15 พฤศจิกายน 2561

สติมีด้วยกัน 3 ระดับ

สติมีด้วยกัน 3 ระดับ
1. สติระดับควบคุมความคิด
สติระดับนี้เป็นสติขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ต้องใช้เพื่อดำรงชีวิตประจำวัน เป็นสติที่มีอยู่แล้วในสัตว์โลกตั้งแต่มนุษย์ขึ้นไป เป็นสติที่มีความจำเป็นสำหรับการทำงาน ความสัมพันธ์ และการแสดงออกให้เหมาะสมกับกาลเทศะ เช่น นึกว่า "ขณะนี้เรากำลังทำงานอยู่ ก็ต้องตั้งใจทำงาน" หรือนึกว่า "เราไม่ควรไปโกรธเขาเลย ให้อภัยเขาจะดีกว่า จะได้ไม่มีเรื่องติดใจต่อกัน" การฉุกคิดในลักษณะนี้ ล้วนเกิดจากการใช้สติในการควบคุมความคิดทั้งสิ้น สติระดับที่หนึ่งเป็นสติที่ทำให้เรากลายเป็นผู้มองโลกในแง่ดี ถ้าใช้สติระดับที่หนึ่งบ่อยๆ ชีวิตในโลกภายนอกก็จะพัฒนาขึ้นเป็นลำดับ
2. สติระดับเห็นความคิด
สติระดับนี้เกิดจากการวางใจให้เป็นกลาง แยกจิตออกจากกายและความคิดมาเป็นผู้สังเกต การฝึกสติเช่นนี้บ่อยๆ จะทำให้กลายเป็นผู้เท่าทันความคิด สามารถเห็นการเกิดขึ้นและดับไปของความคิด ทำให้อยู่เหนืออารมณ์ของตนเองได้ ความทุกข์ต่างๆ จะน้อยลง ความสุขจะเพิ่มขึ้น อัตตาตัวตนจะทุเลาเบา ถ้าฝึกสติในระดับนี้เป็นประจำ สติในระดับแรกก็จะเกิดง่ายขึ้น สติระดับที่สองนี้ ไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการฝึกจิตอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่การฝึกวิปัสสนากรรมฐานเป็นต้น
3. สติระดับเหนือความคิด (มหาสติมหาปัญญา)
สติระดับที่สามนี้ เป็นสติที่ก่อให้เกิดปัญญาสูงสุด เป็นสติที่เกิดขึ้นจากการฝึกฝนสติในระดับที่สองจนเกิดความชำนาญ สติระดับมหาสติมหาปัญญานี้ ไม่จำเป็นต้องใช้การฉุกคิด เพราะเป็นสติที่เกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานเหมือนสายน้ำไหล ไม่มีคำว่าขาดช่วงขาดตอน กล่าวคือเป็นสติที่มีความเร็ว จนสามารถเห็นว่าความคิดและความรู้สึกว่ามีกระบวนการทำงานอย่างไร สามารถเข้าไปรับรู้กระบวนการทำงานของขันธ์ห้าได้อย่างละเอียด ทำให้หมดความสำคัญมั่นหมายว่ามีตัวกูของกูอยู่ เปลี่ยนอวิชาให้กลายเป็นวิชา กลายเป็นผู้หมดสิ้นความชั่ว หมดสิ้นในอัตตาตัวตน พ้นไปจากอำนาจของมายาสมมุติ ส่งผลให้สามารถควบคุมสติในสองระดับแรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ พูดง่ายๆ ว่า เป็นภาวะที่บุคคลผู้นั้นเข้าถึงภาวะบรมสุข ไม่สามารถมีความทุกข์ได้อีกต่อไป สติระดับที่สามนี้ เป็นสติที่ทำให้มนุษย์พ้นสภาพจากความเป็นปุถุชนไปสู่ความเป็นอริยชนโดยสมบูรณ์!!!
Cr.พศิน อินทรวงค์

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...