ลูกหลานหลวงปู่ใหญ่ส่งภาพนี้มาให้หลวงปู่อธิษฐานจิต หลวงปู่จึงอธิษฐานด้วยพลังครอบจักรวาลให้ลูกหลานทุกคนนำไปบูชาให้เกิดสวัสดิมงคลผ่านพ้นภัยพาลทุกประการ.. ผู้ใดที่ทำภาพนี้ขึ้นมาเป็นคนแรกหลวงปู่ขออนุโมทนาบุญด้วย นะลูกหลานเอ๊ย
ช่วงเวลาต่อไปนี้ลูกหลานต้องระมัดระวังภัยกันให้มากนะลูกนะ เพราะพลังงานฝ่ายลบมีมาก พลังงานฝ่ายบวกมีน้อย แม้แต่ผู้ใฝ่ธรรมเองก็ยังใช้ความรู้ธรรมะซึ่งตนเองยังรู้ไม่จริง รู้ไม่ละเอียดลออ ไปกดข่มผู้อื่นในลักษณะอุปนิสัยกระด้าง , มีอัตตาสูง , มีอัสมิมานะและศีลพรตปรามาส , มุ่งหมายข่มขี่ผู้อื่นว่าไม่รู้ ไม่ถูกต้องเท่าตน ตนนั้นมีความดีงามถูกต้องมากกว่าใคร ๆ , คอยจ้องจับผิด , จิตไร้ปัตตานุโมทนามัย ยากไร้พรหมวิหาร 4 , ไม่มีหรือบกพร่องรุนแรงด้านสังคหวัตถุ ฯลฯ.. นี่เองที่เป็นเครื่องตัดสินของผู้คุมกฎเบื้องบนในระดับจักรวาลว่า "ถึงเวลาแล้วหรือยังที่มนุษย์จะต้องได้รับบทเรียนครั้งยิ่งใหญ่ !?"
เพราะมีสิ่งบ่งชี้ที่ได้พิสูจน์ออกมาเด่นชัดแล้ว ก็คือ ยุคปัจจุบันนี้แม้ขนาดในหมู่ผู้คนที่ใฝ่ธรรมยังมีจิตใจกระด้าง ขุ่นมัว มีอัตตาสูง มุ่งหมายกดข่มจับผิดผู้อื่น ความอารีอารอบต่อผู้อื่นมีน้อยยิ่งนัก.. แล้วผู้ที่มิได้ใฝ่ธรรมเล่า จะมีพฤติกรรมหยาบกระด้างเลวทรามกว่านี้สักเพียงใด !?
หลวงปู่ใหญ่ พระอรหันต์ทั้งปวง หรือแม้กระทั่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ มิอาจฝืนกฎแห่งกรรมเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ได้.
กฎแห่งกรรมนั้นเป็นหลักใหญ่รองลงมาจากกฎแห่งธรรม
การแก้ไขปรับปรุงวิบากบาปกรรมส่วนรวมให้ดีขึ้น โดยเฉพาะวิบากบาปกรรมที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติ และการเบียดเบียนล้างผลาญทำสงครามกันนั้น ต้องแก้ไขโดยอาศัยกฎแห่งธรรม กล่าวคือ มวลมนุษย์ส่วนใหญ่จะต้องช่วยกันกำหนดพฤติกรรมทางใจ-วาจา-กายให้ดีงามสูงส่ง ให้อิทธิพลของพลังฝ่ายดีอยู่เหนือฝ่ายชั่ว ให้ฝ่ายชั่วอ่อนกำลังลง.
มนุษย์เพียงจำนวนน้อยนิด แม้มีฤทธิ์เดชเพียงใดก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงบาปกรรมของคนส่วนใหญ่ได้
แต่ในหมู่มนุษย์จำนวนน้อยนิดที่เป็นกัลยาณมิตรต่อกัน ใฝ่ธรรมด้วยใจบริสุทธิ์แท้จริงร่วมกัน ปราศจากปรามาสข่มขี่กัน ย่อมมีพลังฝ่ายบวกที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกันและกันให้ปลอดภัย ผ่านพ้นภัย ไปได้
หลวงปู่ใหญ่จึงขอให้ลูกหลานอย่าตื่นตระหนก เพียงตั้งสติ ปฏิบัติบูชา ทาน-ศีล-ภาวนา สวดมนต์ ทำกรรมฐานกันให้มาก ด้วยใจสะอาด-สว่าง-สงบ-แจ่มใส-เบิกบาน บุญบารมีแห่งพุทธะและอริยะบุคคลโดยเฉพาะหลวงปู่ใหญ่ซึ่งประสิทธิให้ลูกหลาน ย่อมช่วยลูกหลานได้ เมื่อลูกหลานปฏิบัติบูชาอย่างดีงามสม่ำเสมอ
การที่หลวงปู่ใหญ่บอกกล่าวข่าวสารครั้งนี้ อาจมีผลให้ภัยที่จะเกิด เลื่อนเวลาออกไปก็ได้ หรือ อาจลดทอนความรุนแรงลงก็ได้ ทั้งนี้เป็นไปตามกฎเบื้องบนประการหนึ่ง คือ เมื่อมนุษย์รู้ว่าภัยจะเกิดแล้ว พากันไม่ประมาท ระมัดระวังตน ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมกันมากขึ้น สภาวะที่คุมกฎอยู่ก็จะยังไม่ส่งภัยพิบัติมาให้บทเรียนแก่มนุษย์ในขณะนั้น
แต่สภาวะที่คุมกฎอยู่นี้ ได้ส่งสัญญาณมาเตือนมนุษย์หลายครั้งหลายคราแล้ว และได้เลื่อนเวลาแห่งภัยพิบัติด้วยใจกรุณาต่อมวลมนุษย์ไปหลายครั้งหลายคราแล้ว
ฉะนั้นความแน่นอนที่จะเกิดภัยพิบัติในช่วงเวลาต่อไปนี้ จึงมีมากขึ้นกว่าระยะเวลาที่ผ่านมา หรือหากไม่เกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติ ภัยพิบัติจากการเบียดเบียนผลาญพร่าครั้งใหญ่ในหมู่มนุษย์ เช่น ภาวะสงคราม ก็อาจจะเกิด.. นะลูกหลานเอ๊ย
และหลวงปู่ใหญ่ก็จะต้องเน้นย้ำด้วยหลักของพระพุทธองค์ผู้ทรงเป็นหลักใจอันประเสริฐว่า "จงตระหนักแต่อย่าตระหนก ; จงระวังแต่อย่าระแวง"
ผู้ใดเป็นพุทธศาสนิกชนโดยแท้จริง เป็นลูกหลานหลวงปู่ใหญ่ ต้องรับรู้ด้วยใจ สงบ เบิกบาน ดำเนินการอย่างถูกต้องสอดคล้องครบถ้วนไปตามเหตุปัจจัย
เมื่อเป็นกรรมส่วนรวม เราซึ่งเป็นคนส่วนน้อยได้ประพฤติดีปฏิบัติชอบอย่างที่สุดแล้ว.. ฉะนั้นสิ่งใดจักต้องเกิดก็ต้องปล่อยให้เกิด.
จงน้อมกาย-วาจา-ใจ ปฏิบัติบูชาด้วยความบริสุทธิ์ สะอาด-สว่าง-สงบ เถิด.. นะลูกหลานเอ๊ย ๚
----------------
#หลวงปู่เทพโลกอุดร.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น