พวกศิษย์ได้มาประชุมพร้อมกันแล้วถามว่า "เจดีย์ที่ท่านนมัสการก่อด้วยทราย ข้าพเจ้าทั้งหลายอยากจะรู้ว่า ท่านนมัสการทำไม" เราตอบว่า "พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ท่านทั้งหลายได้พบแล้วในบทมนต์ของเรามิใช่หรือ เรานมัสการพระพุทธเจ้าเหล่านั้น"
ศิษย์เหล่านั้นถามอีกว่า "พระพุทธเจ้าเป็นเช่นไร มีคุณเป็นอย่างไร มีศีลเป็นอย่างไร" เราตอบว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลาย มีพระมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ มีพระทนต์ครบ 40 ซี่ มีดวงพระเนตรดังตาโคและเหมือนผลมะกล่ำ พระพุทธเจ้าเหล่านั้นเมื่อเสด็จดำเนินไป ย่อมทอดพระเนตรดูเพียงชั่วแอก พระชานุของพระองค์ไม่ลั่น ใครๆ ไม่ได้ยินเสียงข้อต่อ
อนึ่ง พระสุคตทั้งหลายเมื่อเสด็จดำเนินไป ย่อมไม่รีบร้อน ทรงก้าวพระบาทเบื้องขวาก่อน เป็นผู้ไม่หวาดกลัว ไม่ทรงยกพระองค์และไม่ทรงข่มขี่ผู้อื่น ทรงหลุดพ้นจากการถือตัวและการดูหมิ่น เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้น ไฟนรกดับ มหาเมฆยังฝนให้ตก นี้เป็นธรรมดาของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย"
ศิษย์ทุกคนเป็นผู้มีความเคารพ ชื่นชมถ้อยคำของเรา พากันบูชาพระเจดีย์ทราย ในกาลนั้น เทพบุตรผู้มียศใหญ่ จุติจากชั้นดุสิต บังเกิดในพระครรภ์ของพระมารดา หมื่นโลกธาตุหวั่นไหว เรายืนอยู่ในที่จงกรมไม่ไกลอาศรม ศิษย์ทุกคนได้มาประชุมพร้อมกันในสำนักของเรา ถามว่า แผ่นดินบันลือลั่นจักมีผลเป็นอย่างไร ?
เราตอบว่า "พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดที่เราประกาศ ณ ที่ใกล้พระเจดีย์ทราย บัดนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น เสด็จลงสู่พระครรภ์พระมารดาแล้ว" เราแสดงธรรมแก่พวกศิษย์เหล่านั้นแล้วกล่าวสดุดีพระมหามุนีและนั่งขัดสมาธิ เราเป็นผู้สิ้นกำลังเพราะป่วย ระลึกถึงพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐสุดแล้ว เสียชีวิต ณ ที่นั้นเอง
เราได้อยู่ในเทวโลกถึง 18 กัป ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 500 ครั้ง และได้เสวยราชสมบัติในเทวโลกเกิน100 ครั้ง ในกัปที่เหลือ เราท่องเที่ยวไปอย่างสับสน แต่ก็ไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการก่อเจดีย์ทราย เราตัดกิเลสเครื่องผูกดังช้างตัดเชือกแล้ว ในกัปที่แสนแต่กัปนี้เราได้สรรเสริญพระพุทธเจ้าใด ด้วยการสรรเสริญนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย (คือไม่ไปทุคติ ได้แก่ ไม่ไปนรก ไม่ไปเกิดเป็นเปรต อสุรกาย และสัตว์ดิรัจฉาน) เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว กิจในพระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว
คำอธิบาย และแหล่งอ้างอิง
1. ในแต่สมัยความรู้เรื่องพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น ลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ และพระพุทธคุณ ฯลฯ มีการสืบทอดส่งต่อกันไป บ้างก็ผูกไว้ในบทมนต์ของดาบสและพราหมณ์ทั้งหลาย เมื่อพระพุทธองค์ยังไม่เสด็จอุบัติขึ้น ผู้หวังความหลุดพ้นจะออกบวชเป็นนักบวชนอกพระพุทธศาสนาก่อน เช่น เป็นฤาษี เป็นดาบส ฯลฯ นักบวชเหล่านี้จะฝึกสมาธิอยู่ในป่า บางคนก็ได้ฌานจึงล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆได้ แต่ไม่อาจบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคลได้ ต้องรอฟังธรรมจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น
2. พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฎราชวิทยาลัย เล่ม 72 หน้า 131 - 137
--------------------------------------
ขอบคุณ FB.พระมหาสมคิด ชยาภิรโต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น