14 พฤษภาคม 2566

กรรมไหนบาปกว่ากัน

เมื่อเราเกิดเผลอ เอามือไปวางบนโต๊ะ แล้วไปตบมดตาย
หรือคำพูดของเรามี เจตนาที่จะสื่อไปในทางเมตตาช่วยเหลือ #แต่คนอื่นสำคัญผิดว่าเราไปด่าทอเขา

สิ่งที่จะทำให้เกิดกรรมนั้น
แบ่งเป็น..
🌟 กายกรรม คือ กรรมที่เกิดจากการะทำ
🌟 มโนกรรม คือ กรรมที่เกิดจากความคิด 
🌟 วจีกรรม คือ กรรมที่เกิดจากคำพูด

ซึ่งกรรมที่เราเผลอตบมดตาย หรือใช้คำพูดโดยเจตนาคนละความหมาย #เป็นกรรมในสองส่วน 
คือ กายกรรม และวจีกรรม 
โดยที่เราไม่มีมโนกรรมในการร่วม  กล่าวคือ เราไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดกรรมนั้นๆ

กรรมตรงนี้จะมีผลเช่นกัน #แต่มีผลของกรรมน้อยมาก เป็นผลเพียงเล็กน้อย #ไม่ทำให้เราถึงกับตกนรก  #กรรมก็จะส่งผลในรูปแบบไม่เจตนาย้อนไปที่เราเช่นกัน

แต่ถ้าเรามีความคิดมีเจตนา ที่จะฆ่าสัตว์ เช่น เราต้องฆ่าหมู เพื่อเอาไปขาย

หรือเราจ้างวานบุคคลอื่น เพื่อไป ประทุษร้าย ลักทรัพย์ เข่นฆ่า โกหก ดื่มของมึนเมา

แบบนี้คือมีจิตเจตนาอันนี้เป็นมโนกรรม #ซึ่งมีผลร้ายแรง 

พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า..
 ใจเป็นใหญ่ใจเป็นประธาน #ทุกสิ่งสำเร็จที่ใจ

มโนกรรมคือ กรรมทางใจ 
เพียงแค่เราคิดปรุงแต่งในทางอกุศลกรรม #เราก็บาปแล้ว

แต่ถ้าเราคิดแล้วนำมาเป็นคำพูดหรือ การกระทำ ที่เป็นอกุศล

#กรรมนี้จะมีน้ำหนักมากเพียงพอ ที่จะพาเราตกนรก เพราะคนที่ตกนรกได้

ย่อมมีจิตเจตนาของกรรม มีความคิดที่ไม่ดี และถ้ามีการกระทำหรือคำพูดออกมานอกจากคิดคนเดียว

#กรรมจะยิ่งหนักทวีคูณ เพราะจะส่งผลไปเบียดเบียนประทุษร้ายทั้งตนเอง และบุคคลอื่น #ให้ได้รับความเดือดร้อน

🟢 ผลแห่งกรรมจะยิ่งหนักหน่วง ถ้าไปละเมิดในผู้ทรงศีล ยิ่งศึลท่านมีมาก #กรรมจะยิ่งทวีความรุนแรงมาก

ยิ่งคนที่ไปละเมิด ทรงสมาธิ ทรงฌานสมาบัติ #กรรมจะยิ่งรุนแรงมากขึ้น เพราะเราคิดไปทำลายความดี ของท่านผู้ทางสมาธิ

และถ้าเราเผลอไปละเมิด ท่านผู้ซึ่งมีความดีใหญ่
อย่างพระโพธิสัตว์ ผู้ซึ่งทรงศีลทรงฌานสมาบัติอยู่

ละเมิดต่อพระโสดาบัน พระสกิทาคามี 
สูงสุดคือ ละเมิดต่อพระอรหันต์

#กรรมจะยิ่งทบทวีคูณมากขึ้นไปตามลำดับขั้น อาจพาให้การกระทำของเราแม้เพียงครั้งเดียว แต่ต้องทนทุกข์ยาวนาน

🟢 กรรมเป็นของน่ากลัว ให้เราสำรวมระวังใจตนให้ดี เพราะใจของเรานี่แหละคือ แหล่งผลิตกรรมชั้นเยี่ยม

ที่จะผลิตได้ทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว  #ใจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ตรงกันข้าม ถ้าเรามีจิตเมตตา มีจิตเคารพในพระรัตนตรัย เราจะไม่คิดเบียดเบียนประทุษร้ายใคร

มีแต่จิตที่น้อมไปในศีลในธรรม ยังประโยชน์ให้เกิดแก่ตนและคนรอบข้าง

พาให้เราไปพบเจอสิ่งที่ดี เกิดในสุคติภูมิ 

ทำให้ใจของเราผ่องใสร่มเย็นเป็นสุขตามที่พระศาสดากล่าวไว้ตามแก่นแท้ของพระศาสนาว่า

"..ทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องใส.."

วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๖ เวลา ๐๕.๔๗ น. :- การบรรยายธรรมจากการกราบสมเด็จองค์​ปฐม​ในสมาธิ

บันทึกธรรมโดย ธรรมรัตน์

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...