25 ธันวาคม 2563

“วิริยังค์ ทำไมจึงมาบวช”

ครั้งนึงขณะธุดงค์อยู่หลวงปู่มั่น ท่านก็ถามว่า
“วิริยังค์ ทำไมจึงมาบวช”
พระอาจารย์วิริยังค์ ตอบว่า “เพราะภาวนาเห็นทุกข์”

หลวงปู่มั่น ท่านถามว่า “ใครสอนให้ครั้งแรก”

พระอาจารย์วิริยังค์ ตอบว่า “ไม่มีใครครับ”

หลวงปู่มั่น ท่านก็ถามว่า “ทำยังไงจึงเป็นสมาธิ”

พระอาจารย์วิริยังค์ ตอบว่า “เป็นขึ้นมาเองครับกระผม วันหนึ่งเพื่อนกระผม ชวนไปวัด เพราะจะบวช กระผมเองไม่อยากไป แต่ก็จำใจ วันนั้นต้องอยู่ถึงเที่ยงคืน กระผมก็กลับบ้านคนเดียวไม่ได้เพราะกลัวผี จำเป็นต้องอยู่ อยู่ไปนั่งไป นึกในใจอย่างเดียวว่า (ตั้งแต่นี้ต่อไปไม่มาอีกแล้ว ๆ ๆ ) อย่างนี้ ไม่ช้าเท่าไรปรากฏว่า ตัวของกระผมหายไปเลย เบาไปหมด...ถึงกับอุทานออกมาเองว่า คุณของพระพุทธศาสนา มีถึงเพียงนี้เทียวหรือ”

หลวงปู่มั่น ก็ได้พูดว่า “มันแม่นแล้ว เธอมีความเป็นต่าง ๆ มีบารมีพอสมควร มิฉะนั้นจะได้บวชหรือ”

“..ร่างกายอันนี้เกิดมา ร่างกายอันนี้แก่ ร่างกายอันนี้เจ็บ ร่างกายอันนี้ตาย ทีนี้คนที่จะหลงรักหลงชังกันก็ต้องมีร่างกายนี้เป็นสื่อสัมพันธ์ มองเห็นตา มองเห็นศีรษะ แขน ขา มองเห็นร่างกายต่างๆ แล้วเกิดความชอบ หรือเรียกว่าเกิดความพอใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ ร่างกายอันนี้ก็เป็นตัวสำคัญที่จะต้องจัดการในอันดับแรกของวิปัสสนา จัดการอันดับแรกก็คือ หั่นร่างกายนี้ออกมาเป็นชิ้นๆ ให้เห็นว่าร่างกายนี้เป็นเพียงธาตุทั้ง ๔ ถ้าหากว่าพลังจิตเพียงพอนั้น พิจารณาเห็นได้ ถ้าพลังจิตไม่เพียงพอนั้น มองเข้าไปเท่าไหร่ มันก็ไม่เห็น คือมันเห็นเหมือนกัน แต่มันเห็นไปด้วยอำนาจกิเลส แต่ถ้าพลังจิตเพียงพอนั้นมองเข้าไปแล้วก็เห็นชัดว่า อันนี้เป็นธาตุ ๔ ดิน น้ำ ไฟ ลม เกิดอะไรขึ้น เมื่อมองเห็นชัดเจนขึ้นมา เมื่อมองเห็นชัดเจนขึ้นมาก็เกิดนิพพิทาญาณ คือความเบื่อหน่าย มันน่าเบื่อหน่ายจริงๆ อย่างนี้..”  

โอวาทธรรมคำสอนหลวงปู่วิริยังค์ สิรินฺธโร

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...