เราเลือกได้ตอนเป็นมนุษย์นี่เหละนะ
ว่าจะไป นรก (ทุคติภูมิ) เสวยความเจ็บปวดเผ็ดร้อนทุกข์ทรมาน อย่างยาวนาน หรือจะไป สวรรค์ (สุคติภูมิ) เสวยความสุข เบาสบาย อย่างยาวนาน
นรกคือที่ไปของคนที่ ทำแต่ความชั่ว ไม่เกรงกลัวต่อบาป จิตใจต่ำ
สวรรค์ คือที่ไป ของมนุษย์ ผู้ทำแต่ความดี จิตใจสูง
ครั้งหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ทรงช้อนดินเล็กน้อย ไว้ในปลายเล็บของพระองค์ แล้วตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมา ตรัสถามว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจะคิดเห็นเป็นไฉน ระหว่างดินเล็กน้อย ที่เราได้ช้อนขึ้นไว้ในปลายเล็บของเรา กับดินในแผ่นดินใหญ่ในมหามหาปฐพี ที่เธอเห็นนี้ อันไหนจะมากกว่ากัน
ภิกษุทั้งหลายกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ดินในแผ่นดินใหญ่นี้ มีมากกว่าดินเล็กน้อย ที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงช้อนไว้ในปลายเล็บ อย่างเทียบกันไม่ได้เลย แม้เพียงส่วนเสี้ยวก็ตาม พระเจ้าข้า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันใด สัตว์ที่ตายแล้วกลับมาเกิดในหมู่มนุษย์อีกมีน้อยมาก ซึ่งเทียบเท่ากับดินที่อยู่บนปลายเล็บของตถาคต
ส่วนใหญ่หมู่สัตว์ทั้งหลาย เกิดมาแล้วก็ก่อการเบียดเบียน สร้างความทุกข์ กาย ทุกข์ใจ ต่อตัวเองและ ผู้อื่น ไม่ชำระล้างจิตใจของตนเอง ไม่เข้าถึงพระสัทธรรม ขาดสติสัมปชัญญะ
เมื่อเราเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วตั้งแต่เกิดจนตาย
สิ่งที่ดีก็ตาม สิ่งที่ไม่ดีก็ตาม ความสุข ความทุกข์
ดีใจ เสียใจ คับแค้นใจ อึดอัดใจ ความผูกโกรธ จองเวร ความพยาบาท อาฆาต ความมุ่งร้าย สร้างความสุข สร้างความทุกข์ กาย ใจ ให้ตนเอง และ ผู้อื่น มันถูกบันทึกไว้ในจิตใจของเรานะ เหมือนเมมโมรี่
ถ้าเราก่อการเบียดเบียน ทำให้ตนเอง และ ผู้อื่น เดือดร้อน ทุกข์กาย ทุกข์ใจ ก็เท่ากับว่าเราบันทึกสิ่งที่ไม่ดี เป็นพลังงานมืด เพิ่มความหนักให้กับตนเอง ยิ่งทำมากขึ้นทุกวันโดยขาดสติ จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปีๆ สะสมความหนักขึ้นไปเรื่อยๆ สุดท้ายเมื่อถึงเวลาสิ่งที่ตัวเองได้ทำสั่งสมมา มันให้ผล ก็จะเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ยิ่งเจ็บปวดทุกข์ทรมาน ก็ยิ่งเพิ่มความหนักให้กับตนเองขึ้นไปเรื่อยๆ จนตายไปกับความหนักของตัวเอง เมื่อจิตออกจากร่าง ก็จมดิ่งๆๆๆ ลงไปเรื่อย ตามความหนักที่ตัวเองได้ทำไว้ ไปเป็นเปรตบ้างนะ อสูรกายบ้างนะ สัตว์เดรัจฉานทั้งหลายบ้างนะ ยิ่งทำกรรมกับพระพุทธศาสนาก็ยิ่งหนักมากนะ ลงไปสู่โลกันตนรก เสวยความเผ็ดร้อนอย่างยาวนาน กว่าจะได้ลอยขึ้นมานะ ท่านทั้งหลายลองคิดดู
ตรงกันข้ามผู้ที่ทำแต่ความดี ชำระล้างจิตใจของตนเองอยู่ตลอด จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี มีสติตั้งมั่น มีศีลธรรมประจำใจ ไม่ทำให้ตนเองและ ผู้อื่นเดือดร้อน ไม่เพิ่มความหนักให้กับตนเอง สร้างแต่เหตุที่ดี ก็จะเป็นการเพิ่มพลังงานที่บริสุทธิ์ ให้กับตนเอง เมื่อตายจากมนุษย์ จิตก็จะลอยขึ้น ตามความเบาของจิตก่อนออกจากร่าง ยิ่งเบามากเท่าไหร่ ชำระล้างจิตใจตนเอง ตอนเป็นมนุษย์มามากเท่าไหร่ ก็จะลอยขึ้นสูงเท่านั้น ไปสู่ สุคติภูมิ
โลกสวรรค์ ตามลำดับชั้นต่างๆ
และ ผู้ที่เข้าถึงพระสัทธรรม รู้แจ้งอริยสัจ 4
ก้าวเดินบนเส้นทางที่ถูกต้อง ตามคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า ก็จะมีโอกาส ชำรำล้าง บาป และ อกุศลกรรม จนหมดสิ้นไปได้ เข้าถึงอมตะธรรม จนหลุดพ้นจากกองทุกข์ คือ พระนิพพาน ไม่ต้องกลับมาเวียนเกิด เวียนตายอีก
•ท่านทั้งหลายเลือกได้ ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ ขณะนี้
ปัจจุบันนี้ ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ รีบตัดสินใจ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้เลือก • ขอฝากไว้เท่านี้
#ร่วมเป็นสะพานธรรมเผยแพร่ธรรมะ
#เพื่อเตือนสติเพื่อนมนุษย์ร่วมกัน
บรรยายธรรม และ เรียบเรียงธรรมะ โดย
เจ้าสัว ทีมงาน อมตะธรรม ประเทศไทย
และ ( อมตะธรรม หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ )
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น