ่ในการกำหนดมูลค่าสกุลเงินของประเทศของตนได้รับการปลดปล่อยจากพันธนาการทางเศรษฐกิจและได้รับอนุญาตให้ประเมินค่าสกุลเงินของตนเทียบกับมาตรฐานทองคำ
ความหมายประเทศที่ถูกคว่ำบาตรมายาวนานและสงครามที่ฉีกขาดเช่นเวียดนาม อินโดนีเซีย อิรักและ ซิมบับเวล้วนได้รับชีวิตใหม่ทางเศรษฐกิจเนื่องจากผู้นำของระบบธนาคารเก่าเปิดทางให้เป็นผู้นำคนใหม่ที่มีคุณธรรมมากขึ้น แม้ว่าการเปลี่ยนธนาคารจะไม่เพียงพอเนื่องจากนิสัยที่ไม่ดีนั้นตายยาก ดังนั้นพร้อมกับเงินทองหลังใหม่ก็ต้องมาด้วยความเป็นผู้นำทางการเมืองใหม่ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก BRICS Alliance ซึ่งก่อตั้งขึ้นหลังจากความล้มเหลวของตลาดในปี 2550 เพื่อจุดประสงค์นี้
( http://en.wikipedia.org/wiki/BRICS )
BRICS เป็นตัวย่อที่เป็นตัวแทนของประเทศบราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีนและแอฟริกาใต้และทรัพยากรทางเศรษฐกิจของพวกเขาพร้อมใจกันได้เข้ามาแทนที่สหรัฐอเมริกาเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจชั้นนำของโลกเช่นเดียวกับเหรียญสหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลกโดยที่ สกุลเงินอื่น ๆ ทั้งหมดมีมูลค่าเท่ากัน
ธนาคารเพื่อการพัฒนา BRICS Alliance Redevelopment เกิดขึ้นโดยไม่จำเป็น
แสงสว่างพร้อมเงินบริจาค 100B จากสมาชิกพันธมิตรที่เข้าร่วมทั้งหมด แหล่งเงินกู้การเงินระดับโลกแห่งใหม่นี้ได้เข้ามาแทนที่และขจัดความจำเป็นในกลไกการควบคุมแบบเก่าของระบบธนาคารกลางส่วนตัวได้แก่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลกซึ่งทั้งสองอย่างนี้ถูกสร้างขึ้นในระหว่างการ
ประชุมBretton Woods เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2487
พันธมิตร BRICS ใหม่ อ้างสิทธิ์ในประชากรทั้งหมดกว่าสามพันล้านคน GDP 60% และควบคุมการขนส่งที่สำคัญการทหารและทรัพยากรธรรมชาติในจุดยุทธศาสตร์ต่างๆทั่วเอเชียแอฟริกาและอเมริกาใต้ BRICS พันธมิตรและรายการที่เพิ่มขึ้นของพวกเขาในพันธมิตรที่ได้รับความจำเป็นมากทางเศรษฐกิจที่เป็นอิสระและการทหารจากครั้งหนึ่งที่โดดเด่นของสหรัฐนาโตและสหภาพยุโรปเปรียบเทียบ
แต่ BRICS Alliance ประสบความสำเร็จในการรีเซ็ตสกุลเงินทั่วโลกโดยที่คน
ทั้งโลกไม่รู้ได้อย่างไรเนื่องจากได้รับการผลักดันอย่างรุนแรงจากครอบครัวธนาคารกลางส่วนตัวและลูกน้องของพวกเขา ก่อนอื่นพวกเขาตรวจสอบหนี้ทั่วโลกอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเตรียมที่จะค้ำประกันหนี้ทั้งหมดกับทองคำสำรองของตัวเอง นั่นหมายความว่าผู้เฒ่ามังกรแดงต้องตกลงที่จะวางทองคำเพื่อใช้หนี้ทั้งโลก! ยากที่จะเชื่อ แต่ไม่มีความจริงแม้แต่น้อยนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ผู้นำของพวกเขารู้จักกันในนาม "ผู้อาวุโส" เมื่อเร็ว ๆ นี้ตกลงที่จะปล่อยทองคำสำรองที่เป็นหลักประกันในการ
บริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับมนุษยชาติ และสำหรับมนุษยชาตินี้จะขอบคุณชั่วนิรันดร์ ขอบคุณ อาวุโส!
การกระทำที่เอื้อเฟื้อของครอบครัวมังกรแดงทำให้กลุ่มพันธมิตร BRICS สามารถ
แทนที่ระบบธนาคารแบบเก่าด้วยมูลค่าสกุลเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากทองคำที่เป็นจริงและยั่งยืนจึงเป็นเวทีสำหรับยุคใหม่แห่งการรู้แจ้ง ความหมายการรีเซ็ตสกุลเงินทั่วโลก (GCR) และการประเมินค่าใหม่ (RV) จะสร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับมูลค่าในทุกอุตสาหกรรมประเทศและวัฒนธรรม ... และอนุญาตให้ประเทศอธิปไตยที่มีสถานะดีสามารถตรึงมูลค่าเงินของประเทศของตนบนเกณฑ์มาตรฐานร่วมกันถาวรและสม่ำเสมอไปอีกหลายพันปี.
สกุลเงินบางสกุลจะปรับตัวสูงขึ้นตามธรรมชาติในสินทรัพย์ภาคพื้นดินและการ
ถือครองทองคำ(ZIM, VND, IDR, IQD, TRY, MXN, PHP) ในขณะที่สกุลเงินอื่น ๆ จะร่วงลงอย่างรวดเร็ว (USD,
JPY, CHF, GBP, AUD , DEM, สามารถ) แต่ในท้ายที่สุดทุกประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยที่เห็นด้วยมีส่วนร่วมภายใต้กฎของ BRICS Alliance ทำตามข้อตกลงของพวกเขาเองผ่านสนธิสัญญาระหว่างประเทศและในขณะนี้ได้ขจัดหนี้อธิปไตยของพวกเขา ... สร้างอนาคตทางเศรษฐกิจโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากทองคำอย่างยั่งยืนสำหรับพวกเราทุกคน
ขอขอบคุณผู้อาวุโสมังกรแดงอีกครั้งและขอบคุณปู่สำหรับความเอื้ออาทรที่ไม่มีที่สิ้นสุดและความมุ่งมั่นเสียสละในการรักษาและขึ้นสู่สภาพของมนุษย์ เรารู้สึกถ่อมตัวและรู้สึกเป็นเกียรติตลอดไปที่ได้มีส่วนร่วมในเหตุการณ์สำคัญของดาวเคราะห์
มาตรฐานทองคำเก่าคุณค่าเบ็นช์มาร์ก
หากต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการและเหตุผลในการแลกสกุลเงินในอดีตคุณควรดูที่มูลค่าเงินพื้นฐานและวิธีกำหนดมาตรฐานนั้น อันดับแรกเราต้องดู
มูลค่าสากลที่แท้จริงของทองคำในอดีตและยอมรับว่าทองคำเป็นปัจจุบันและเป็นสกุลเงินมาโดยตลอด นอกจากนี้ใหเพิจารณาด้วยว่าสินทรัพย์ในภาคพื้นดินทั้งหมดรวมถึงน้ำมันอัญมณีแร่ธาตุและโลหะมีค่าล้วนมีการซื้อขายเหมือนเงินตราตั้งแต่เริ่มการค้าสมัยใหม่ ความหมายเช่นเดียวกับที่ทองคำแท่งหรือเหรียญทางกายภาพเคยถูกซื้อขายเป็นสินค้าในชีวิตประจำวันเช่นเดียวกับที่เราทำในปัจจุบันด้วยกระดาษหรือสกุลเงินดิจิทัลในทางทฤษฎีที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ในความเป็นจริง,มาตรฐานทองคำใหม่จะเห็นบุคคลแลกเปลี่ยนทองคำจริงสำหรับสินค้าและบริการจริงรวมถึงการทำธุรกรรมระหว่างรัฐบาล นี่คือเหตุผลที่โลกจะกลับไปมาตรฐานทองเก่าเป็นอย่างมากเช่นนั้น และทำไมมันจะต้องกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่คุ้มค่าทั้งหมดเป็นวัดเมื่อเทียบกับธนาคารกลางออกตั๋ว, พันธบัตรรัฐบาล, ธนาคารตราสารอนุพันธ์เครดิต
การ์ด และสกุลเงินท้องถิ่น พวกเขามีหนี้ที่ผ่านไม่ได้ ปรัชญาคำสั่งเหล่านั้น
สร้างขึ้นนั้นทำให้พิการไร้ความรับผิดชอบและผิดศีลธรรม
ด้วยเหตุนี้หน่วยเงินทุกหน่วยของมูลค่าจึงมีความสัมพันธ์ระหว่างผู้ถือหุ้นจริงกับทองคำทั้งหมดไม่ว่าจะขยับไปทางหรือห่างจากอัตราส่วน 1: 1 ของมาตรฐานทองคำ ดังนั้นพลเมืองของโลกจึงกลับมาเล่นในสนามแข่งขันทางเศรษฐกิจอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความกลมกลืนกันทั่วโลกสกุลเงินทั้งหมดจะต้องปรับเปลี่ยนหรือ "ตีราคา" ให้เป็นมาตรฐานทองคำที่ถูกต้องและเท่าเทียมกันก่อน สกุลเงินบางสกุลจะเปิดเผยต่อสาธารณะและทันทีและอยู่ใน "ตะกร้าการประเมินราคาครั้งแรก" เช่น ดีนาร์อิรัก ดองเวียดนาม ดอลลาร์ซิมบับเว และรูเปียห์อินโดนีเซีย ในขณะที่สกุลเงินอื่น ๆ จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่ทำให้มวลชนหรืออัลกอริธึมการจัดหาเงินทั่วโลกทำให้เสีย เมื่อมีการปรับปรุงสกุลเงินหรือมีการประเมินราคาใหม่การหากำไรจะถูกสร้างขึ้นภายในมูลค่าหรือราคาที่แลกเปลี่ยนได้ ด้วยเหตุนี้จึงสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจสำหรับผู้ที่ถือ
ตราสารหนี้ภาครัฐที่ได้รับการปรับปรุงทางกายภาพ และหากต้องการแลก
สกุลเงินในธนาคารพวกเขาสามารถรับส่วนต่างเป็นกำไร ... หรือขาดทุนขึ้นอยู่กับสกุลเงินที่ถืออยู่
ตอนนี้เป็นความจริงแล้วบางสกุลเงินจะตีราคาใหม่ในขณะที่สกุลเงินอื่น ๆ จะตีราคาใหม่ และมีเพียงไม่กี่แห่งที่จะล่มสลายและจำเป็นต้องถูกนำออกจากการหมุนเวียนอย่างช้าๆเช่นยูโรของ ECB
และ USD ของธนาคารกลางสหรัฐ บางอย่างก็พุ่งสูงขึ้นมากเช่นดอลลาร์ซิมบับเวซึ่งมีกำหนดจะตีราคาทศนิยมมากถึงสิบห้าตำแหน่งตั้งแต่นั้นมา ในท้ายที่สุดส่วนใหญ่จะปรับใหม่โดยไม่มีใครสังเกตเห็นในที่สุดโดยมีเพียงไม่กี่สกุลที่เลือกไม่ปรับเลยเพราะพวกเขาไม่เคยทิ้งการเทียบมูลค่ามาตรฐานทองคำ เพื่อให้เห็นภาพที่ดีขึ้นว่าสกุลเงินอธิปไตยระหว่างประเทศของโลกจะเคลื่อนไหวอย่างไรเมื่อ
เทียบกับมูลค่าที่อัปเดตของทองคำด้านล่างนี้คือภาพที่แสดงให้เห็นระยะทางที่
สกุลเงินต้องเดินทางเพื่อให้เป็นหนึ่งเดียวกับมูลค่าตลาดที่ยุติธรรมในปัจจุบันของทองคำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น