"..พิจารณาแยกธาตุหรือแยกรูปก็พิจารณาให้ดี ตั้งแต่ภายนอกเข้าไปสู่ภายใน แยกส่วนแบ่งส่วนให้เห็นทั้งความเป็นอยู่ ความตั้งอยู่ และความสลายไป หรือเริ่มแต่การเริ่มแรกแห่งความผสมของธาตุขันธ์เข้ามาเป็นรูปเป็นกาย เป็นหญิงเป็นชาย นำมาจากธาตุสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ มีใจเป็นผู้รับผิดชอบเข้าไปพึ่งพิงอาศัยในธาตุในขันธ์อยู่ จึงมีความรู้แปลกๆ ต่างๆ ผิดกันกับต้นไม้ ผิดกันกับดินฟ้าอากาศทั้งหลาย เพราะอันนี้มีความรู้ครองตัวอยู่
อันนี้แลพาให้สัตว์โลกทั้งหลายได้ให้ชื่อให้นามว่า เป็นสัตว์เป็นบุคคลก็เพราะใจดวงนี้ แต่เมื่อสภาพอันนี้สลายตัวลงไปแล้วก็หมดความหมาย ดินที่มารวมกันเข้าเป็นร่างกายเรานี้ ก็ต้องสลายตัวลงไปเป็นดิน เป็นน้ำ เป็นลม เป็นไฟ
ไปตามสภาพเดิมของเขาไม่สูญหายไปไหน จิตใจซึ่งเป็นธรรมชาติของตัวเองโดยธรรมชาติก็ต้องเป็นจิตอยู่เช่นนั้น ไม่แปรปรวนไปตามธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ
แต่ถ้าจิตนี้ได้สร้างคุณงามความดีไว้มากน้อยเพียงไร ก็จะอาศัยคุณงามความดีนั้นแลไปก่อกำเนิดเป็นรูปเป็นกาย เป็นหญิงเป็นชาย หรือเป็นเทวบุตรเทวดาขึ้นในภพชาติต่อไป
ไม่ใช่สิ่งอื่นสิ่งใดที่จะมีอำนาจเหนือกรรมนี้และเหนือผลแห่งกรรมนี้ มาสร้างบุคคลให้เป็นไปได้ต่างๆ นอกจากกรรมที่ตนทำไว้แล้ว และแสดงผลขึ้นมาในลักษณะต่างๆ กันเท่านั้น
เมื่อร่างกายก็เป็นเครื่องแปรสภาพ เป็นสิ่งที่ไม่ยั่งยืนถาวรอยู่เต็มตัวของเราอยู่แล้ว ก็เท่ากับเป็นฟืนเป็นไฟเผาจิตใจของเราอยู่ตลอดเวลา
เราจะพิจารณาอย่างไรจึงจะถอนอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นสำคัญผิด
ว่านี้เป็นเรา นี้เป็นของเรา นั้นเป็นของเขาเสียได้.."
พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ใหญ่พระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมพระและฆราวาส ณ วัดอโศการาม สมุทรปราการ
เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๑๘
ผลของการศึกษาและปฏิบัติธรรม
#พระมหาเจดีย์ศรีแสงธรรมวิสุทธิมงคล
www.luangta.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น