**สมเด็จองค์ปฐม** ทรงพระเมตตาตรัสสอนเรื่องนี้ไว้ มีความสำคัญดังนี้
**๑.** อย่าสนใจคำร่ำลือไปในทางลบ **อย่าให้ความชั่วของใครมาทำลายความดีของเจ้าที่ประพฤติปฏิบัติอยู่ได้ และอย่าเข้าไปใกล้ หรือข้องแวะกับความชั่วความเลวของใคร ซึ่งไม่ต่างกับเอาใบตองไปห่อสุนัขเน่า ขึ้นชื่อว่าสุนัขเน่า ใคร ๆ เขาก็ไม่อยากเข้าใกล้ เพราะฉะนั้น จงดูอารมณ์จิตของตนเองว่ายังขัดข้องขุ่นเคืองในปฏิกิริยาของบุคคลที่เข้ามากระทบหรือไม่**
๒. **ระมัดระวังอารมณ์เอาไว้ให้ดี** **หากยังมีความขัดข้องขุ่นเคือง ก็แสดงว่านี่เจ้ายังรับเอาความเลวเข้ามาใส่ใจ ยังชอบเป็นใบตองที่ห่อสุนัขเน่าอยู่ ยังใช้ไม่ได้ **(ก็ยอมรับว่าตนเองยังใช้ไม่ได้ ในบางขณะก็ยังอดไม่ได้)
**๓.** **นั่นแหละ แสดงว่าอารมณ์จิตของเจ้ายังเลวอยู่** **กฎของกรรมแสดงให้เห็นชัดๆ ยังจักไม่ยอมรับอีกหรือ อย่างนี้จักเรียกว่าเข้าถึงอริยสัจอย่างไรได้**
**จงพิจารณาไปซิว่านี่เป็นผลแห่งความทุกข์** **ซึ่งเจ้าเคยทำเอาไว้ในอดีต มันเป็นเศษกรรมเล็ก ๆ น้อยๆ แล้ว หากวางอารมณ์ตัดกรรมมันไปเสีย ไม่ขัดข้องขุ่นเคือง** **ไม่ต่อกรรมเอาความเลวของบุคคลอื่นมาใส่ใจ มองไปให้ซึ้งถึงกฎของกรรม ใครทำคนนั้นย่อมได้รับผลแน่นอน** **คิดให้ลึกซึ้งกฎของกรรมมันเที่ยงอยู่เสมอ**
**ที่เจ้าได้รับผลอยู่นี้เป็นเพียงแค่เศษกรรม การเสวยผลโดยตรงอย่างแสนสาหัส เจ้าก็ได้เห็นแล้ว คือ ต้องตกอยู่ในอเวจีมหานรกอยู่สิ้นกาลนานเห็นอยู่อย่างนี้แล้วเจ้ายังไม่ตัดกรรมอีกหรือ จักมีอารมณ์ขัดข้องขุ่นเคือง เพื่อประโยชน์อันใด (ก็ยอมรับว่าตนเองโง่)**
**๔.** ทรงแย้มพระโอษฐ์ **ตรัสว่าผู้ไม่ถึงพระอรหันต์นั้นโง่ทุกคนเพราะยังมีอวิชชา รู้ตัวเอาไว้แหละดี อย่าคิดว่าตนเองฉลาดก็แล้วกันจักถึงความโง่อย่างแท้จริง**
ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้นเล่ม ๗ พฤษภาคมตอน ๑
รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
#สมเด็จองค์ปฐม4** **#ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น4
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น