11 พฤษภาคม 2566

"นิโรธสมาบัติ"

"นิโรธสมาบัติ"
"หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ." พรรษาที่ 18 - 20 พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๐๕ (จำพรรษาที่ภ้ำจันทร์)
"วันหนึ่ง" หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ. ได้พิจารณาการเข้า “นิโรธสมาบัติ” เมื่อ “จิตรวมลง” ... “จิตหนึ่ง” พูดขึ้นว่า “นิโรธ” มันยังมี "สังขาร" อยู่ ยังมี "การเกิด การดับ มีเวลาเข้า เวลาออก ไม่ขาดจากเหตุและปัจจัย" อันเป็นเหตุให้เกิด "ทุกข์" คือ “สังโยชน์ ๑๐” จิตเมื่อรวมลงแล้ว เหมือนกับว่า “ไม่มีกิเลส” เมื่อ "ถอนออกมาสู่จิตธรรมดา" “กิเลสมันยังมีอยู่" ยัง "กำเริบอยู่เหมือนเดิม”

หลังจากนั้น หลวงปู่จวน กุลเชฎโฐ ได้เข้าไปกราบเรียนถามเรื่อง “นิโรธสมาบัติ” กับ "หลวงปู่มั่น ภูริฑัตตะเถระ" หลวงปู่มั่น ภูริฑัตตะเถระ ได้ตอบ และได้ประกาศเรื่อง “นิโรธ” ให้ลูกศิษย์ทราบว่า 
"การเข้านิโรธสมาบัติ" ที่กำหนด ๓ วันบ้าง ๗ วันบ้าง นั้น "การเข้า นิโรธ” แบบนี้ เป็น “นิโรธสมมุติ เป็นนิโรธบัญญัติเป็นนิโรธน้อม เป็นนิโรธสังขาร เป็นนิโรธหลง เป็นนิโรธที่ขาดสติ ขาดปัญญา” จิตยังไม่ขาดจาก “สังโยชน์ ๑๐”, “สังโยชน์ ๑๐” ยังครอบคลุมอยู่ เมื่อ "จิตถอนออกมา" เป็นจิตธรรมดา จิตกระทบกับ “อารมณ์ต่างๆ” นานเข้า "จิตจะฟุ้งซ่าน" และ "เสื่อมจากความสงบ"...

ส่วน “นิโรธของพระอริยเจ้า” นั้นเป็น “นิโรธมีสติ มีปัญญา” เป็นอกาลิโก ดับทุกข์อยู่ตลอดเวลา ไม่อ้างกาล ไม่อ้างเวลา" ไม่เหมือน “นิโรธของปุถุชน ของพวกฤษีชีไพรนอกศาสนา” ที่มีความมุ่งหมายอยากให้ “จิตรวม” ลงอย่างเดียว เมื่อ “จิตถอน” ออกมา “ไม่น้อมเข้ามาพิจารณา” ให้รู้เห็น “สัจธรรม” เป็น "นิโรธที่ไว้ใจไม่ได้"

“นิโรธของพระอริยเจ้า” เมื่อ “จิต” ของท่านลงสู่ “ฐีติจิต” จิตถอนจาก “ฐีติจิต” แล้ว ท่านก็ "พิจารณาสาวหาสาเหตุ หาปัจจัย" ของ "สัจธรรมทั้งหลาย" นี่เป็น “นิโรธของพระอริยเจ้า”

หลวงปู่มั่นได้ย้ำว่า “นิโรธของพระอริยเจ้า" นั้น เป็น "นิโรธอยู่ตลอดเวลา ไม่อ้างกาลอ้างเวลาว่า เวลานั้นจึงจะเข้านิโรธ เวลานั้นจึงจะออกจากนิโรธ" เป็นความดับทุกข์อยู่ตลอดเวลา เป็นนิโรธดับสังขาร ไม่มีสังขารแล้ว พ้นทุกข์แล้ว” จะเรียกว่า “พระนิพพาน” ก็ได้ “วิสุทธิธรรม” ก็ได้ “อมตธรรม” ก็ได้ เป็นธรรมที่ไม่ม้วยมรณ์ คือ “ไม่ตาย” เป็น “ธรรมที่อยู่เหนือโลก พ้นโลก หมดสมมุติ หมดบัญญัติ หมดกิริยา” เป็น “อกิริยา” ไม่มีการไปการมา เรียกว่า “นิโรธ”

นี่เป็นคำสอนของพระอาจารย์ใหญ่ (หลวงปู่มั่น ภูริฑัตตะเถระ)

หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ (๒๔๖๓-๒๕๒๓)
วัดเจติยาคีรีวิหาร (ภูทอก) อำเภอบึงกาฬ จังหวัดหนองคาย

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...