จิตสงบ ก็..เห็นความจริง
คำสอน หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล สอนกรรมฐานอานาปานสติ
... กำหนดลมหายใจ เมื่อจิตสงบลงไป จิตจะไปรู้อยู่ที่ลมหายใจเข้าออกอยู่เป็นปกติ…โดย เอาจิต เอาสติ มารู้ลมหายใจ ลมหายใจก็เป็นฐานที่ตั้งของสติ ลมหายใจ คือ กาย สติ จดจ่ออยู่ที่ตรงนั้น จิต มีวิตกวิจารอยู่กับลมหายใจ
...เมื่อจิตสงบลงไป ลมหายใจก็ค่อยละเอียด ๆ ลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งในที่สุดลมหายใจก็หายขาดไป เมื่อลมหายใจหายขาดไปจากความรู้สึก ร่างกายก็พลอยหายไป จิตจะไปสงบนิ่งอยู่ในท่ามกลางของกาย แล้วก็แผ่รัศมีออกมารู้ทั่วทั้งกาย
***ความสว่างแห่งจิต จึงมองเห็นอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายได้หมดทั้งตัว.. เพราะลมย่อมวิ่งเข้าไปที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อจิตตามลมหายใจเข้าไปแล้ว ..จิตจะรู้ทั่วกายหมด .. จิตสงบอยู่.. สงบนิ่ง.. รู้สว่างอยู่ในกาย วิตก วิจารณ์ สติก็รู้พร้อมอยู่ในกาย เกิดปีติและความสุข จิตจึงเป็นหนึ่ง ( นิวรณ์ ๕ กามฉันทะ พยาบาท ถีนมิทธะ อุทธัจจกุกกุจจะ วิจกิจฉา ) หายไป จิตกลายเป็นสมถะ
*** แล้วให้เดินวิปัสสนา ให้พิจารณากายคตาสติ (ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก) อย่างใดอย่างหนึ่ง ให้มองเห็นเป็นสิ่งปฏิกูลน่าเกลียดโสโครก เช่นกำหนดจิต ลอกหนังออก ลอกเนื้อออก มองให้มันถึงกระดูกพิจารณากลับไปกลับมาอยู่อย่างนั้น ..ให้บริกรรมภาวนา”อัฐิ ๆๆ” จ้องความรู้สึกของจิตลงไปในบริเวณหน้าอก เมื่อจิตสงบลงไปแล้ว จะได้นิมิตมองเห็นโครงกระดูก .ให้เพ่งจ้องมองดูที่โครงกระดูก จนกระทั่งโครงกระดูกมันแหลกละเอียด สลายตัวไป จะทำให้ ละความกำหนัดยินดี ในกาย
*** แล้ว ให้พิจารณา กายมาจาก ธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ แยกออกมา ให้มองเห็นเป็นนิมิตว่า ร่างกายนี้มีแต่ดิน น้ำ ลม ไฟ ไม่ใช่ตัวเรา …จนกระทั่งจิตยอมรับ(ปัญญา) ว่า กายไม่ใช่ตัวตน เป็นเพียง ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ แล้วมี วิญญาณ ที่มีกิเลสตัณหา อุปทาน กรรม มายึดครอง จึงทำให้เราเกิดยึดมั่นถือมั่นว่า เป็น ร่างกายของเรา
***การเห็นชัดเช่นนั้น เป็นการ เห็นว่า “ร่างกายเป็นอนัตตาหมดทั้งสิ้น” .. ภูมิจิต.. จะก้าวขึ้นสู่ “ภูมิธรรมเอง”โดยอัตโนมัติ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น