19 ธันวาคม 2563

สละเป็นสละตายต่อพ่อแม่ครูอาจารย์

เราเคารพมากพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นนี่เคารพสุดหัวใจ เพราะฉะนั้นเวลาท่านเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นอะไรนะกลางคืนมาไอ กลางคืนไอ อากาศเย็นหนาว ท่านไม่ได้นอนเราก็ไม่ได้นอน ขากเสลดก็ไม่ออก เราหาสำลีใส่กาละมังไว้เลยหยิบง่าย รักษาพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น เรามันเอาจริงเอาจังนะ พระเณรองค์ไหนท่านก็พอใจที่จะปฏิบัติรักษาครูอาจารย์เหมือนกันกับเรานั่นละ แต่เราอายุพรรษาแก่กว่าท่านเหล่านั้น และการปฏิบัติเกี่ยวข้องกับท่านก็ใกล้ชิดติดพันกว่าเพื่อน เพราะอย่างนั้นเวลาพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นไม่สบายเป็นอะไรนี้เราละจะอยู่ที่นั่นเลย

ท่านเป็นวัณโรคหรือะไร วัณโรคหรือพ่อแม่ครูอาจารย์มั่น ที่ไอ ขากเสลด ไอ กลางคืนไม่ได้นอน ตอนท่านไม่ได้นอนเราก็ไม่ได้นอน เพราะติดกับท่านอยู่ตลอด ใครก็ว่ากลัววัณโรคกลัวติด ใครพูดปรารภกันภายนอก เราหรือไม่มีละใส่ปั๊วะเลย ให้มันยกมาทั้งโคตรวัณโรคให้มันยกมากูไม่สนใจกับมันเหมือนพ่อแม่ครูอาจารย์ นี่กูตายแทนได้ ว่าอย่างนี้เลย เราเอาอย่างนี้ละ เรามันจริงมันจังเอาทุกอย่าง ถ้าลงว่าอะไรแล้วขาดเลยเรา ไม่เสียดาย นี่พ่อแม่ครูอาจารย์มั่นทั้งองค์เราเคารพสุดหัวใจเรา เราจะไปสนใจมากยิ่งกว่าสนใจพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นนะ เอาจริงเอาจังมาก

เวลาดึกไอ หนาว หนาวเข้ามาไอ เอาสำลีใส่กาละมังแล้ววางหยิบ เราห่อกว้าน ๆ เสลดกว้านออกจากปากท่าน เอาสำลีมาไว้นี่เลย เราเป็นผู้ปฏิบัติ พระองค์ไหนๆ เราก็ไม่ได้ประมาทท่านก็ไม่กล้าจะทำ เห็นเราทำด้วยความตั้งใจ พระก็รออยู่ข้างนอก แต่เราเป็นวงในเอาเป็นเอาตายเข้าว่าละ วัณโรคไอ..พ่อแม่ครูอาจารย์มั่น เป็นวัณโรค เขาว่ามันติดได้ นี่เห็นเราคลอเคลียกับพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นอยู่ มีคนนอกๆ เขามาถามแต่พระเณรไม่กล้าพูดเพราะเคารพใช่ไหมล่ะ มีแต่ญาติโยมนอกๆ เขามาถาม ไอ้โรคอันนี้เขาว่ามันติดกันแล้วท่านอาจารย์เกี่ยวข้องกับหลวงปู่มั่นอยู่ตลอดเวลามันจะไม่ติดเหรอ ให้มันยกโคตรมาเราก็ไม่กลัวมัน ว่าอย่างนี้ เราไม่ได้รักวัณโรคณเลิกอะไรยิ่งกว่ารักพ่อแม่ครูอาจารย์ เอาอย่างนี้ละเรา เรามันเป็นคนขวานผ่าซาก ว่าอย่างไรเอาจริงๆ เป็นอย่างนั้นจริงๆ ด้วย พูดหาอะไรว่ากลัวจะติดอย่างนั้นกลัวจะติดอย่างนี้ เอาตายเข้าว่าเลยเรา

กลางคืนท่านไม่นอนเราก็ไม่นอนติดอยู่นั้นเลย ตลอดรุ่งก็ตลอดรุ่ง ท่านเชื่อใจบ้าง เราก็บอกเวลาท่านเคลิ้มหลับไปเราไปอยู่ข้างๆ เดินจงกรม เวลาท่านตื่นขึ้นให้ไปบอกผมนะ เดินจงกรมอยู่ท่านนอนป่วยอยู่นี่ ท่านก็เป็นจริงๆ พอตื่นลืมตาขึ้นมา “ท่านมหาไปไหน” นั่นละท่านไว้ใจ เพราะเราเอาจริงเอาจังทุกอย่างกับท่าน เป็นอย่างนั้นละ ความรักความเคารพเลื่อมใสความพึ่งเป็นพึ่งตายอยู่กับท่านทั้งหมดเลย

นิสัยอย่างนี้นี่มันจริงทุกอย่าง ว่าอะไรจริงทุกอย่าง คอขาดขาดเลย เรื่องพ่อแม่ครูอาจารย์นี่ยิ่งแล้ว อย่างพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นนี่ แหม เรารักเราสงวนเทิดทูนสุดหัวใจ อันนี้เป็นตายแทนได้เลย มันเป็นจริงๆ นะเรา เป็นอย่างนั้นละ ถ้าว่าอะไรขาดสะบั้นไปเลย ไม่ได้มีเหยาะๆ แหยะๆ นะ อะไรก็ตามเวลาท่านป่วยเราก็ต้องอยู่กับท่านตลอด ท่านไม่นอนเราก็ไม่นอน เวลาท่านตื่นแล้วให้ไปบอกเรา ไม่จำเป็นต้องท่านถามถึงล่ะ พอท่านตื่นแล้วไปบอกเรา เรารออยู่ตลอด ภาวนาจิตก็มาอยู่ที่นี่ ภาวนาเดินจงกรมเดินแต่ขาจิตมันอยู่ที่นั่น มันจ่ออยู่นั้นละ

หลวงปู่มั่นไปสุทธาวาสก็เสียที่นั่นเลยนะ พักบ้านภู่ ท่านไม่ให้ท่านออกไปข้างนอก “ทางนี้ไม่เหมาะ เพราะไม่มีตลาดตเล” ท่านบอกหมด “แล้วสัตว์ทั้งหลายจะตายเพราะเราคนเดียวนี้มากมาย ออกไปข้างนอกมีตลาดพอแบ่งเบากันบ้าง” ท่านว่า หากแบ่งเบาบ้าง เมื่อมันหลีกไม่ได้เอาหนักเป็นเบา ท่านให้ไปตายสุทธาวาสท่านสั่งขาดเลย ที่อื่นไม่ได้ ที่นี่เขาไม่มีตลาดสัตว์จะตายจำนวนมากมายเท่าไร ท่านว่าอย่างนั้น ท่านสั่งไว้นะ เราก็ปฏิบัติตามนั้นนะ

เราก็ไม่ลืมเวลาอยู่เงียบๆ ท่านป่วยหนักอยู่เงียบๆ เป็นลักษณะเอะใจ “เออ นี่เวลาผมตายแล้วพวกท่านจะพึ่งใคร” พระเณรก็นั่ง พระเณรเงียบ อยู่ด้วยกันสองสามองค์รักษาท่าน เราออกไปเป็นบางเวลา เวลาจำเป็นเราต้องเข้าอยู่กับท่าน “นี่เวลาผมตายจะทำอย่างไร ท่านจะพึ่งใคร ให้พึ่งท่านมหานะ ท่านมหาสำคัญอยู่นะทั้งภายนอกภายใน” แต่เราก็เก็บส่วนตัวของเราไม่เคยพูดให้ใครฟังเลยนะ อย่างนี้ไม่พูด ท่านพูดเวลานอกจากใครต่อใครแล้วท่านพูด

อันนี้เราว่ามันเป็นปาฏิหาริย์นะของเรา ใครก็ว่าเหมือนกัน ถ้าลงเป็นอย่างหลวงตาพัวพันกับพ่อแม่ครูอาจารย์มั่นอยู่ตลอดเวลาโดยไม่คำนึงถึงวัณโรคณเลิก ก็ไม่เป็น อำนาจบุญเรา อำนาจบุญของท่านแล้วจะเป็นบุญของเราด้วย เพราะปฏิบัติอุปัฏฐากท่านเรียกว่าเอาตายเข้าว่า ไม่ใช่ธรรมดา หลวงปู่มั่น..วัณโรคก็เป็นอะไร เราคลอเคลียกับท่านอยู่ตลอด คือไม่ได้คำนึงถึงเลยว่าเป็นวัณโรคเป็นเชื้ออะไรๆ ยิ่งกว่าความเคารพความรักหลวงปู่มั่นเรา มันอยู่ที่นี่ทั้งหมด เป็นตายสละหมด ใครจะเอาอะไรเอาเถอะ แต่พ่อแม่ครูอาจารย์มั่นนี่จะเอาไม่ได้ ความหมายว่าอย่างนั้น นี่ละปฏิบัติอุปัฏฐาก

การถ่ายหนักถ่ายเบาเราทั้งหมดเลย ถ่ายหนักถ่ายเบาเราทำหมด ท่านก็ปล่อยให้เราทำ เราจะยื่นออกมา ยื่นมาพระเณรรอรับปุ๊บไป รับปุ๊บไป ส่วนทำภายในนี้ระหว่างองค์ท่านกับเราเป็นอันเดียวกันเลย เราก็เก็บรักษาสงวนกับเรา ปฏิบัติต่อตัวของเรา ไม่ให้แพร่งพรายไปไหนเลย ปฏิบัติอย่างนั้นละ ทำด้วยความพอใจ ถ่ายหนักถ่ายเบานี่สำคัญ อันนี้ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่งนะ เราทำคนเดียหมดเลย เรารักเราสงวนท่าน เช่นอย่างถ่ายหนักถ่ายเบาเราทำหน้าที่คนเดียว ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง ที่จะส่งออก ๆ พระท่านก็รอรับปุ๊บ ๆ เป็นแต่เพียงอยู่ภายในกับท่านมีแต่เราองค์เดียว คือเราเองก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง แต่พระเณรดูการกระทำของเรากับท่านจริงจังมากเกินกว่าใครจะเข้าไปทะลึ่ง ว่าอย่างนั้นเลย ใครจะไปทะลึ่งได้ เราทำขนาดนั้น เคารพกันอย่างนั้นละ

เราทำต่อท่านผู้ใดก็ตามครูบาอาจารย์ได้ทำหลายองค์ เราจะทำเหมือนว่าทำกับเราเท่านั้น ให้รู้เฉพาะเรากับท่าน นอกนั้นไม่มีใครรู้เรื่องการกระทำของเรา เรียกว่าเราทำกับเราว่าอย่างนั้น ไม่มีใครรู้ เพราะเราสงวนท่าน เรารักเราสงวนทุกอย่าง ไม่ให้ใครเข้าไปยุ่ง

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
เมื่อเช้าวันที่ ๒๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๓

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...