29 พฤศจิกายน 2563

#ภัทเทกรัตตสูตร

.
🌾สมัยสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จประทับ
ที่พระเชตวนาราม กรุงสาวัตถี ได้ตรัส
ภัทเทรัตตสูตรแก่ภิกษุทั้งหลายว่า
.
🌾ผู้มีปัญญา ไม่ควรให้สิ่งล่วงไปแล้วมาตาม
ไม่ควรหวังสิ่งซึ่งยังมาไม่ถึง เพราะว่าสิ่งใด
ล่วงพ้นไปแล้ว สิ่งนั้นอันเราละเสียแล้ว
อนึ่งสิ่งใดซึ่งไม่มาถึงเล่า สิ่งนั้นยังไม่มาถึง
เพราะฉะนั้นผู้มีปัญญาจึงไม่ควรให้สิ่งซึ่งล่วง
ไปแล้วมาตาม ไม่ควรหวังสิ่งซึ่งไม่มาถึง
ก็ผู้มีปัญญาได้มาเห็นธรรม ซึ่งเป็นปัจจุบัน
เกิดขึ้นจำเพาะหน้าแจ้งชัดอยู่ในที่นั้นๆ
ความเห็นแจ้งธรรมซึ่งปัจจุบันของท่านนั้น
ไม่ง่อนแง่น ไม่กำเริบด้วยดี ผู้มีปัญญาอันมา
ได้ความเห็นแจ้งในธรรมซึ่งเป็นปัจจุบัน
อันไม่ง่อนแง่นและไม่กำเริบด้วยดีแล้ว
ควรเจริญความเห็นนั้นไว้เนืองๆ ความเพียร
เผากิเลสให้เร่าร้อนอันผู้มีปัญญาควรรีบทำ
เสียในวันนี้ทีเดียว ใครจะพึงรู้ว่าความตาย
จักมีในวันพรุ่งนี้ เพราะว่าความหน่วงเหนี่ยว
ความผูกพันกับด้วยมฤตยูความตายซึ่งมี
เสนาใหญ่นั้นไม่ได้เลย
.
🌾เพราะฉะนั้นความเพียรเผากิเลสให้เร่าร้อน
อันผู้มีปัญญาควรทำเสียในวันนี้ทีเดียว
นักปราชญ์ผู้สงบระงับย่อมกล่าวสรรเสริญผู้มีปัญญาซึ่งมีธรรมเป็นเครื่องอยู่ มีความเพียร
เผากิเลสให้เร่าร้อน ไม่เกียจคร้าน ขยันหมั่น
เพียร ทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างนี้ผู้นั้นแล
ว่าผู้มีราตรีเดียวเจริญดังนี้ เมื่อตรัสอุเทศนี้
จบแล้ว จึงตรัสวิภังค์ต่อไปว่า
.
🌾ภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลให้สิ่งซึ่งล่วงไป
แล้วมาตามอยู่เป็นไฉน? บุคคลมาคิดว่า ณ
กาลล่วงไปแล้วเมื่อก่อน เราได้เป็นผู้มีรูป
เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณอย่างนี้ๆ
นำความเพลิดเพลินในขันธ์ มีรูปขันธ์เป็นต้น
ซึ่งล่วงไปแล้วนั้นมาตามอยู่ ภิกษุทั้งหลาย
อย่างนี้แล ชื่อว่าบุคคลให้สิ่งซึ่งล่วงไปแล้วมาตามอยู่
.
🌾ภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลไม่ให้สิ่งซึ่งล่วงไปแล้วมาตามอยู่เป็นไฉน? บุคคลมาคิดว่า ณ
กาลไกลล่วงไปแล้วเราได้เป็นผู้มีรูป เวทนา
สัญญา สังขาร วิญญาณอย่างนี้ๆ แล้วไม่นำ
ความเพลิดเพลินในขันธ์ มีรูปขันธ์เป็นต้น
ซึ่งล่วงไปแล้วนั้นมาตามอยู่ ภิกษุทั้งหลาย
อย่างนี้แล ชื่อว่าบุคคลไม่ให้สิ่งซึ่งล่วงไป
แล้วนั้นมาตามอยู่ ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้แล
ชื่อว่าบุคคลไม่ให้สิ่งซึ่งล่วงแล้วตามอยู่
เบื้องหน้าไม่ปรารถนา ไม่ให้ตามอยู่ และปัจจุบัน
ก็ไม่ให้มาตามอยู่ ไม่ถือว่าเราว่าเขา ชื่อว่า
ไม่ง่อนแง่นอยู่ในธรรมทั้งหลาย 
.
🌾พระอริยสาวกและสัตบุรุษท่านไม่ตามเห็นว่า
รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ โดยความ
เป็นตัวตนบ้าง ไม่ตามเห็นรูป เวทนา สัญญา
สังขาร วิญญาณในตัวตนบ้าง ไม่เห็นตัวตน
ในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณบ้าง
ภิกษุทั้งหลายอย่างนี้แล ชื่อว่า บุคคลไม่ง่อน
แง่นอยู่ในธรรมทั้งหลายซึ่งเกิดขึ้นจำเพาะ
หน้าฉะนี้แล
.
• พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต •🌿🌾🌺

ขอบคุณ​ที่มา:
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=486206775579033&id=100025691432921

ไม่มีความคิดเห็น:

อริยสัจ 4 และมรรคแปด

ขอนอบน้อมแด่ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ห่างไกลจากกิเลสตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เองพระองค์นั้น พระผู้มีพระภาค ทรงตรัส...