เมื่อเลยกึ่งพุทธกาลมาแล้ว
#ทุกอย่างนั้นดูวิปริตแปรปรวนไปมาก
ทั้งภัยธรรมชาติ ภัยทางโรคร้าย ต่างๆ รวมไปถึงจิตใจของมนุษย์ในยุคนี้ #ล้วนเต็มไปด้วยความเร่าร้อน
มีความอยุติธรรมเกิดขึ้นมากมาย เป็นกลียุคที่วิบากกรรมทั้งหลาย #มาให้ผลอย่างรุนแรงและรวดเร็ว
อะไรที่ไม่เคยเจอที่คิดว่าผิดศีลธรรมอย่างร้ายแรง #เราจะได้เจอในยุคนี้
🟢 ยุคนี้เป็นกลียุคตามคำทำนายที่คนดีน้ำตาต้องตกใน เพราะคนชั่วมีกำลังมากกว่า
คนดีทำดีมากสักเพียงใด ความดีกลับไม่เห็นผล แทนที่จะดีกลับยิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ
คนชั่วทำชั่วยิ่งสบาย ยิ่งได้ดิบได้ดีกันมากมายนัก
จึงเกิดเป็นคำที่ติดปากกันว่า..
ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป
#ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านเคยตรัสว่า
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
แต่ทำไมทำดีแล้วเราไม่ได้ดีสักที #นั่นเพราะความดีที่เราทำ #มันยังไม่ส่งผลในยุคนี้
แต่ความชั่วที่เขาทำ #มันจะส่งผลยุคต่อไปนั่นเอง #ซึ่งที่เขาได้ดีคือความดีเก่าของเขามาสนอง
🟢 ยุคนี้คือยุคถิ่นกาขาว เป็นยุคที่คนดีทั้งหลายน้ำตานองหน้า
แต่ยุคถัดไปคือยุคชาววิไล ซึ่งตามที่พระอรหันต์ท่านนึงเคยบอกกล่าวไว้ว่า..
#จะเกิดกลางสมัยรัชกาลที่10เป็นต้นไป
🟢 ขอให้เราทั้งหลายอดทนสร้างความดี อดทนทำทาน ถือศีล เจริญสมาธิ ปฏิบัติกันต่อไป
เมื่อผ่านพ้นยุคเข็ญนี้ไปแล้ว #ความลำบากที่มีจะมลายหายไป
ที่เราต่อสู้ดิ้นรนอดทนทำความดีกันมาในยุคถิ่นกาขาว ที่ดูจะมืดมนไม่ส่งผลดีใดๆ
ก็จะมาส่งผลในยุคชาววิไลนี้ เมื่อเราทำความดีทั้งหมด พอมาถึงยุคนี้บุญดีๆที่เราเคยสร้างสมไว้ทั้งชาตินี้และอดีตชาติ #จะเข้ามารวมตัวส่งผลให้เราได้ชื่นใจ
วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๑๘ น. :- การบรรยายธรรมจากการกราบสมเด็จองค์ปฐมในสมาธิ
บันทึกธรรมโดย ธรรมรัตน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น