(ปกิณกธรรม หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)
(ที่มา : หนังสือ "รำลึกวันวาน")
(บันทึกโดย หลวงตาทองคำ จารุวัณโณ)
๐ ธรรมที่ยืนยันจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
ศาสน์-กษัตริย์ (พุทธศาสนาและพระมหากษัตริย์)
เปรียบเสมือนเสาหลักค้ำจุนกันและกัน
#พึงระลึกเสมอว่าถ้าขาดพระมหากษัตริย์
#พระอริยบุคคลก็หายไปด้วย
เรื่องของพระอริยบุคคลนี้ พระอาจารย์มั่นปรารภไว้หลายสถานที่ หลายวาระต่าง ๆ กัน แล้วแต่เหตุ
ท่านกล่าวว่า ชาวพุทธมีหลายประเทศ แต่จะขอกล่าวเฉพาะที่ใกล้เคียง คือ เขมร ลาว เวียดนาม และพม่า นอกนี้ไม่กล่าว
พระอาจารย์มั่นบอกว่า
#เราไม่ได้ว่าเขาเหล่านั้น
#แต่ได้พิจารณาแล้วไม่มีก็ว่าไม่มีมีก็ว่ามี
ท่านหมายถึงว่า พระอริยบุคคลในประเทศเหล่านี้มีที่ประเทศพม่าเพียงคนเดียว อยู่ในหมู่บ้านที่ท่านไปจำพรรษา เป็นผ้าขาว (อุบาสกผู้ถือศีล) ซึ่งเล่ากันว่า บุตรสาว บุตรเขย และบุตรชายของผ้าขาวคนนั้นล่ะ ที่มาจัดเสนาสนะของบิดาเพื่อถวายพระอาจารย์มั่นและท่านเจ้าคุณบุญมั่นครั้งจำพรรษาที่ประเทศพม่า
ท่านว่า #ยกเว้นสยามประเทศแล้วนอกนั้นไม่มี
สำหรับสยามประเทศตั้งแต่บัดนั้นมาจนถึงปัจจุบัน...มีติดต่อมาโดยไม่ขาดสาย ทั้งคฤหัสถ์ชายหญิงและบรรพชิต แต่มรรคขั้นต้นคฤหัสถ์มากกว่าทั้งปริมาณ และมีสิกขาน้อยกว่า"
พระอาจารย์มั่นกล่าวต่อไปว่า
"เราไม่ได้ว่าเขา! เราไม่ได้ดูหมิ่นเขา เพราะประเทศเหล่านั้นขาดความพร้อมคือคุณสมบัติหลายอย่าง เช่น เรื่องอักขระที่ไม่เป็นพุทธภาษา (คือเป็น 'ฐานกรณ์วิบัติ') และองค์ประกอบอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้คือ ‘องค์พระมหากษัตริย์ของประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา’ นี้ก็สำคัญ ขาดไม่ได้ ถ้าขาดไป อริยบุคคลก็ขาดไปด้วย"
ท่านยังกล่าวอีกว่า
"เมื่อพระพุทธเจ้าจะประกาศพระศาสนา ทรงหาหลักค้ำประกันอันมั่นคง คือมุ่งไปที่พระเจ้าพิมพิสาร ความสำคัญอันนี้มีมาตลอด หากประเทศใดไม่มีองค์ประกอบนี้ซึ่งเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก ก็ปฏิเสธได้เลย เปรียบเหมือนกับก้อนเส้าสามก้อน(หินที่ตั้งไว้ ๓ ก้อนเพื่อก่อไฟ) ก้อนที่หนึ่งคือความเป็นชาติ ก้อนที่สองมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ก้อนที่สามมีพระมหากษัตริย์เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก หากขาดไปก้อนใดก้อนหนึ่งก็จะขาดความสมบูรณ์ไป ไม่สามารถจะใช้นึ่งต้มแกงหุงหาอาหารได้"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น