07 พฤษภาคม 2563

กรรมจากเศษทองล้นเบ้าในการหล่อพระ


.....เวลามีงานหล่อพระพุทธรูปไม่ว่าที่ไหน สมัยนี้ยุคนี้เมื่อหล่อเสร็จมักจะมีทองล้นเบ้าออกมาตกตามพื้น ผู้ที่ศรัทธาทั้งหลายมักจะแย่งกันเก็บเอาไปเป็นที่ระลึกบ้างเป็นของมงคลกับตัวบ้าง  แต่หารู้ไม่ว่าท่านกำลังสะสมกรรมหนักให้กับตัวท่านเองโดยไม่รู้ตัว

.....เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับผู้ชายคนหนึ่ง ชายท่านนี้มีอันจะกินมากท่านหนึ่ง แต่เมื่อเรียนจบปริญญาตรีออกมาทำงานเป็นวิศวะการได้ 1 ปี กลับเกิดโรคประหลาดขึ้นกับตัว คือเมื่อถึงวันพระวันโกนจะเกิดผื่นคันขึ้นตามเนื้อตามตัวและปวดแสบแวดร้อนเป็นอย่างมาก หาหมอเก่งๆเรื่องโรคผิวหนังรักษาก็ไม่หาย เมื่อผ่านวันพระไปอีกสองสามวันก็จะยุบหายไปเอง

    เมื่อสิ้นทางรักษาให้หายได้ ด้วยชายท่านนี้เป็นคนที่เชื่อเรื่องเวรกรรมจึงคิดไปเจริญพระกรรมฐาน  เพราะเชื่อว่าโรคที่เป็นอยู่นี้เกิดแต่กรรมเวรแน่นอน
จึงตัดสินใจไปเข้ากรรมฐาน 15 วัน 

    เขาเล่าว่า15 วันที่อยู่ในวัด  เข้ากรรมฐานไม่มีอาการใดๆเกิดขึ้นเลย 
เขาจึงคิดว่าพ้นกรรมแล้ว เมื่อลากรรมฐานออกมาก็อุ่นใจว่าคงไม่เป็นแล้ว 

    ปรากฏว่าหลังจากออกกรรมฐานมาทำงานปกติเมื่อถึงวันพระกลับมีอาการดังเดิมและปวดแสบแวดร้อนมากกว่าเดิม แต่ยังเชื่อมั่นในบุญกุศลเพราะคิดถึงว่าตอบเข้ากรรมฐานอยู่วัดไม่มีอาการแสดงว่าบุญช่วยได้จริง  จึงตัดสินใจลาที่งานขอไปปฏิบัติธรรม1เดือนโดยไม่รับเงินเดือน

    หลังจากนั้นก็ไปเข้ากรรมฐานจริงจัง และความอัศจรรย์ก็บังเกิดในวันที่ 20 ของการปฏิบัติ  เขาเล่าว่าตอนเข้ากรรมฐานช่วงเย็นเกิดแสงวาบและได้เห็นนิมิตตัวเองนั้นเป็นช่างหล่อพระ คุมลูกน้องหลายคนช่วยกันหล่อพระพุทธรูปที่วัด  แต่เมื่อหล่อเสร็จในนิมิตเห็นตัวท่านตามเก็บทองล้นเบ้าใส่ย่ามไว้ แล้วเอามาใส่โอ่งขนาดเล็กสะสมไว้โดยคิดว่าสักวันวัดไหนไม่มีทองหล่อพระจะเอาไปถวาย  แต่ปรากฎว่าตัวเองนั้นตายเสียก่อนไม่ได้นำทองนั้นไปหล่อพระตามเจตนา  กรรมส่วนนี้จึงส่งผลให้เขาต้องตกนรกด้วยกรรมขโมยของสงฆ์โดยไม่รู้ตัวอยู่นาน  ก่อนจะมาเกิดในชาตินี้ แต่อาศัยชอบทำทานจึงส่งผลให้มาเกิดในครอบครัวมีอันจะกินไม่ลำบาก และด้วยเศษกรรมที่เก็บทองล้นเบ้ามาเก็บไว้ยังส่งผลข้ามภพข้ามชาติมาถึงปัจจุบันให้เป็นโรคผิวหนังที่ต้องมาปวดแสบปวดร้อนนั่นเอง 

    และในนิมิตเดียวกันนั่นเอง ก็ได้มีพระองค์หนึ่งมาบอกให้ชำระหนี้สงฆ์เสีย แล้วหล่อพระพุทธรูปขนาดเท่าหน้าตักตัวเองถวายชำระหนี้สงฆ์ก็จะหายได้ พอพระพูดจบเสียงนาฬิกาเตือนครบกำหนดการเจริญพระกรรมฐานพอดี ท่านจึงพิจารณาถึงนิมิตที่เกิดขึ้นนั้นทันที

.....เมื่อกลับบ้านก็รีบบอกพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนิมิต จึงได้ชักชวนกันหล่อพระพุทธรูปตามนิมิตกรรมฐาน และก็เกิดเหตุอัศจรรย์เมื่อได้ถวายพระพุทธรูปแล้วตามเจตนา โรคผิวหนังที่สุดแสนทรมานนั้นก็ไม่ปรากฏขึ้นอีกเลย

....จึงเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้คิด  ก่อนท่านจะเก็บเศษทองล้นเบ้าหรืออะไรที่เป็นของสงฆ์  ให้พึงระลึกเสียก่อนว่า  

"เอาของสงฆ์ หรือติดหนี้สงฆ์กรรมหนัก" 

ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม จงอย่าได้เก็บมาเป็นของส่วนตัวเลยเพราะเมื่อกรรมมาเยือนแล้วมันช่างทรมานยิ่งนัก รวมไปจนถึงการใช้ของของสงฆ์ ตั้งแต่พระไปจนถึงฆาราวาส ของๆสงฆ์คือของที่ผู้ให้ ให้ด้วยศรัทธา ให้ด้วยใจบริสุทธิ์ จึงเป็นของที่บริสุทธิ์ หากใช้แล้วปฏิบัติตนให้บริสุทธิ์ ใช้โดยไม่ให้เกิดความคุ้มค่า ใช้ผิดจุดประสงค์ นั่นแหล่ะทางแห่งหายนะ

  วกกลับมาเรื่องเศษทองล้นเบ้าต่อ จริงๆแล้วของพวกนี้ เป็นแค่ขวัญกำลังใจในการทำดีเท่านั้น ไม่ได้อยู่ในคำสอนพระพุทธองค์เลย บุญกุศลจริงๆที่ติดข้ามภพข้ามชาติไม่ใช่สิ่งของนะจ๊ะ แต่เป็นบุญภายใน ที่มาจากผลของทาน ศีล และภาวนา ที่เป็นบุญที่พระพุทธองค์ท่านทรงถ่ายทอดไว้เป็นแนวทางปฏิบัติแด่บรรดาลูกหลานของพระองค์  ขอให้ใส่กันในเรื่องนี้ให้มากๆ จะได้ไม่เสียเวลาที่ได้เกิดมาเป็นชาวพุทธ 

ศิษย์พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม(วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี)

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...