14 ธันวาคม 2563

เหตุที่เป็นเปรต

ในเมืองสาวัตถี มีประชาชนจำนวนมากที่เป็นคนไม่ศรัทธาไม่มีความเลื่อมใส ต่อพระรัตนตรัย พวกเขาเหล่านี้มีจิตถูกครอบงำด้วยความตระหนี่ถี่เหนียว หวงแหนสิ่งที่ตนมีอยู่
ไม่รู้จักแบ่งปันเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้อื่น

ในขณะที่พวกเขามีชีวิตอยู่นั้นไม่พากันทำบุญให้ทาน ไม่รู้จักสละทรัพย์สินเงินทองหรือสิ่งของช่วยเหลือผู้อื่น ทั้งที่ตนเองมีทรัพย์สินสมบัติพอที่จะช่วยเหลือจุนเจือได้ เพราะจิตใจเต็มไปด้วย
ความตระหนี่ พวกเขาพากันดำเนินชีวิตด้วย
ความตระหนี่จนกระทั่งชราและตายจากโลกนี้ไปในที่สุด

หลังจากที่ตายแล้ว ก็ไปเกิดเป็นเปรตอยู่ไกล้ๆเมืองสาวัตถีที่พวกเขาเคยอาศัยตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะผลกรรมคือความตระหนี่ที่พวกเขาสั่งสมไว้นั่นเอง

เช้าวันหนึ่ง พระโมคคัลลานะได้เข้าไปบิณฑบาตในเมืองสา
วัตถี ขณะที่กำลังเดินอยู่ก็มองไปเห็นพวกเปรตซึ่งมีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัวกลุ่มหนึ่ง จึงได้ถามพวกเปรตเหล่านั้นว่าเป็นใคร ทำไมจึงเปลือยกายและมีรูปร่างน่าเกลียด น่ากลัว
ซูบผอม เนื้อตัวสะพรั่งไปด้วยเส้นเอ็น เหลือแต่ซี่โครง และทำไมจึงมาอยู่ที่นี่

เปรตจึงเล่าให้พระโมคคัลลานะฟังว่า พวกตนเป็นเปรต ได้
รับแต่ความทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส เพราะเคยกระทำความชั่วไว้มาก มีจิตใจชั่ว ไม่เคยให้ทาน ไม่เคยรักษาศีลไม่เคยเจริญภาวนาไม่มีความเลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัย
ในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เลย พากันทำ แต่กรรมชั่วหลังจากตายจากโลกมนุษย์แล้ว จึงมาบังเกิดเป็นเปรตพระโมคคัลลานะได้ฟังแล้วจึงถามเพิ่มเติมว่า พวกเขาพากันทำความชั่วอะไรไว้ หรือทำชั่วด้วยกาย วาจา และใจอย่างไร

ผลแห่งกรรมจึงส่งให้ต้องมาเกิดเป็นเปรตได้รับแต่ทุกข์ทรมานพวกเปรตจึงเล่าว่า ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ถึงแม้จะมีพราหมณ์จำนวนมากที่เป็นเนื้อนาบุญ เป็นที่พึ่งอันยิ่งใหญ่ แต่พวกตนก็ไม่
เคยได้ทำบุญกุศลอะไรเลย ไม่เคยทำบุญให้ทาน แม้แต่เงินก็ไม่เคยบริจาคแม้แต่น้อย แม้จะพอมีพอกิน แต่ก็ไม่ชวนกันสร้างที่พึ่งไว้ให้กับตนเอง ไม่ได้สะสมเสบียงที่จะเดินทางต่อไปในชาติหน้าเลย

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...