08 พฤษภาคม 2566

#ตายจากหญิงชาวสวนไปรออยู่ที่สำนักพระยายมราชแล้วไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก

“..เวลากลางคืนของวันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๑ หลังจากอาตมาเดินจงกรมแล้ว ก็หาทางท่องเที่ยวแก้รำคาญ ขณะที่หันรีหันขวางไม่รู้จะไปไหนดี ก็เห็นพระสององค์ลอยอยู่ในอากาศ องค์หนึ่งมีปัญญามาก อีกองค์หนึ่งมีฤทธิ์มาก กราบเรียนถามท่านว่า “จะไปทางไหนดี” ท่านบอกว่า “ถ้าไปดูสวรรค์ ในพระไตรปิฎกก็มีวิมานวัตถุอยู่แล้ว ไปสำนักพระยายมราชดีกว่า ดูของใหม่ๆ” จึงกราบเรียนท่านว่า “วันนี้ท่านลุงไม่มารับ” ท่านบอกว่า “เมื่อไม่มารับ เราก็ไปเองเพราะถ้าเรื่องไม่สำคัญและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน ท่านก็ไม่มารับ เราไปเองไปเลือกเอาเรื่องที่เราเห็นชอบมาเขียนบันทึกเพื่อละดีกว่า”

เมื่อท่านแนะนำอย่างนั้นก็เห็นชอบตามท่าน ท่านนำหน้าไป เมือไปถึงมีเทวดาทรงชุดสีแดงมีเพชรประดับออกมาต้อนรับ ท่านลุงทั้งสองกำลังมีงาน ได้เห็นผู้ถูกสอบสวนแล้วไปนรกมากมาย น่าสงสารแต่เกินวิสัยที่จะช่วย ต่อมามีหญิงแก่มาก อ้วน ผิวเนื้อค่อนข้างขาว ตายเมื่อ ๑ กันยายน ๒๕๓๑ เจ้าหน้าที่นำเข้ามาสอบสวน เมื่อเข้ามาระยะแรก คุณยายงกๆ เงิ่นๆ มากเพราะทั้งกลัวทั้งหิว พวกที่คอยสอบสวนนี้บอกว่าหิวมาก หมดแรงขัดขืนหรือต่อสู้ ไม่มีอาหารแม้แต่น้ำก็ไม่มี มีทุกขเวทนามาก เมื่อเจ้าหน้าที่ถามถึงบาปมีดังนี้

๑) ฆ่าสัตว์ไม่เลือก ฆ่าปลา เป็ด ไก่ แมลงเล็กๆ นับไม่ถ้วน ใจร้ายขาดความเมตตา คุณยายฟังแล้วก็น้ำตาไหล ตอบเจ้าหน้าที่ว่า “ทำเพราะจนเจ้าค่ะ ฆ่าไก่แกงขายเพราะอยากได้เงินมาใช้ เป็ดก็เช่นกัน แต่ฆ่าเป็ดและไก่อย่างละตัวเท่านั้น ส่วนแมลงนั้นมากเพราะทำสวน แมลงทำลายผักที่ปลูกจึงจำเป็นต้องฆ่า” ท่านเจ้าหน้าที่สอบสวนยิ้มแล้วตอบว่า “น่าเห็นใจนะยาย”
๒) อทินนาทาน คุณยายตอบว่าไม่มีเลย ท่านเจ้าหน้าที่ยอมรับ
๓) เรื่องกาเม คุณยายบอกว่า “ไม่เคยแย่งผัวใคร มีแต่เมื่อตอนเป็นสาว ผัวคนอื่นย่องมาหาถึงที่นอนไม่กล้าร้องเพราะอาย เขาทำคนเดียวแล้วก็ไปอย่างนั้นบาปด้วยหรือเจ้าคะ” คำตอบของคุณยายเล่นเอาเจ้าหน้าที่ทั้งหมดหัวเราะชอบใจไปตามๆ กัน ท่านเจ้าหน้าที่บอกว่าอย่างนี้ไม่บาป เพราะเขามาหาเองเหมือนถวายของพระ พระไม่ได้ไปขโมยของใคร ท่านเจ้าหน้าที่ถามว่า“มีผัวคนอื่นย่องมาหาทั้งหมด ๓ รายใช่ไหม” คุณยายบอกว่า “ใช่” แต่คุณยายไม่คิดเอาเขาเป็นผัว ท่านเจ้าหน้าที่บอกว่า “อย่างนี้ไม่บาป”
๔) ข้อมุสาวาท ท่านบอกว่า “เวลาขายผักเธอโกหกเก่ง ของราคาถูกบอกราคาแพง อย่างนี้ต้องบาปเพราะมุสาวาท” คุณยายตอบว่า “ฉันบอกว่าแพงเฉยๆ ไม่ได้บอกราคา เขาซื้อฉันๆ ก็ขาย ไม่ซื้อฉันก็ไม่ขาย บาปด้วยหรือคะ” ท่านเจ้าหน้าที่บอกว่า “ไม่บาป”
๕) ข้อสุรา ท่านบอกว่า “เธอไม่ดื่มสุราแต่เธอขายสุรา เธอทำหรือเปล่า” คุณยายบอกว่า “ทำแต่พระท่านบอกว่าดื่มจึงบาป ในศีลไม่ได้บอกว่าขายเลยขายเพราะคิดว่าไม่บาป” ท่านเจ้าหน้าที่ยอมรับว่า “ไม่บาป”

ต่อมาก็สอบสวนเรื่องบุญ ท่านเจ้าหน้าที่พูดว่า “ชอบใส่บาตรพระ ถึงไม่ทำทุกวันแต่ก็ทำเสมอ ตั้งใจจริงใช่ไหม” คุณยายตอบว่า “ใช่เจ้าค่ะ” ท่านถามต่อไปว่า “เธอใส่บาตรกลางคืนด้วยใช่ไหม” ตอบว่า “เอาสตางค์ใส่บาตรกลางคืนเจ้าค่ะ” ท่านถามว่า “ชอบบูชาพระทุกวันใช่ไหม” ตอบว่า “ใช่เจ้าค่ะ” ท่านถามว่า “ชอบถวายข้าวพระพุทธรูปประจำทุกวันใช่ไหม” ตอบว่า“ใช่เจ้าค่ะ” ท่านถามว่า “ชอบฟังเทศน์ใช่ไหม” ตอบว่า “ชอบเจ้าค่ะ” ท่านถามว่า “ถวายสังฆทาน ๑๐ ครั้งใช่ไหม” ตอบว่า “ใช่เจ้าค่ะ” ท่านถามว่า “เมื่อนอนชอบภาวนาใช่ไหม” ตอบว่า“ใช่เจ้าค่ะ” ท่านถามว่า “เคยสร้างศาลา โบสถ์ กุฏิพระ โรงพยาบาลใช่ไหม” ตอบว่า “สร้างหลังละ ๑๐๐ บาท สร้างโบสถ์ ๗ หลัง ๗๐๐ บาท ศาลา ๗ หลัง ๗๐๐ บาท กุฏิ ๗ หลัง ๗๐๐ บาท โรงพยาบาล ๑ หลัง ๑๐๐ บาท และเคยให้ทานกับคนและสัตว์”

ท่านเจ้าหน้าที่ฟังแล้วก็ยิ้มบอกว่า “ให้ไปหาท่านพระยายมราช” คุณยายก็เข้าไปหาท่านลุง ท่านลุงก็ถามว่า “บุญทุกอย่างทำครบตามนั้นหรือ” คุณยายบอกว่า “ครบ” ท่านบอกว่า “บาปพอประมาณแต่บุญมหาศาล น่าจะไปสวรรค์เลย ทำไมต้องมาที่นี่” คุณยายบอกว่า “เมื่อป่วยเป็นโรคลมขึ้น นึกถึงพระ ภาวนาพออารมณ์สบายมีคนไปเคาะฝาบ้านและเรียกชื่อ จึงตกใจ พระหายเห็นคน ๔ คนมารับพอดี” เธอชี้ไปที่ ๔ คนนุ่งแดงแล้วเขาก็พามาที่นี่ ทั้งนี้เพราะไก่เป็ดที่คุณยายฆ่าเป็นโจทก์ แต่บุญที่ทำสูงมากพอ ท่านลุงบอก “บุญของเธอมหาศาลทุกอย่าง มีกำลังสูงมาก ให้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ตามบุญก็แล้วกัน” คุณยายคนนี้มีบุญมาก มีวิมานแก้ว ๗ ประการสวยมาก ตัวก็สวยมากไม่เบ๊อะบ๊ะเหมือนตัวมนุษย์..”

ที่มา : จากหนังสือตายไม่สูญแล้วไปไหน
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...