คือบางคนเข้าใจว่าบิดามารดาเราตายไปเสียแล้ว
ก็พากันโศกเศร้าปริเทวนารำพัน
นึกว่าท่านตายไปจากเราเสียแล้ว
แต่ในความเป็นจริงนั้น
ไอ้ความไม่ตายก็ยังเหลืออยู่กับเรา
ตัวที่นั่งอยู่กับเรานี่แหละ
ถ้าขาดบิดามารดาแล้วก็เป็นไปไม่ได้
ฉะนั้นเมื่อเรานึกถึงคุณบิดามารดา
ก็ให้นึกถึงตัวเรา ให้ทำตัวให้ดี
ให้ทำตัวให้บริสุทธิ์
ให้ทำตัวเป็นผู้ประพฤติ ปฏิบัติธรรม
เพราะว่าก้อนที่เรานั่งอยู่นี่ หรือเดินไปมา
ก็คือก้อนของพ่อแม่นั่นเอง เป็นมรดกตกทอดมา
ฉะนั้นบุคคลที่นึกถึง บิดา มารดา
ที่ล่วงลับไปแล้วนั้น
ควรมาประพฤติ ปฏิบัติ
ศรัทธายังไม่มี ก็ปลูกศรัทธาขึ้นมา
ความเพียรยังไม่มี
ควรปลูกความเพียรเข้ามา
อะไรที่มันขาดตกบกพร่องอยู่
ควรสะสมให้มันเกิดขึ้นมา
เราทำเราให้มีความสุขสงบ ความสบาย
เราทำเราให้มีความสว่างไสวได้
ก็คือเราปฏิบัติต่อบิดามารดา
เรา นั่ง ยืน เดิน ที่ใด
บิดา มารดา เราก็อยู่ที่นั่น
ถ้าระลึกถึงบิดามารดา
ก็มาสร้างตัวของเรานี่ ให้มีศีล มีธรรม
การทดแทนบุญคุณพ่อคุณแม่
ก็คือมาสร้างตัวของเรานี่เอง
พระธรรมเทศนา
หลวงพ่อชา สุภัทโท
เทศน์อีสาน เรื่อง “พอปานนั้น”
ในงานศพโยมคุณแม่หลวงปู่ชา
🙇🏻♂️กระแสธรรม📖🖋️
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น