03 ตุลาคม 2563

ปวารณา

.
คำว่า “ปวารณา” พระจะไม่ทราบก็มีนะ เวลานี้มันจะเป็นเพียงพิธีกิริยาออกมาจากความไม่มีธรรมในใจ ไม่มีวินัยในใจแล้วนะ คำว่า สงฺฆมฺ ภนฺเต ปวาเรมิคือปวารณาตน เปิดโอกาสตนแก่สงฆ์ทั้งหลายที่นั่งรวมกันอยู่นี้ คือเปิดเผยเปิดโอกาสให้กัน แนะนำตักเตือนสั่งสอนได้ ผิดพลาดประการใด ได้เห็นก็ดี กิริยาอาการที่ไม่ถูกต้องนั้น ได้ยินก็ดี กิริยาแห่งการแสดงหรือการพูดออกมา หรือได้สงสัยก็ดี เหล่านี้ ให้ตักเตือนสั่งสอน เมื่อทราบแล้วจะได้ปฏิบัติแก้ไขดัดแปลงต่อไป ความหมายว่าอย่างนั้น คำปวารณาจึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เปิดโอกาสไม่ให้มีทิฐิมานะต่อกัน ไม่มีคำว่าชาติชั้นวรรณะ เป็นสังฆะ หรือเป็นพระสงฆ์ศากยบุตรอันเดียวกัน เปิดโอกาสให้กัน
.
เพราะความรู้เราลำพังคนเดียว ไม่สามารถที่จะรู้รอบได้ในกิริยาความเคลื่อนไหวของตน จึงต้องได้อาศัยผู้อื่นคอยแนะนำตักเตือนสั่งสอน นับแต่ครูบาอาจารย์ลงมาถึงพระเพื่อนฝูงด้วยกัน คอยแนะนำตักเตือนสั่งสอนกัน เปิดโอกาสให้กันเพื่ออรรถเพื่อธรรม ไม่ได้เพื่อทิฐิมานะฐานะสูงต่ำอะไรเลย สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ธรรม ความเป็นธรรมก็คือความเปิดโอกาสเพื่ออรรถเพื่อธรรมคือความถูกต้องดีงามแก่ตน เมื่อท่านผู้อื่นผู้ใดได้เห็นความไม่ดีไม่งามของเราที่แสดงออก ด้วยการได้เห็นได้ยินได้ฟัง ด้วยรังเกียจสงสัยก็ดีนั้นจะได้เตือนเรา ก็จะได้รับไว้ประพฤติปฏิบัติ
.
เรื่องทิฐิมานะนั้นเป็นเรื่องของกิเลส การเปิดโอกาสตักเตือนซึ่งกันและกันนั้นเป็นเรื่องของธรรม เพราะเราอยู่ด้วยกันหลายคน อาจมีความผิดพลาด จึงต้องเปิดโอกาสให้แนะนำหรือตักเตือนซึ่งกันและกันได้ ให้พากันเข้าใจตามนี้ นี่ละพระโอวาทของพระพุทธเจ้า ถ้าต่างคนต่างปฏิบัติตามพระโอวาทนี้อยู่ เราทุกคนเท่ากับศาสดาประทับอยู่บนศีรษะของเรา คือพระธรรมพระวินัยซึ่งเป็นองค์แทนของศาสดา เราปฏิบัติตามหลักธรรมหลักวินัยอยู่นี้เท่ากับเราเทิดทูนศาสดา ประหนึ่งพระองค์ประทับนั่งอยู่บนศีรษะคือหัวใจของเราทุกคนๆ นี่เป็นธรรมสดๆ ร้อนๆ ธรรมของพระพุทธเจ้า ไม่ได้เป็นความครึความล้าสมัยดังกิเลสที่มันล้ำยุคล้ำสมัย เหยียบย่ำทำลายศาสนาคือธรรมวินัยอยู่เวลานี้ดาษดื่นจนเกิดความสลดสังเวช นี่ไม่ใช่ธรรมไม่ใช่วินัย แต่ดาษดื่นในศาสนาทุกวันนี้ มีแต่ของปลอมเต็มบ้านเต็มเมืองเต็มวัดเต็มวา จึงน่าสลดสังเวช
.
พวกเราทั้งหลายผู้มุ่งอรรถมุ่งธรรม อย่าให้มีกิริยาอาการอย่างนั้นออกมาทางกายทางใจทางวาจาทุกอย่างเป็นอันขาด นี่เรียกว่าเทิดทูนพระศาสดาคือหลักธรรมหลักวินัย ด้วยอาการแสดงออกของตนทุกอย่าง ให้พากันจำเอานะ เอาละวันนี้พูดเพียงเท่านั้น

................................................................

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมพระ “วันออกพรรษา” ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...