25 ตุลาคม 2563

การยกระดับจิต

การฝึกจิต หรือการฝึกใช้พลังจิตเล่นฤทธิมีมานานตั้งแต่อดีตนับพันปี 

เป็นเรื่องจริงที่ไม่ต้องสงสัย
จากอดีตนักบวชฤาษีโยคีจนถึงปัจจุบันนักจิตวิทยาและนักวิทยาศาสตร์ 

ศึกษาเรื่องพลังจิต โดยเฉพาะการนำพลังจิตมาใช้ 
บันทึกคัมภีร์ทางพุทธศาสนา่เขียนวิธีการฝึกจิตให้มีฤทธิ นึกคิดเป็นไปตามความต้องการ 

เรียกว่ามโนมยิทธิ อิทธิวิธี ดังเช่นตำราจิตตานุภาพ ,ทิพยอำนาจ,
วิสุทธิมรรค,

พระไตรปิฎก อธิบาย วิธีการฝึกจิตอย่างละเอียดเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นอย่างมีเหตุผล

" จิต " 
   เป็นกระบวนการทำงานของสมอง ที่รับรู้สิ่งต่างๆทั้งภายในและภายนอกร่างกาย มีกระบวนการ รู้ จำ คิด รู้สึก ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าขนาดต่ำ 

หรืออาจกล่าวได้ว่าจิตเป็นพลังงานนั้นเอง 
การฝึกจิตจึงเป็นกระบวนการฝึกใช้สมองควบคุมกระบวนการทำงานของสมอง พลังจิต 

เป็นพลังสมองที่ฝึกให้เกิดผลขึ้น เช่น การฝึกเพื่อมีพลังจิตคุ้มครองตนและสิ่งที่ต้องการ
การฝึกเพื่อสำแดงฤทธิผลาดแผลงสยบศัตรู และให้เกิดความเลื่อมใสศรัทธา,การสะกดจิตควบคุมความคิดบำบัดอาการและรักษาโรค

จิต (สมอง) ที่ฝึกแล้วมีพลังที่สามารถควบคุมทุกสรรพสิ่งทั้งภายในและภายนอกร่างกาย 
ทั้งมวลสารและพลังงาน ควบคุมการ เปลี่ยนแปลงพลังงานและมวลสารตามความต้องการ เป็นได้ดังใจนึกคิด(มโนมยิทธิ) และสามารถแสดง
ฤทธิ (อิทธิวิธี)
   ความฉลาดรอบรู้ พ้นทุกข์
   ตาทิพย์เห็นอดีต อนาคต 
   หูทิพย์
   อ่านใจคน
   ควบคุมสะกดจิตผู้อื่น
   ควบคุมเปลี่ยนแปลงวัตถุธาตุ มวลสารและพลังงาน
   เคลื่อนย้ายวัตถุ
   เหาะเหินเดินอากาศ เดินบนน้ำ เดินผ่านวัตถุ หายตัว
   สื่อสารทางจิต

ความมหัศจรรย์ทางจิตตามแนวศาสนาที่มีมาก่อนวิทยาศาสตร์และอยู่เหนือข้อจำกัดของวิทยาศาสตร์ในการพิสูจน์สิ่งที่มีอยู่จริงแต่จับต้องไม่ได้ 

ท้าทายความสามารถของนักวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันที่จะทำเรื่องดังกล่าวให้เกิดขึ้นได้ เช่นเดียวนักบวชในอดีต พลังจิตมีอยู่ในมนุษย์ทุกคนแต่จะรู้จักควบคุมและนำออกมาใช้หรือไม่ 
    การฝึกจิตทำให้เข้าใจธรรมชาติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับธรรมชาติควบคุมและเปลี่ยนแปลงสภาพธรรมชาติได้ดั่งใจนึก
     พลังจิตใช้เพื่อป้องกันตน ปรับสภาพให้อยู่สบาย ฝึกกำลังจิตให้เข้มแข็งเช่นเดียวกับการออกกำลังกาย เป็นการออกกำลังจิตหรือออกกำลังสมอง และควรเข้าใจว่าผู้มีพลังจิตยังคงต้องประสบโลกธรรมเกิดแก่เจ็บตาย 
ฤทธิที่ดีและง่ายที่สุดที่ควรฝึกเป็นการฝึกให้เกิดความฉลาดรู้วิธีทางพ้นทุกข์
การพัฒนาพลังจิตเพื่อเกิดประโยชน์เป็นสิ่งที่ต้องฝึกอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสำเร็จ กระบวนการคิดและปฏิบัติดังกล่าวตั้งอยู่บนความจริงของเหตุและผลที่สามารถพิสูจน์ด้วยตนเอง หลักการทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันก็เป็นเช่นเดียวกับพุทธศาสตร์ที่มีวิธีการอธิบายสิ่งต่างๆอย่างมีเหตุผล จากเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนทำให้เข้าใจได้อย่างง่ายและนำไปใช้ได้จริง

วิธีเพิ่มการสั่นของคุณ:
 -Semen การรักษา / พรหมจรรย์
 - การทำสมาธิ
 - ฟังเพลงความถี่ (369 hz, 417 hz, 528 hz, 639 hz, 741 hz, 852 hz, 963 hz)
 - เป็นแหล่งความสุขของคุณเองอย่าแสวงหาการตรวจสอบ
 - หายใจเข้าและออก🔁
 - ปล่อยวางความกลัว (หลักฐานเท็จปรากฏว่าเป็นของจริง)
 -รักตัวเอง
 - อยู่กับปัจจุบันและอยู่ในช่วงเวลานี้
 - ตระหนักว่าคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสติสัมปชัญญะบริสุทธิ์ที่สร้างขึ้นจากแหล่งที่มา
 - กำจัดความคิด / อัตตาของคุณ
 - เปลี่ยนความคิดเชิงลบให้เป็นบวก
 -Sun จ้องเพื่อรับการดาวน์โหลด
 - เชื่อมต่อกับธรรมชาติ
 -Ground ตัวเอง (ออกไปข้างนอกเท้าเปล่า)
 - มีวินัยในตนเอง
 - ออกกำลังกาย
 - อดอาหาร / กินน้อย
 - ตัดอาหาร gmo / อาหารจานด่วน
 -อ่านหนังสือ
 - อาบน้ำเย็น
 - แสดงความคิดสร้างสรรค์ของคุณ
 - แสดงความขอบคุณสำหรับทุกสิ่ง
 - เชื่อมต่อกับจักรวาล
 - ให้ความสำคัญกับตัวเอง
 - ไลฟ์สไตล์ที่เงียบขรึม
 - กระจายความรักที่ไม่มีเงื่อนไข
 - การยืนยัน
 - ทำความสะอาดสภาพแวดล้อมของคุณ
 - อย่าแข่งขันกับคนอื่นเราทุกคนอยู่ในเส้นทางของตัวเอง
 - ตัดโซเชียลมีเดีย / อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อมุ่งเน้นไปที่ตัวคุณเอง
 - ไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สิ่งแรกในตอนเช้าไปนั่งสมาธิและออกกำลังกาย
 - ปล่อยคน / เพื่อนที่เป็นพิษ
 -เต้นรำ
 - บันทึกความฝัน
 - นอนหลับได้ 7-8 ชั่วโมง
 - ตั้งความตั้งใจในแต่ละพระจันทร์เต็มดวง
 - ทานสมุนไพรธรรมชาติ  น้ำมันเมล็ดดำฮาริตากิมอสทะเล
 - ใช้ยาสีฟันที่ปราศจากฟลูออไรด์
 - ขจัดความกลัวความตาย (จิตวิญญาณของเราดำรงอยู่ตลอดไป)
 - พูดน้อยลง
 - ให้คุณกลับตรงเพื่อเปิดใช้งาน Kundalini
 - ฝึกความมีน้ำใจ
 -มีความสุขและยิ้ม!
 อย่าลังเลที่จะจับภาพหน้าจอนี้และทดลองใช้  ความรักและแสงสว่างมากมายสำหรับผู้ที่เคยพบเจอสิ่งนี้ขอให้จักรวาลอวยพรคุณตลอดการเดินทางที่เหลือ!

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...